[Asakura Saikou]

ผมเป็นคนนึงครับที่คิดว่ายุคก่อนมันใช่ว่าจะดี จริงๆมันมีความห่างชั้นมาตลอด เมต้ายังไงก็มีมาตั้งนาน
กลับกันคนที่ออกมาบ่น มันมีมาตั้งแต่ยุคแรกจนถึงตอนนี้นี่ล่ะ เพราะยังไงก็ไม่มีอะไรถูกใจคนทั้งหมด

แต่ถ้าพูดถึงความน่าเบื่อในตอนนี้ที่ชนะขาดสมัยก่อนก็คือ[ความหลากหลายและไม่ตายตัว]
ซึ่งคิดว่ามันเป็นการทำอย่างเสียอย่าง ทีมงานพยายามตีกรอบการ์ดให้ไม่หลุดกันเกินไปเลยมีtextคล้ายๆกันเหมือนทุกวันนี้ แต่ก็ได้มาเรื่องรูปแบบเกมที่ทำให้ไม่ต่างชั้นกันมาก

ผมคิดว่าทีมงานช่วงหลังก็น่าจะรับฟังความเห็นตลอดนะ แต่มันไม่ใช่เรื่องแบบว่า"บอกมาเลย ฉันจะทำให้ตามที่ขอและทุกอย่างมันจะออกมาดี" เพราะฝ่ายคนพูดจะบอกอะไรยังไงก็ไม่มีความเสี่ยงอยู่แล้ว จริงๆขออาสาสมัครซัก3คนในกระทู้นี้มาคุยปรับปรุงระบบผมว่ายังตกลงกันไม่ได้เลยมั้ง ในเมื่อมันเป็นความเห็นแบบที่บริษัทต้องรับความเสี่ยงไว้เองยังไงมันก็ต้องมีลิมิตในการรับฟัง

สุดท้ายนี้ผมคิดว่าปัจจัยที่ส่งผลต่อคนเล่นมากที่สุดคือ"สภาวะที่คนเล่นล้มหายแบบโดมิโน่"
คุณภาพสำคัญก็จริง แต่ผมว่าต่อให้มันเป็นการ์ดที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก ภาพสวยที่สุดในโลกแต่ก็ไม่ได้เกี่ยวว่าคนจะกลับมาเล่น ของแบบนี้พังแล้วสร้างใหม่ยาก ตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือ"อะไรบางอย่างที่มันIMPACTแบบกระแทกตาให้คนเห็นแล้วอดแชร์ให้เพื่อนดูไม่ได้" ไม่ว่าจะเป็นระบบใหม่ ชุดใหม่ หรือเกมใหม่เลยก็แล้วแต่

แวะเวียนบอร์ดเพื่อมาอ่านกระทู้นี้อย่างเดียวเหมือนกัน

[Brionac]

แต่ถ้าพูดถึงความน่าเบื่อในตอนนี้ที่ชนะขาดสมัยก่อนก็คือ[ความหลากหลายและไม่ตายตัว]

^^^^^^^^

ผมไม่เข้าใจตรงนี้จิงๆคับ ความหลายกหลาย มันทำให้เกมน่าเบื่อเหรอ

รบกวนอธิบายเพิ่มได้ไหม

_____

อ่า เข้าใจแล้วคับ

[Asakura Saikou]

เปล่าครับ มันสนุก จริงๆผมควรขึ้นแบบนี้จะได้ไม่สับสันขออภัย พอดีพิมพ์แล้วปรับปรุงประโยคให้กระชับหลายรอบ

แต่ถ้าพูดถึงความน่าเบื่อในตอนนี้ที่ชนะขาดสมัยก่อนก็คือ[ความหลากหลายและไม่ตายตัว] ที่เมื่อก่อนมี แต่ตอนนี้กลับมีไม่เท่าเมื่อก่อน

อย่างตอนนี้ต้องยอมรับว่าถ้าจะดันการ์ดเด็คๆนึงถ้าไม่มีตัวลงมาลาก หาของ ให้textที่ทำให้เวลาตีแล้วรู้สึกกดดันอีกฝ่ายได้จะทำให้เกิดยาก (+พลัง -พลัง กันสวน ข้ามไลน์ ฯลฯ) ซึ่งเมื่อก่อนมันไม่ได้เป็นแบบนี้เลย การ์ดที่ลงมาลากได้นี่ยุคแรกๆกว่าจะมีก็Unicorn M1 M2 หลังจากนั้นก็มีคอมโบลากเพื่อนแต่ละเด็คแต่ก็รู้สึกไม่จำเจและสำเร็จรูปเท่าทุกวันนี้

