[Administrator2]

งานนี้เราจะแจกให้คนละ 300 ออเรียสเลยทีเดียวเป็นกิจกรรมแรกฉลองเปิดบอร์ด

กติกาดังนี้

1. ให้แต่ละท่าน โพสรายละเอียดในเค้าเตอร์การ์ด ของพรีคอนที่เป็นตระกูลต่างๆ ของชุดพรีคอน เมอริเซียเฮอริเทจ
2. แต่ละท่านต้องโพสคนละ 1 พรีคอน และต้องให้ครบทุกใบในแต่ละพรีคอนนั้น โดยไม่จำเป็นต้องโพสเดคลิส เอาเฉพาะเนื้อเรื่อง
3. ในกรณีตระกูลไหนมี 2 พรีคอนขึ้นไป ก็นับเป็น คนละ พรีคอน
4. สำหรับท่านที่โพสซ้ำคนอื่น เราจะไม่ให้ออเรียสครับ

[♪The Nothing♪]

Merrisia Heriage
ในทวีปเมอร์ริเซียที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ประกอบด้วยอาณาจักรต่างๆ มากมายตลอดทั่วทั้งทวีป แต่ละอาณาจักรนั้นก็มีตระกูลต่างๆ ทั้งน้อยใหญ่ พร้อมกับเรื่องราวแบะประวัติศาสตร์ของแต่ละตระกูลที่ได้สร้างชื่อเสียงผ่านยุคต่างๆ จากรุ่นสู่รุ่น ในบรรดาตระกูลต่างๆ เหล่านั้น มีหลายตระกูลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญ และโดดเด่นต่ออาณาจักรที่ตนสังกัดอยู่ และนี่คือเรื่องราวของตระกูลชั้นแนวหน้าบางตระกูลที่ได้ถูกหยิบขึ้นมากล่าวถึง

Odilon
Momento
ตระกูลขุนนางชั้นแนวหน้าของ Annedisonge ตราประจำตระกูลมีสัญลักษณ์รูปนางเงือก ด้วยตำนานต้นตระกูลคือนางเงือกที่ได้มาอยู่กินกับมนุษย์และได้ถ่ายทอดพลังเวทย์วารีแบบเผ่าเงือกมากับสายเลือดในตระตูล ทำให้คนในตระกูลเป็นจอมเวทย์วารีที่มีความเก่งกาจกันหลายคน แม้เรื่องต้นตระกูลจะสืบต่อกันมานาน แต่ผมสีฟ้าน้ำทะเลที่จะปรากฏขึ้นในสมาชิกบางคนของตระกูล เป็นเหมือนอนุสรณ์แห่งความรักที่เงือกสาวที่รักมนุษย์สุดหัวใจ ทิ้งไว้กับลูกหลานของเธอได้จดจำมันไว้ตลอดกาล

Gerald Odilon
อัศวินผู้กล้าจากตระกูลOdilonผู้รับราชการเป็นอัศวินของ ประเทศ Annedisongeซึ่งเป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อยที่สามารถใช้ดาบน้ำแข็งแห่ง Annedisongeได้อย่างคล่องแคล่ว แต่เรื่องราวความรักของเขากับภรรยาสาวสวยผู้มีประวัติอันลึกลับ และหายไปในวันปลงศพของเขา กลับกลายเป็นตำนานแห่งสายเลือดเงือกที่ทำให้เรื่องราวของตระกูลนี้ถูกกล่าว ขานไม่จบสิ้น

Nicholas Odion,the Wiser
จอมเวทวารีผมสีฟ้า อัจฉริยะผู้ฉายแววพรสวรรค์มาตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อเติบใหญ่ขึ้นเขาสามารถก้าวขึ้นเป็นจอมเวทย์ชั้นแนวหน้าของAnnedisonge และได้มาซึ่งตำแหน่ง”The Wiser”หรือผู้ปราดเปรื่อง ตำแหน่งอันทรงเกรียติที่มอบให้กับจอมเวทย์ชั้นแนวหน้าผู้มากพร้อมด้วยความ สามารถเท่านั้น ตอกย้ำเรื่องราวของสายเลือดเงือกในตระกูลOdilonโดยมีผมสีฟ้าน้ำทะเลเป็น เครื่องบ่งบอกถึงสายเลือดเงือกในกายเขา

Alvira Odilon
จอมเวทย์ วารีแห่งตระกูลOdilonผู้เป็นธิดาคนสุดท้องของGeraldและElvira ทั้งAlvira และElviraมารดาของเธอมีสีผมเฉกเช่นคนธรรมดาทั่วๆไป จนวันที่Gerald ได้เสียชีวิตลง และElviraได้คืนร่างเดิมของเธอกลับลงมหาสมุทรAlviraก็กลับมีผมสีฟ้าน้ำทะเล ดั่งที่เคยมีมาตั้งแต่แรกเกิด ทำให้หลายคนรู้ว่าสีผมของเด็กสาวถูกปกปิดมาตลอดโดยเวทมนต์ของผู้เป็นมารดามา โดยตลอด และเหนือสิ่งอื่นใดความสามารถทางเวทวารีที่โดเด่นมาตั้งแต่กำเนิดทำให้เด็ก สาวผู้นี้ต้องเผชิญทั้งเรื่องดีและร้ายในชีวิตอย่างมากมาย

La Pleg Blue Merman
ชน เผ่าMermanที่ประจำอยู่แถบริมชายหาด La Pleg Blueหนึ่งในชายหาดที่ได้ชื่อว่างดงามที่สุดในประเทศ Annedisongeแห่งหนึ่งและยังเป็นที่ตั้งของวิหารประจำตระกูล Odilonที่ขึ้นสร้างเป็นเกรียติถวายแด่ Muirghealอารักขเทวดาประจำตระกูลด้วย ซึ่งเหล่า Mermanนี้อาศัยอยู่ในทะเลแถบนั้น เพื่อคอยดูและรักษาความสงบสุขและคอยเฝ้าระวังความปลอดภัยบริเวณรอบๆวิหาร แห่งนี้

[Chess, The Otakuma]

Merrisia Heritage

ในทวีปเมอริเซียที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ประกอบด้วยอาณาจักรต่างๆมากมาย ตลอดทั้งทวีป แต่ละอาณาจักรนั้น ก็มีตระกูลต่างๆทั้งน้อยใหญ่ พร้อมกับเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของแต่ละตระกูล ที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้ผ่านยุคต่างๆจากรุ่นสู่รุ่น ในบรรดาตระกูลต่างๆเหล่านั้น มีหลายตระกูลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญและโดดเด่นต่ออาณาจักรที่ตนสังกัดอยู่ และนี่คือเรื่องราวของตระกูลชั้นแนวหน้าบางตระกูลที่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึง



ตระกูล Azar





ตราประจำตระกูล Azar แห่งลาซาลนั้นเป็นรูปหมาป่า เป็นเครื่องหมายตีตราของตระกูลที่มีมาแต่ช้านานตระกูล Azar นี้เป็นตระกูลที่ลึกลับ ซ่อนเร้น ไม่เปิดเผยตัวต่อสาธรณชนภายนอกทั่วไปหากไม่มีความจำเป็น สิ่งเดียวที่ช่วยให้คนนอกรู้ว่าเป็นคนในตระกูล Azar นั้นมีเพียงรอยตีตรารูปหมาป่าที่ประทับที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายเท่านั้น โดยที่รอยตีตรานี้เป็นรอยที่เกิดจากเหล็กร้อนที่ประทับลงบนร่างคนในตระกูลทุกคนตั้งแต่ยังเด็ก



Baraz
จอมเวทย์เพลิงผู้บุกเบิกตระกูล

จอมเวทย์แห่งลาซาลผู้เป็นต้นตระกูลแห่งตระกูล Azar ตัว Baraz นั้นเป็นจอมเวทย์ที่มีพลังเวทย์กล้าแข็งมาก แต่คาถาที่เขาถนัดที่สุดนั้นเป็นคาถาในสายเพลิง เขาได้ทำการศึกษาค้นคว้าและทุ่มเทให้กับเรื่องเวทย์สายนี้อย่างจริงจังจนสามารถประสบความสำเร็จเป็นจอมเวทย์เพลิงชั้นแนวหน้าและได้รับการยกย่องให้เป็นจอมเวทย์ชั้นแนวหน้าของลาซาล ในที่สุดเขาก็ได้ก่อตั้งตระกูล Azar ตระกูลแห่งจอมเวทย์ไฟนี้ขึ้นมาในลาซาล



Clamerenos
อัศวินปีศาจจากขุมนรก


อัศวินปีศาจที่ผุดขึ้นมาจากนรกเพื่อทำสัญญาปีศาจร่วมกับตระกูล Azar เดิมที Clamerenos เป็นอัศวินปีศาจที่อยู่ในขุมนรกอันมืดดำ เป็นนักรบแห่งความมืดที่เต็มเปี่ยมด้วยความชั่วร้าย แต่ Zareen ผู้ใช้เวทย์แห่งความตายแห่งตระกูล Azar ได้ไปศึกษาค้นคว้าศาสตร์มนต์ต้องห้าม และได้ทำการเปิดประตูนรกเรียก Clamerenos ขึ้นมาจากนรก เพื่อทำสัญญาปีศาจร่วมกันในนามของตระกูล Azar ตามสัญญานั้น Clamerenos ต้องให้ความช่วยเหลือตระกูล Azar ในทุกๆด้านเพื่อให้ได้มาซึ่งความยิ่งใหญ่แห่งตระกูลโดยไม่สนวิธีการ ซึ่งสิ่งที่ตระกูล Azar เสนอแลกเปลี่ยนตามสัญญานั้นคือโลหิตสดๆของมนุษย์ในฐานะเครื่องสังเวยนั่นเอง



Zareen
ผู้ใช้ความตายผู้หลงใหลในความมืด


Zareen เป็นจอมเวทย์หญิงแห่งตระกูล Azar ผู้เป็นผู้ใช้เวทย์แห่งความตาย (Necromancer)
เธอเป็นจอมเวทย์ที่มีความเก่งกาจด้านเวทย์ที่สุดคนหนึ่งของตระกูล แต่สิ่งที่แตกต่างจากคนอื่นๆในตระกูลคือแทนที่เธอจะสนใจศึกษาพัฒนาเวทย์ไฟเช่นคนอื่นๆ เธอกลับสนใจในศาสตร์ของเวทย์ด้านมืดและความตาย เธอเป็นผู้ชักนำหนทางของตระกูล Azar ให้ดำดิ่งเข้าสู่ด้านมืดที่แสนชั่วร้าย หลังจากการศึกษาศาสตร์มืดมาเป็นเวลานาน เธอได้ทำการเปิดประตูนรกเรียกอัศวินปีศาจ Clamerenos มาจากขุมนรก และทำสัญญาปีศาจร่วมกับมัน