[dragons]

+1 เข้ามาทุกวันเพื่ออ่านกระทู้นี้อีกคน

[Ultimate Kuuga]

ผมเริ่มเล่นมาตั้งแต่ยุค Ek. ปัจจุบันเล่นปีละ 1-2 ครั้งที่มีวันหยุดยาว ความเห็นส่วนตัวจากที่เคยจะชวนคนเข้ามาเล่นเวลามีคน

สนใจถามว่านี่คืออะไรเล่นยังไง ประโยคแรก ๆ ที่ผมจะพูดออกไปเป็นอัตโนมัติเลย คือ "สนใจเหรอถ้าอยากเล่นได้เดี๋ยวสอนให้

แต่มันเล่นยากหน่อยนะมาเริ่มเล่นยุคนี้ต้องใจรักหน่อยนะจะง่ายหน่อย...." (ยุคนี้หมายถึงยุคที่ปรับเบสแล้วมีพวก

การ์ดมิสฯ ลากโน่น เรียกนี่เต็มไปหมด) มันทำให้ผมตระหนักเลยว่า "โอ๋...การ์ดที่เรารักและอยากให้มีคนเล่นเยอะ ๆ กลายเป็น

ของเล่นยากไปซะแล้ว" การ์ดญี่ปุ่นจากที่สัมผัสมาบ้างสำหรับผมมีอุปสรรคเดียว คือ อ่านภาษามันไม่ออก แปลไม่รู้เรื่อง ขี้เกียจ

จำความสามารถการ์ด แต่ step การเล่นของเค้านั้นผมรู้และจำได้ง่ายมากแป๊บเดียวเท่านั้นไม่เกิน 20 นาที เล่นเป็น แต่ SMN

ภาษาไทยแท้ ๆ ทำไมมันสอนกันยากแท้หนา (ส่วนตัวผมใช้เวลานานกว่า 20 นาทีกว่าจะเป็น) พอผมมาประมวลเป็นส่วนตัวเอง

นะที่ยากของ SMN คือ Interfere Step, ความ

สามารถภาษาไทยที่ "ต้องแปลไทยเป็นไทย" อีกทีหนึ่ง ซึ่งอันหลังช่วงที่ผมเล่นอยู่เถียงกับน้อง

บ่อย ๆ เพราะมันไม่ได้ไปเล่นข้างนอก พอเจอ step ที่เค้าเล่น ๆ กันไปนี่งงหาว่าโกง โดยการตีความภาษาไทยที่ไม่เหมือน

กัน ทุกวันนี้ผมไม่ค่อยได้ติดตามแต่เชื่อว่าใน Book Caller จะต้องมีคำถามที่ยังคงเกี่ยวกับการแปลไทยเป็นไทยอีกแน่นอน

ไม่มีใครรู้ว่าวิธีการไหนที่จะทำให้ SMN กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ไม่มีใครการันตีได้ว่าการล้างกระดาน การตกไทป์ การออก

ตัวใหม่ อะไรใหม่ ๆ จะทำให้ประสบความสำเร็จ แต่สิ่งหนึ่งที่มุมมองผมว่าน่าจะดี น่าจะ work (ไม่รู้ว่าทำอยู่แล้วหรือเปล่า)

คือ การที่ผู้บริหารต้องเดินลงมาที่ร้านค้าและผู้เล่นอย่างสม่ำเสมอเหมือนกับตอนแรกที่เป็นตัว SMN ผมยังจำคำพูดของแม่ค้า

ท่านหนึ่งได้ดีตอนที่เป็นตัวครั้งแรก ๆ เจ้าของเดินมาเยี่ยมเยียนร้านค้าประจำ แถมเจ้าของร้านชื่นชมพี่ปอด้วย หาทางออกกับ

ผู้ค้าซึ่งเป็นเสมือนหุ้นส่วนที่ดีในการช่วยผลักดันสินค้าไปสู่เด็ก ๆ พูดคุยกับผู้เล่นที่ยังเล่นอยู่ซึ่งผมถึอว่ากลุ่มนี้เป็นแฟนพันธุ์