[• GaMe •]

ตระกูล Inzu
ตราสัญลักษณ์ประจำตระกูล Inzu นั้นมีสัญลักษณ์ตัว Therion ประดับอยู่ตรงกลาง เริ่มแรกนั้นชาวฟูดินันยังไม่มีระบบตระกูล หรือ สร้างตราประจำตระกูลขึ้นมา ต่อมาภายหลังจากได้ก่อตั้งนครมิราบิลิสขึ้นมา จึงเริ่มมีตระกูลต่างๆเกิดขึ้น ตระกูล Inzu ก็เป็นหนึ่งในนั้น หลังได้รับราชการที่มิราบิลิส ก็ได้เกิดผู้ฝึกสัตว์ที่มีชื่อเสียงที่สามารถควบคุมได้แม้ กระทั่ง Therion ที่ดุร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับวงศ์ตระกูลอย่างยิ่งยวด ตั้งแต่นั้นมาตระกูล Inzu จึงได้บรรจุสัญลักษณ์ Therion ลงในตราประจำตระกูล แม้ว่าสมาชิกในตระกูลบางคนจะไม่ได้รับราชการในมิราบิลิสหรือมีอาชีพเป็นผู้ฝึกสัตว์ แต่ก็ยังคงใช้ตราสัญลักษณ์นี้อยู่


Akamu นักสู้มือเปล่าผู้เต็มเปี่ยมด้วยความกล้าหาญ



Akamu Inzuเป็นนักสู้มือเปล่า (Pugilist) ชาวฟูดินันแต่กำเนิด และยังเป็นต้นตระกูลของตระกูล Inzu ด้วย หลังจากสิ้นสุดสงครามเขาได้ติดตามฮารีซันไปสู่นครมิราบิลิสร่วมกับชาวฟูดินันคนอื่นๆ ที่นั่นเองเขาได้เข้ารับราชการและได้แต่งงานกับสตรีชาวฟีเลเซีย จนให้กำเนิดธิดามาคนหนึ่งนาม Kalena ซึ่งภายหลังเป็นผู้ก่อตั้งตระกูล Inzu แห่งมิราบิลิสในที่สุด


Kalena ผู้ฝึกสัตว์ที่สยบได้แม้ Therion อันดุร้าย



Kalena เป็นผู้ฝึกสัตว์หญิง (Tamer) เป็นธิดาของ Akamu ผู้เป็นต้นตระกูลInzu เธอเข้ารับราชการที่มิราบิลิสในสมัยของกษัตริย์ เอลียาห์ และทำงานเป็นผู้ฝึกสัตว์ตั้งแต่นั้นมา แต่ด้วยพรสวรรค์ในการสื่อสารกับสัตว์ของเธอนี่เอง ทำให้ไม่เพียงสัตว์น้อยใหญ่เท่านั้นที่ยอมสยบต่อเธอ แม้แต่ Therion ที่ดุร้ายเธอก็ยังสามารถสยบลงได้ ทำให้ชื่อเสียงของเธอแผ่ขยายไปทั่วมิราบิลิส เป็นผลให้ตราประจำตระกูลบรรจุสัญลักษณ์ Therion ลงไปด้วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


Kimberly ราชครูผู้เพียบพร้อมด้วยปัญญา



ในสมัยต่อๆมา ตระกูลInzu ก็ได้มีนักเวทย์หญิงถือกำเนิดขึ้น เธอเป็นนักเวทย์ผู้มีความสามารถเชี่ยวชาญทางเวทย์ดิน และเป็นปราชญ์ผู้มากด้วยความรู้และทักษะทางเวทย์ที่ยากจะหาตัวจับได้ เธอได้เข้ารับราชการที่มิราบิลิส แต่ด้วยทักษะและความรู้ที่ยากหาใครเสมอเหมือนของเธอนี่เอง ทำให้เธอได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรติ เป็นราชครูประจำราชสำนักแห่งมิราบิลิส ทำหน้าที่สอนสั่งกษัตริย์และเชื้อพระวงศ์โดยตรง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นหน้าที่อันทรงเกียรติสูงสุดที่คนในตระกูล Inzu เคยได้รับมาเลยทีเดียว

[BUTTERCAKE]

Ascensiano



ตระกูล Ascensiano เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงซึ่งรับราชการทำหน้าที่รับใช้ฟีเลเซียมายาวนานหลายต่อหลายชั่วคน ตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลแสดงถึงเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และ คุณธรรมแห่งสายลมบริสุทธิ์ ประดับด้วยสีขาวบริสุทธิ์ของดอกเอเดอไวท์ โดยมีคติประจำตระกูลว่า “Virtus est Mater Actus” ซึ่งมีความหมายว่า “คุณธรรมเป็นมารดรแห่งการกระทำ” เพราะเชื่อว่า การกระทำใดก็ตาม หลักคุณธรรมความถูกต้องจักต้องมาก่อนเสมอ สำหรับสัญลักษณ์เปกาซัสที่อยู่ตรงกลางกับมงกุฎดอกไม้นั้นได้เพิ่มลงไปในภายหลัง หลังจากที่มีอัศวินเปกาซัสหญิงคนแรกของตระกูลได้สร้างชื่อเสียงจนได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีคนหนึ่งของอาณาจักร


Eurig เปกาซัสผู้จงรักภักดีต่อนายของตน



Eurig เป็น เปกาซัสของ วีรสตรี Brunilda โดยที่ Eurig เป็นเปกาซัสที่มีทั้งความงดงาม และ ความเก่งกาจอยู่ในระดับชั้นแนวหน้าเหนือเปกาซัสตัวอื่นๆในอาณาจักร แต่เหนือสิ่งอื่นใด Eurig นั้นมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อ Brunilda ยิ่งกว่าชีพของตนเสียอีก เพราะวีรกรรมความกล้าหาญของ Eurig ที่ได้ทำร่วมกับ Brunilda นี่เอง ทำให้ Eurig ได้ถูกบรรจุเป็นสัญลักษณ์ปรากฏในตราประจำตระกูล Ascensiano ด้วย


Brunilda อัศวินเปกาซัสสาวผู้เป็นวีรสตรี



Brunilda เป็นอัศวินเปกาซัสหญิง (Pegasus Knight) คนแรกของอาณาจักรฟีเลเซีย เธอเข้ารับราชการเป็นอัศวินเช่นเดียวกับทุกคนในตระกูลรุ่นก่อนๆ แต่ความสามารถของเธอกลับโดดเด่น และได้สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยมเกินกว่าใคร จนได้เป็นอัศวินเปกาซัสหญิงคนแรกของตระกูลและของอาณาจักรฟีเลเซียด้วย ซึ่งทำให้ตระกูลAscensianoโด่งดังไปทั่วเพราะเป็นตระกูลที่มีนักรบเปกาซัสเป็นผู้หญิง เธอได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีคนหนึ่ง เพราะเหตุนี้เองเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ จึงได้มีการเพิ่มเปลี่ยนแปลงตราประจำตระกูล โดยการใส่สัญลักษณ์เปกาซัสคือ Eurig ม้าประจำตัวของเธอลงไปตรงกลาง และได้เพิ่มมงกุฎดอกไม้ลงไปด้านบนเพื่อสื่อถึงเธอ


Bevan นักรบหนุ่มผู้รักอิสระ

Bevan เป็นสมาชิกคนหนึ่งในตระกูล Ascensiano เป็นลูกคนกลางในบรรดาพี่น้อง 7 คน แต่ตัวเขากลับแปลกแยกจากญาติพี่น้องคนอื่นๆ โดยแทนที่เขาจะเข้ารับราชการรับใช้ราชสำนักฟีเลเซีย และดำเนินรอยตามบรรพบุรุษเป็นอัศวินผู้เปี่ยมด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีเยี่ยงคนอื่นๆ เขากลับเลือกที่จะออกผจญภัยเป็นทหารรับจ้างซึ่งเป็นงานที่ไร้ซึ่งเกียรติยศ การกระทำของเขาได้สร้างความอับอายเสื่อมเสียให้กับตระกูล Ascensiano
เป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งหมดที่เขาทำไปก็เป็นการซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเองดั่งสายลมอิสระที่มิอาจกักขังได้

[TheKingOfAnnedisonge]

Merrisia Heritage

ในทวีปเมอริเซียที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ประกอบด้วยอาณาจักรต่างๆมากมาย ตลอดทั้งทวีป แต่ละอาณาจักรนั้น ก็มีตระกูลต่างๆทั้งน้อยใหญ่ พร้อมกับเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของแต่ละตระกูล ที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้ผ่านยุคต่างๆจากรุ่นสู่รุ่น ในบรรดาตระกูลต่างๆเหล่านั้น มีหลายตระกูลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญและโดดเด่นต่ออาณาจักรที่ตนสังกัดอยู่ และนี่คือเรื่องราวของตระกูลชั้นแนวหน้าบางตระกูลที่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึง

ตระกูล Odilon


ตระกูล Odilon เป็นตระกูลที่นับว่ามีความเก่าแก่มากตระกูลหนึ่งในแอนดิซอง มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยแรกๆของการก่อตั้งประเทศ มีที่ดินและอาณาเขตอยู่มากมาย ทั้งเขตภาคพื้นสมุทร เขตภาคพื้นน้ำแข็ง จนถึงบนแผ่นดิน

ตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลนั้นเป็นสัญลักษณ์รูปเงือก ด้วยเชื่อว่ามีนางเงือกจำแลงกายมาเป็นมนุษย์ขึ้นมาอยู่กินกับคนในตระกูลคนหนึ่ง และได้ทิ้งพรสวรรค์ด้านเวทย์น้ำไว้ในสายเลือดของคนในตระกูลOdilon ทำให้คนในตระกูลรุ่นต่อมามีความเชี่ยวชาญทางเวทย์น้ำ และนิยมที่จะรับราชการในแอนดิซอง