แท้เลยนะที่ยังเล่นอยู่

สุดท้ายมันเป็นเพียงแค่มุมมองของผมเท่านั้นหากมันจะพอมีประโยชน์อันใดบ้างก็อยากจะนำเสนอ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ประทับ

ใจ SMN มากกว่าการ์ดอื่นและเอาใจช่วยให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหนึ่ง

ปล.เข้ามาอ่านกระทู้นี้เหมือนกันครับ

[Bunsanoe1]

ผมเริ่มเล่นมาตั้งแต่ยุค Ek. ปัจจุบันเล่นปีละ 1-2 ครั้งที่มีวันหยุดยาว ความเห็นส่วนตัวจากที่เคยจะชวนคนเข้ามาเล่นเวลามีคน

สนใจถามว่านี่คืออะไรเล่นยังไง ประโยคแรก ๆ ที่ผมจะพูดออกไปเป็นอัตโนมัติเลย คือ "สนใจเหรอถ้าอยากเล่นได้เดี๋ยวสอนให้

แต่มันเล่นยากหน่อยนะมาเริ่มเล่นยุคนี้ต้องใจรักหน่อยนะจะง่ายหน่อย...." (ยุคนี้หมายถึงยุคที่ปรับเบสแล้วมีพวก

การ์ดมิสฯ ลากโน่น เรียกนี่เต็มไปหมด) มันทำให้ผมตระหนักเลยว่า "โอ๋...การ์ดที่เรารักและอยากให้มีคนเล่นเยอะ ๆ กลายเป็น

ของเล่นยากไปซะแล้ว" การ์ดญี่ปุ่นจากที่สัมผัสมาบ้างสำหรับผมมีอุปสรรคเดียว คือ อ่านภาษามันไม่ออก แปลไม่รู้เรื่อง ขี้เกียจ

จำความสามารถการ์ด แต่ step การเล่นของเค้านั้นผมรู้และจำได้ง่ายมากแป๊บเดียวเท่านั้นไม่เกิน 20 นาที เล่นเป็น แต่ SMN

ภาษาไทยแท้ ๆ ทำไมมันสอนกันยากแท้หนา (ส่วนตัวผมใช้เวลานานกว่า 20 นาทีกว่าจะเป็น) พอผมมาประมวลเป็นส่วนตัวเอง

นะที่ยากของ SMN คือ Interfere Step, ความ

สามารถภาษาไทยที่ "ต้องแปลไทยเป็นไทย" อีกทีหนึ่ง ซึ่งอันหลังช่วงที่ผมเล่นอยู่เถียงกับน้อง

บ่อย ๆ เพราะมันไม่ได้ไปเล่นข้างนอก พอเจอ step ที่เค้าเล่น ๆ กันไปนี่งงหาว่าโกง โดยการตีความภาษาไทยที่ไม่เหมือน

กัน ทุกวันนี้ผมไม่ค่อยได้ติดตามแต่เชื่อว่าใน Book Caller จะต้องมีคำถามที่ยังคงเกี่ยวกับการแปลไทยเป็นไทยอีกแน่นอน

ไม่มีใครรู้ว่าวิธีการไหนที่จะทำให้ SMN กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ไม่มีใครการันตีได้ว่าการล้างกระดาน การตกไทป์ การออก

ตัวใหม่ อะไรใหม่ ๆ จะทำให้ประสบความสำเร็จ แต่สิ่งหนึ่งที่มุมมองผมว่าน่าจะดี น่าจะ work (ไม่รู้ว่าทำอยู่แล้วหรือเปล่า)

คือ การที่ผู้บริหารต้องเดินลงมาที่ร้านค้าและผู้เล่นอย่างสม่ำเสมอเหมือนกับตอนแรกที่เป็นตัว SMN ผมยังจำคำพูดของแม่ค้า

ท่านหนึ่งได้ดีตอนที่เป็นตัวครั้งแรก ๆ เจ้าของเดินมาเยี่ยมเยียนร้านค้าประจำ แถมเจ้าของร้านชื่นชมพี่ปอด้วย หาทางออกกับ

ผู้ค้าซึ่งเป็นเสมือนหุ้นส่วนที่ดีในการช่วยผลักดันสินค้าไปสู่เด็ก ๆ พูดคุยกับผู้เล่นที่ยังเล่นอยู่ซึ่งผมถึอว่ากลุ่มนี้เป็นแฟนพันธุ์