Elvira
เงือกสาวผู้หลงรักมนุษย์

เงือกสาวผู้ได้จำแลงกายเป็นมนุษย์และอยู่กินกับมนุษย์จนเกิดเป็นสายเลือดลูกผสมขึ้นมาในตระกูล Odilon ตลอดเวลาที่อยู่กินกับสามีเป็นเวลานานหลายสิบปีแต่กลับหามีร่องรอยแห่งความชราภาพตามวัยที่ร่วงโรย ความงามของเธอนั้นนับวันกลับยิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะธรรมชาติของเงือกที่ยิ่งมีอาคมเก่งกล้าเท่าไหร่ก็ยิ่งงามขึ้นเท่านั้น
ภายหลังสามีของเธอเสียชีวิตลง ศพของเขาได้ถูกนำไปใส่เรือเล็กและลอยไปในทะเลตามคำสั่งเสียสุดท้ายของเขา ตอนนั้นเองที่ Elviraได้กระโจนลงจากบนฝั่งหายไป แต่เพียงครู่เดียวทุกคนก็ได้เห็นนางเงือกผู้งดงาม ผมสีฟ้า และมีใบหน้าคล้ายกับElviraไม่มีผิดกระโดดขึ้นเรือพร้อมกับคว้าศพของสามีกระโจนหายไปในท้องทะเล และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย


Nicholas
เด็กชายอัจฉริยะผู้สืบทอดพรสวรรค์แห่งวารี


หลังจากเวลาร่วงเลยผ่านไปหลายร้อยปีทำให้ตำนานเรื่องนางเงือกของตระกูล Odilon ถูกผู้คนลืมเลือนและคิดว่าเป็นเพียงแค่ตำนานเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งในตระกูลได้กลับกลายเป็นเรื่องที่ถูกเล่าขานอีกครั้ง เพราะการกำเนิดมาของ Nicholas เด็กชายผู้มีดวงตาและผมสีฟ้าพร้อมกับพรสวรรค์ในการใช้เวทย์น้ำที่เก่งกาจ ทำให้ผู้คนในตระกูลต่างสันนิษฐานว่า Nicholas เป็นเด็กที่ได้รับสายเลือดเงือกส่งผ่านมาอย่างเข้มข้นกว่าคนอื่นๆ เพราะNicholasเป็นเด็กที่เกิดมาจากการแต่งงานภายในเครือญาติ Nicholas ได้รับราชการกับแอนดิซองตั้งแต่ยังเยาว์วัยและสามารถสำเร็จเป็น Wonderer ได้ด้วยอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แอนดิซอง


Muirgheal
อารักขเทวดาผู้พิทักษ์รักษาตระกูล

อารักขเทวดาประจำตระกูล Odilon แต่แรกนั้นไม่มีใครรู้ถึงการดำรงอยู่ของเธอ หรือรู้ว่าเธอปกปักษ์คุ้มครองตระกูลนี้มานานเท่าไหร่แล้ว จนกระทั่งมีนักบวชคนหนึ่งในตระกูลสามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของเธอได้
ทำให้รู้ว่านอกจากอารักขเทวดาประจำตัวแต่ละคนแล้วยังมีอารักขเทวดาประจำตระกูลอีกด้วย และการที่เธอมาอารักขาตระกูล Odilon ย่อมหมายความว่าตระกูลนี้เป็นตระกูลที่มีความสำคัญขนาดสวรรค์ต้องส่งเทวดามาดูแลเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เองคนในตระกูลจึงสร้างวิหารเล็กๆริมชายหาด ลา เพลกบลู เพื่อเป็นวิหารที่ถวายให้กับเธอและเป็นสถานที่สำหรับคนในตระกูลมาขอสวดพรจากเธอ

[Silverfox]

Furious



ตระกูลจอมเวทย์เพลิงชั้นแนวหน้าที่มีชื่อเสียงมาแต่ช้านานในแคว้น Lazal ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากอัจฉริยภาพของ Baras Azar ต้นตระกูลผู้คิดค้นและวางรากฐานเวทย์สายเพลิงมาตั้งแต่สมัยแรกๆของ Lazal หากแต่เรื่องราวของตระกูลภายหลังกลับเจือปนด้วยประวัติศาสตร์อันมืดดำ เพราะมีคนในตระกูลที่แสวงหาพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้นจนถึงขนาดยอมทำสัญญาเรียกปีศาจจากขุมนรกมาช่วยให้ได้สมหวังในสิ่งที่ประสงค์ ทำให้อีกด้านของตระกูลที่มีชื่อเสียงเช่นนี้กลับมีความเกี่ยวข้องกับศาสตร์มืดและปีศาจอยู่อย่างลับๆ


Khalid Azar

Khalid Azar คือหนึ่งในผู้สืบทอดสายเลือดอันเกรียงไกรแห่งตระกูล Azar ที่แตกต่างจากสมาชิกทั่วไปในตระกูลนี้ คือ การที่เขาหันมาจับอาวุธเป็นนักรบ หาใช่นักเวทย์เพลิงเหมือนที่คนในตระกูล Azar ส่วนมากจะสืบทอดเป็นกัน แต่ถึงแม้เขาจะเป็นนักรบก็ตาม เมื่อกล่าวถึงฝีมือการต่อสู้ของเขาแล้ว เขาก็มีทักษะการต่อสู้เข้าขั้นอัจฉริยะชนิดที่ว่า หาก Baras Azar ต้นตระกูลเป็นอัจฉริยะด้านเวทย์เพลิงแล้ว Khalid คงจัดเป็นอัจฉริยะด้านการต่อสู้ได้เลยทีเดียว