แท้เลยนะที่ยังเล่นอยู่

สุดท้ายมันเป็นเพียงแค่มุมมองของผมเท่านั้นหากมันจะพอมีประโยชน์อันใดบ้างก็อยากจะนำเสนอ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ประทับ

ใจ SMN มากกว่าการ์ดอื่นและเอาใจช่วยให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหนึ่ง

ปล.เข้ามาอ่านกระทู้นี้เหมือนกันครับ

เห็นด้วยกับข้อความที่ว่า

"การที่ผู้บริหารต้องเดินลงมาที่ร้านค้าและผู้เล่นอย่างสม่ำเสมอเหมือนกับตอนแรกที่เป็นตัว SMN ผมยังจำคำพูดของแม่ค้า

ท่านหนึ่งได้ดีตอนที่เป็นตัวครั้งแรก ๆ เจ้าของเดินมาเยี่ยมเยียนร้านค้าประจำ แถมเจ้าของร้านชื่นชมพี่ปอด้วย หาทางออกกับ

ผู้ค้าซึ่งเป็นเสมือนหุ้นส่วนที่ดีในการช่วยผลักดันสินค้าไปสู่เด็ก ๆ พูดคุยกับผู้เล่นที่ยังเล่นอยู่ซึ่งผมถึอว่ากลุ่มนี้เป็นแฟนพันธุ์

แท้เลยนะที่ยังเล่นอยู่"

[maze]

ผมยังยืนยันคำเดิม และก็คงยืนยันตลอดไป ถึงคำถามที่ว่าทำไมเด็กใหม่ถึงน้อยว่า ซัมไม่ได้ทำการ์ดออกมาเพื่อซัพกับผู้เล่นใหม่เลย ไม่ว่าจะเรื่องความซับซ้อน หรือความน่าเบื่อในการเล่น

เวลาเดินร้านการ์ดถามว่าเห็นผู้เล่นใหม่ที่จะเข้ามาเล่นไหม บอกจริงๆเลยว่าเห็นเป็นระยะๆ คือสัปดาห์สองสัปดาห์ยังไงก็ต้องเห็นคนใหม่เข้ามาถามหาซัม แต่ถามว่าผู้เล่นใหม่ในร้อยคนนั่นนะ เหลือเล่นจริงๆจังๆกี่คน ถึง 5 คนป่าวยังไม่รู้เลย อย่างที่บอกเจอสเต็ปเทพ สเต็ปลับถล่ม แถมการ์ดที่มีก็เล่นไม่ค่อยถูกไม่นานก็เลิกแล้ว การแก้ปัญหาแค่ออก starter (ตอนนี้คงเรียกด้วยคำนี้ไม่ได้แล้วด้วยมั้ง ควรเรียกว่า special deck) ใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ มันก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้องเลย แต่จะทำยังไงให้สามารถออกการ์ดใหม่ให้ไม่ยากเกินไป ไม่เก่งเกินของเก่า และไม่ห่วยกว่าของเก่ามาก โดยมีเงื่อนไขว่าของเก่าต้องใช้ได้แทบจะทุกใบ บอกตรงๆว่าผมยังมองไม่ออกเหมือนกัน และเชื่อว่าให้ richard garfield ยก R&D ของเขามาทั้งทีมภายใต้เงื่อนไขนี้ก็ทำไม่ได้

ทุกวันนี้ถามว่าทีมงานรู้ปัญหาไหม ผมมั่นใจว่ารู้แน่นอน แต่วิธีแก้ปัญหามันเหมือนแก้เฉพาะหน้าไปเป็นเปลาะๆ อันนี้แรงก็แบนหรือไม่ก็ดักทางมันซะ อยากขุนตัวนี้ก็ออกป๋าดันมาชนิดตูมเดียวเป็นเมต้าเลย แต่ยังไม่กล้า หรือไม่สามารถแตะลงปัญหาที่แท้จริงได้สักที

ส่วนเรื่องประเด็นร้านค้า หึหึ ผมไม่อยากพูดเลยอะ คือได้ยินได้ฟังมานะแต่ว่า...