Maluceous

อีกหนึ่งปีศาจจากขุมนรกที่ถูกคนในตระกูล Azar อันเชิญมา เฉกเช่นเดียวกับ Clamerenos และ Flereous Maluceous เป็นอัศวินปีศาจที่เป็นที่เลื่องลือเรื่องความโหดน่ารักมแม้แต่ในหมู่ปีศาจด้วยกันในขุมนรก ซึ่ง Maluceous เองจัดได้ว่าเป็นปีศาจที่ชอบเครื่องสังเวยมากตนหนึ่ง หากถวายเครื่องสังเวยให้กับมันแล้ว มันก็จะสามารถแปรเปลี่ยนพลังของเครื่องสังเวยมาเสริมพลังให้กับผู้ที่เรียกมันมาให้มีมากยิ่งขึ้นได้


Shula Azar

หนึ่งในตระกูล Azar ยุคใหม่ที่ผสานวิถีของนักรบนักต่อสู้เข้ากับเวทย์มนต์ประจำตระกูล Shula เป็นหนึ่งในนักรบชั้นยอดของแคว้น Lazal หากแต่แทนที่จะเป็นนักรบเพลิงผู้กล้าเยี่ยง Khalid เขากลับแสวงหาวิชาการต่อสู้ตามวิถีทางศาสตร์มืด คือประยุกต์เวทย์มนตร์อาคมด้านมืดมาผสมกับวิชาการต่อสู้ จนเกิดเป็นเทคนิคการต่อสู้อันร้ายกาจ


Red Robe Evoker

จอมเวทย์อันเชิญชุดแดงผู้นี้เป็นหนึ่งในตระกูล Azar คนหนึ่ง หากแต่เค้าผู้นี้กลับปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตนเอาไว้ เขาออกเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ ของแคว้น Lazal แล้วคอยใช้วิชาเรียกหาวิญญาณในธรรมชาติออกมาจัดการแก้ปัญหาต่างๆ ให้กับบรรดาผู้คนที่เดือนร้อน แต่เนื่องจากไม่มีใครรู้ชื่อเสียงเรียงนามที่แท้จริงของเขานี่เอง ทำให้ผู้คนที่พบเห็นต่างขนานนามเรียกขานเขาว่า "Red Robe Evoker" หรือจอมเวทย์อัญเชิญชุดแดง

[SMN Collector]

Grand Gravitas Agency

หลังสงคราม 4 อาณาจักร การผจญภัยและการค้าเริ่มเฟื่องฟูขึ้น ได้มีองค์กรขนาดใหญ่ที่ตั้งขึ้นเพื่อการคุ้มครองและเฝ้าระวังภัยการขนส่งสินค้า และการออกเดินทางของผู้ผจญภัย เป็นองค์กรที่ขึ้นชื่อเรื่องความรับผิดชอบ ความจริงใจ และความเคร่งครัดในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย จนเป็นที่เลื่องลือและขยายสาขาไปไกลถึงนอกทวีป Merrisia เลยทีเดียว ตราสัญลักษณ์ประจำองค์กรประกอบไปด้วย เรือและสายลมอ่อนที่พัดพาไปทุกทิศคือการนำพาไปให้ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ ดาบและโล่คือการพิทักษ์ ฟันเฟืองคือความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่องค์กรนี้ให้ความสำคัญมาก และคติพจน์ประจำองค์กร Gravitas คือ ความจริงใจ เชื่อถือได้

Elite Agent Cedric


หนึ่งในเอเย่นต์ตัวแทนประจำองค์กร Grand Gravitas Agency ผู้เป็นเอเย่นต์ระดับหัวหน้าที่สามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้สำเร็จลุล่วงได้ 100% เสมอมา Cedric สามารถขึ้นเป็นเอเย่นต์ระดับสูงประจำองค์กรได้ในเวลาอันสั้น จนปัจจุบันนี้เขามีหน้าที่จัดสรรงานให้กับเอเย่นต์คนอื่นๆตามความสามารถและความเหมาะสมของแต่ละคน ส่วนตัวเขาเองนั้นจะไม่ออกปฏิบัิติการลงมือด้วยตนเองหากไม่ใช่ภารกิจระดับสูงจริงๆ

Agent Kasumi


เมื่อองค์กร Grand Gravitas Agency ได้ขยายสาขาออกไปถึงเมืองท่านางากิสะ ก็ได้เอเย่นต์นินจาสาวผู้สำเร็จวิชานินจามาจากประเทศนิคโคอุทางตะวันออกมาร่วมงาน ถึงแม้เธอจะเป็นสาวน้อยเยาว์วัยอยู่เช่นนี้ แต่ด้วยฝีมือและวิชานินจาที่ลึกลับก็ทำให้เธอสามารถเป็นเอเย่นต์ชั้นแนวหน้าที่สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างเต็มภาคภูมิ เทียบเคียงได้รับรุ่นพี่เก่งๆคนอื่นๆ