[SAROJ]

มาระลึกความหลัง ส่องกระทู้

[Onizuka]

มาระลึกความหลัง ส่องกระทู้

คิดถึงอะดิ

[Piya]

เข้ามาอ่าน

[SAROJ]

หายไปจะ4ปีแล้วมั้ง เร็วแท้ๆ ยังมีแข่งGT อยู่ป่าวน้อ อิอิ

[miiw]

กลับมาเล่นตอนนี้ทันมั้ยฮัพ งบน้อย มีโครง simone ที่ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปสู้กับคนอื่น ห่างหายไป3ปี

[bankthe13x]

ตามอ่านอีกคน

[Octopus]

บอกตรงๆว่าเลิกเล่นมาน่าจะเป็นปีแล้ว ยิ่งตอนนี้มีเกมการ์ด hearthstone ที่เล่นออนไลน์บนมือถือได้ออกมาตีตลาดอีก การ์ดจริงคนคงเล่นน้อยลง

[TiamaT]

ผมก็ดป็นผู้เล่นที่เริ่มเล่น ซัมม่อนในช่วงแรกๆ ซึ่งหลังๆมาที่ ไม่ค่อยได้เล่นนั้นมีหลายสาเหตุด้วยกัน
แต่หลักๆเลยก็คือ ความน่าเบื่อของการ์ดที่ทำออกมาคับ
ความสเถียรหายไป เด็คใหม่มาแต่ละที เด็คเก่าๆแทบไม่ต้องเล่นเลย
เพิ่งหาเก็บเด็คนี้ได้สมบูรณ์ ชุดใหม่มาอีกระ เสียตังอีกระ เพราะว่า เด็คเก่าเราสู้ไม่ได้
ใครมีทุนสูงก็เทพไป มีชัยไปกว่าครึ่ง น่าเบื่อนะคับแบบนี้
เพื่อนๆที่เล่นในยุคเดียวกันก็คิดแบบนี้เช่นเดียวกัน มะก่อน เวล5 ATK10 เทพมาก
สมัยนี้เวล 1 ก็หวดเวล5 ตายละค๊าบ

[blackbook]

ผมว่าความครีเอทีพของการ์ดตอนนี้ลดลงเยอะมาก ตอนแต่ก่อนเทกการ์ดแต่ละใบอ่านแล้วมันชวนให้คิดต่อมากว่าจะไปคอมโบกับอะไร แต่การ์ดตอนนี้อ่านแล้วก็หมดอารมณ์คิดเด๊ก มันดูทื่อๆอะ เข้ามาเสิส ตีบวกแอทแล้วไง? เข้ามาร่ายฟรี แอทบวกให้เพื่อนแล้วไง? แอทบวกตามเพื่อน กันสวนแล้วไง? มันจบตรงนั้น มันเอาไปผสมอะไรไม่ได้เลย ก็แค่เอาไปรวมกับพวกมันแล้วก็ได้เป็นเด๊กที่สไตล์แทบเหมือนกันเด๊ะทุกเด๊ก

ผมชอบการเอา toxic โม่กองมาเล่นกับ lucratia ตีมูฟ การเอา nazae โม่เรียงมาเล่นกับ bakery girl เปิดกอง การเอา kyrie มามูฟ hi5 การเอาแฟรี่ลบ df มาลบ df princess garuda มันเก่งกว่าการ์ดเก่ามากซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วฉนั้นตัดเรื่องการ์ดเก่าเก่งกว่าใหม่ได้เลย แต่ประเด็นคือมันเท่ มันครีเอท มันเป็นสไตล์ที่บ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของเด๊ก หลักการเดียวกันกับพวกเกมออนไลน์ที่ขายเสื้อผ้าเพื่อให้คนเล่นรู้สึกถึงอัตลักษณ์ของตัวเอง

ผมยังคงเชื่อว่าการ์ดเกมเป็นเรื่องของอิสระในการจัดเด๊ก ไม่ใช่อิสระในการควบคุมเด๊ก

[loveluca]

แค่คนที่มาตอบก็มีแต่หน้าเดิมๆตั้งแต่ยุคก่อนทั้งนั้นเลย 555

[dragons]

แค่คนที่มาตอบก็มีแต่หน้าเดิมๆตั้งแต่ยุคก่อนทั้งนั้นเลย 555

กลายพันธู์เป็นกระทู้รำลึกอดีต

[Yami]

ผมว่าความครีเอทีพของการ์ดตอนนี้ลดลงเยอะมาก ตอนแต่ก่อนเทกการ์ดแต่ละใบอ่านแล้วมันชวนให้คิดต่อมากว่าจะไปคอมโบกับอะไร แต่การ์ดตอนนี้อ่านแล้วก็หมดอารมณ์คิดเด๊ก มันดูทื่อๆอะ เข้ามาเสิส ตีบวกแอทแล้วไง? เข้ามาร่ายฟรี แอทบวกให้เพื่อนแล้วไง? แอทบวกตามเพื่อน กันสวนแล้วไง? มันจบตรงนั้น มันเอาไปผสมอะไรไม่ได้เลย ก็แค่เอาไปรวมกับพวกมันแล้วก็ได้เป็นเด๊กที่สไตล์แทบเหมือนกันเด๊ะทุกเด๊ก

ผมชอบการเอา toxic โม่กองมาเล่นกับ lucratia ตีมูฟ การเอา nazae โม่เรียงมาเล่นกับ bakery girl เปิดกอง การเอา kyrie มามูฟ hi5 การเอาแฟรี่ลบ df มาลบ df princess garuda มันเก่งกว่าการ์ดเก่ามากซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วฉนั้นตัดเรื่องการ์ดเก่าเก่งกว่าใหม่ได้เลย แต่ประเด็นคือมันเท่ มันครีเอท มันเป็นสไตล์ที่บ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของเด๊ก หลักการเดียวกันกับพวกเกมออนไลน์ที่ขายเสื้อผ้าเพื่อให้คนเล่นรู้สึกถึงอัตลักษณ์ของตัวเอง

ผมยังคงเชื่อว่าการ์ดเกมเป็นเรื่องของอิสระในการจัดเด๊ก ไม่ใช่อิสระในการควบคุมเด๊ก

คงจะกลัวว่าออกการ์ดที่ให้อิสระมากๆ มาแล้วจะมี คอมโบเทพ สเตปเทพ ที่ไม่พึงประสงค์อีกล่ะมั้ง

[kendejiz]

ผมว่าความครีเอทีพของการ์ดตอนนี้ลดลงเยอะมาก ตอนแต่ก่อนเทกการ์ดแต่ละใบอ่านแล้วมันชวนให้คิดต่อมากว่าจะไปคอมโบกับอะไร แต่การ์ดตอนนี้อ่านแล้วก็หมดอารมณ์คิดเด๊ก มันดูทื่อๆอะ เข้ามาเสิส ตีบวกแอทแล้วไง? เข้ามาร่ายฟรี แอทบวกให้เพื่อนแล้วไง? แอทบวกตามเพื่อน กันสวนแล้วไง? มันจบตรงนั้น มันเอาไปผสมอะไรไม่ได้เลย ก็แค่เอาไปรวมกับพวกมันแล้วก็ได้เป็นเด๊กที่สไตล์แทบเหมือนกันเด๊ะทุกเด๊ก

ผมชอบการเอา toxic โม่กองมาเล่นกับ lucratia ตีมูฟ การเอา nazae โม่เรียงมาเล่นกับ bakery girl เปิดกอง การเอา kyrie มามูฟ hi5 การเอาแฟรี่ลบ df มาลบ df princess garuda มันเก่งกว่าการ์ดเก่ามากซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วฉนั้นตัดเรื่องการ์ดเก่าเก่งกว่าใหม่ได้เลย แต่ประเด็นคือมันเท่ มันครีเอท มันเป็นสไตล์ที่บ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของเด๊ก หลักการเดียวกันกับพวกเกมออนไลน์ที่ขายเสื้อผ้าเพื่อให้คนเล่นรู้สึกถึงอัตลักษณ์ของตัวเอง

ผมยังคงเชื่อว่าการ์ดเกมเป็นเรื่องของอิสระในการจัดเด๊ก ไม่ใช่อิสระในการควบคุมเด๊ก

คงจะกลัวว่าออกการ์ดที่ให้อิสระมากๆ มาแล้วจะมี คอมโบเทพ สเตปเทพ ที่ไม่พึงประสงค์อีกล่ะมั้ง

ความสนุกในการจัดเดคที่ควรจะเป็นองค์ประกอบหลักของการ์ดเกมทุกตัวหายไปจริง ๆ นะครับ