Agent Arosel


เอเย่นต์นักธนูสาว หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งองค์กรในยุคแรกๆ ผู้มีทักษะการใช้ธนูอย่างยอดเยี่ยม นอกจากทักษะทางธนูและความแม่นยำที่สามารถเล็งทุกเป้าหมายได้โดยไม่มีทางพลาดแล้ว ทักษะอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นที่เลื่องลือในองค์กร คือ ทักษะการรุกจู่โจม คือการลอบเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็วก่อนจะสามารถจัดการเป้าหมายได้อย่างแม่นยำราวจับวาง

Kobold Technician Agent


เอเย่นต์เผ่า Kobold ผู้อยู่ฝ่ายเทคนิค แผนกวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เป็นเอเย่นต์ที่มีหน้าที่รับผิดชอบประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือและอุปกรณ์พิเศษต่างๆให้กับทางองค์กร ซึ่งผลงานที่ฝ่ายเทคนิคนี้ประดิษฐ์ออกมาก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรตั๊กแตนหยก อุปกรณ์ต่อต้านเวทย์มนต์ ไปจนถึงยวดยานพาหนะ ของอำนวยความสะดวกต่างๆที่ช่วยให้เอเย่นต์คนอื่นๆสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

[Hypercube]

Odilon

Memento
ตระกูลขุนนางชั้นแนวหน้าของ Annedisonge ตราประจำตระกูลมีสัญลักษณ์เป็นรูปนางเงือก ด้วยตำนานว่าต้นตระกูลคือนางเงือกที่ได้มาอยู่กินกับมนุษย์และได้ถ่ายทอดพลังเวทย์วารีแบบเผ่าเงือกผ่านมากับสายเลือดในตระกูล ทำให้คนในตระกูลนี้เป็นจอมเวทย์วารีที่มีความเก่งกาจกันหลายคน แม้เรื่องต้นตระกูลจะเล่าสืบต่อกันมานาน แต่ผมสีฟ้าน้ำทะเลที่จะปรากฏขึ้นในสมาชิกบางคนของตระกูลเป็นเหมือนอนุสรณ์แห่งความรักที่เงือกสาวที่รักมนุษย์สุดหัวใจ ทิ้งไว้กับลูกหลานของเธอได้จดจำมันไว้ตลอดไป

Gerald Odilon
อัศวินผุ้กล้าจากตระกูล Odilon ผู้รับราชการเข้าเป็นอัศวินของประเทศ Annedisonge ซึ่งเป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อยที่สามารถใช้ดาบน้ำแข็งแห่ง Annedisonge ได้อย่างคล่องแคล่ว แต่เรื่อราวความรักของเขากับภรรยาสาวสวยผู้มีประวัติอันลึกลับ และหายสายสูญไปในวันปลงศพของเขา กลับกลายเป็นตำนานแห่งสายเลือดเงือกที่ทำให้เรื่องราวของตระกูลนี้ถูกกล่าวขานกันไม่จบสิ้น

Alvira Odilon
จอมเวทย์วารีแห่งตระกูล Odilon ผู้เป็นธิดาคนสุดท้องของ Gerald และ Elvira ทั้ง Alvira และ Elvira มารดาของเธอมีสีผมเฉกเช่นคนธรรมดาทั่วไป จนวันที่ gerald เสียชีวิตลง และ Elvira ได้คืนร่างเดิมของเธอกลับลงมหาสมุทร Alvira ก็กลับมีผมสีฟ้าน้ำทะเลดังที่เคยมีมาตั้งแต่แรกเกิด ทำให้หลายคนรู้ว่าสีผมของเด็กสาวถูกปกปิดโดยเวทมนต์ของผู้เป็นมารดามาโดยตลอด และเหนือสิ่งอื่นใด ความสามารถทางเวทย์วารีที่โดดเด่นตั้งแต่กำเนิดทำให้เด็กสาวผู้นี้ต้องเผชิญทั้งเรื่องดีและร้ายในชีวิตอย่างมากมาย

Nicholas Odilon, the Wiser
จอมเวทย์วารีผมสีฟ้าอัจฉริยะผู้ฉายแววพรสวรรค์มาตั้งแต่ครั้งเยาว์วัย เมื่อเติบใหญ่ขึ้น เขาสามารถก้าวขึ้นเป็นจอมเวทย์ชั้นแนวหน้าของ Annedisonge และได้มาซึ่งตำแหน่ง "The Wiser" หรือ ผู้ปราดเปรื่อง ตำแหน่งอันทรงเกียรติที่มอบให้กับจอมเวทย์ชั้นแนวหน้า ผู้มากด้วยความสามารถเท่านั้น ตอกย้ำเรื่องราวของสายเลือดเงือกในตระกูล Odilon โดยมีผมสีฟ้าน้ำทะเลเป็นเครื่องบ่งบอกถึงสายเลือดเงือกในกายเขา

La Pleg Blue Merman
ขนเผ่า Merman ที่ประจำอยู่แถบริมชายหาด La Pleg Blue หนึ่งในชายหาดที่ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่งดงามที่สุดในประเทศ Annedisonge แห่งหนึ่ง และยังเป็นที่ตั้งของวิหารประจำตระกูล Odilon ที่สร้างขึ้นถวายเป็นเกียรติถวายแด่ Muirgheal อารักขเทวดาประจำตระกูลด้วย ซึ่งเหล่า Merman เหล่านี้อาศัยอยู่ในทะเลแถบนั้น เพื่อคอยดูแลรักษาความสงบสุขและคอยเฝ้าระวังความปลอดภัยรอบ ๆ วิหารแห่งนี้

เสร็จซะที....

[Leraje]

Merrisia Heritage

ในทวีปเมอริเซียที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ประกอบด้วยอาณาจักรต่างๆมากมาย ตลอดทั้งทวีป แต่ละอาณาจักรนั้น ก็มีตระกูลต่างๆทั้งน้อยใหญ่ พร้อมกับเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของแต่ละตระกูล ที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้ผ่านยุคต่างๆจากรุ่นสู่รุ่น ในบรรดาตระกูลต่างๆเหล่านั้น มีหลายตระกูลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญและโดดเด่นต่ออาณาจักรที่ตนสังกัดอยู่ และนี่คือเรื่องราวของตระกูลชั้นแนวหน้าบางตระกูลที่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึง




Insomnium Coterie

สมาคมลับที่รวบรวมจอมเวทย์ และผู้ใช้ศาสตร์มืดไว้ โดยมีเป้าหมายในการศึกษาศาสตร์มืด และรับจ้างทำงานลับ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านมืดทั้งหลาย สมาคมนี้ได้มีการวิจัยสร้าง Nighmare ออกมาอย่างกว้างขวาง Nightmare เป็นม้าต้องคำสาปที่สามารถปลุกเสกขึ้น โดยนำซากศพของ Unicorn หรือ Pegasus มาผ่านพิธีกรรมศาสตร์มืด เพื่อให้วิญญาณดำมืดสิงม้าด้งกล่าวเกิดใหม่เป็นม้าต้องคำสาปแทน จึงได้นำ Nightmare มาบรรจุเป็นตราของสมาคมพร้อมกับคติพจน์ที่ว่า "Insomnium Veritatis Umbra" ซึ่งมีความหมายว่า "ฝันร้ายคือเงาแห่งความจริง"




Darnell, The Dark Monk

นักบวชนอกรีตผู้หันเหจากวิถีทางของพระเจ้าเข้าสู้ด้านศาสตร์มืดของการแสวงหาวิญญาณอันดำมืดและแปดเปื้อน Darnell ถูกผู้คนทั่วไปในสังคมรังเกียจจึงออกรวบรวมจอมเวทย์ผู้เอาดีทางด้านศาสตร์มืดนอกรีต ที่มีอุดมการณ์เหมือนกันมาก่อตั้งขึ้นเป็นสมาคมลับแห่งฝันร้าย Insomnium ขึ้นมา โดยมีเป้าหมายให้เป็นสมาคมที่สามารถทำการค้าคว้าวิจัยทดลองเกี่ยวกับศาสตร์มืดได้อย่างอิสระ พร้อมคอยรับจ้างทำงานลับๆ แฝงเร้นอยู่ในด้านมืดของสังคม




Barm, The Dark Wizard

อดีตนักบวชนอกรีตผู้ค้นคว้าศาสตร์มืด จนถูกไล่ออกจากสถาบัย หรือแม้แต่ประเทศที่ตนอาศัยอยู่ Barm ถูกขับไล่ออกจากอารามที่คนบวชอยู่ จากพฤติกรรมฝักไฝ่ด้านมืดของเขา ซึ่งหลังจากเขาถูกขับไล่ไปแล้ว เขาก็ได้เข้ามาเข้าร่วมสมาคมลับฝันร้าย และเป็นผู้ริเริ่มนำเสนอพิธีกรรมสร้างวิญญาณต้องสาปที่แปดเปื้อนขึ้นจากซากม้า Unicorn และ Pegasus ให้ถือกำเนิดใหม่เป็น Nightmare นั่นเอง




Nightmare Rider

ปกติแล้ว Nightmare เป็นม้าที่มีวิญญาณต้องสาปและมีความปูกพันกับความตายอย่างใกล้ชิด ดังนั้นคนทั่วไปที่ยังมีชีวิตอยู่จึงไม่สามารถขี่ Nightmare ได้ มีเพียงปีศาจหรือซากศพไร้ชีวิตเท่านั้นจึงไม่โดนผลกระทบจากความตาย Nightmare Rider เป็นความพยายามของสมาคมลับฝันร้ายในการสร้างร่างซากศพมีชีวิตขึ้นมาผ่านพิธีกรรมศาสตร์มืดลับ เพื่อให้ซากศพนั้นเป็นผู้สวมบังเหียนคอยควบคุมพวก Nightmare ของสมาคมอีกทีหนึ่ง




Hell Fire Nightmare

ความสำเร็จจากการทดลองสร้าง Nightmare จากซาก Pegasas สามคมลับฝันร้ายนี้อัญเชิญวิญญาณปีศาจจากขุมนรก เข้าสิงและใช้มันทำงานชั่วร้ายตามต้องการ ซึ่งหากมีเครื่องสังเวยให้มันมากเท่าไหร่ ก็จะได้พลังตอบแทนกลับมามากเท่านั้น

[Holy]

Grand Gravitas Agency (นับเป็นตระกูลมั้ย)

จองไว้ก่อนนะครับ

น่าจะนับนะ เพราะขนาดสมาคมฝันร้ายยังนับเลย

[domepetuszaa]

เอ่อเห็นข้างบนขาด Pony Pegasus กับ Merrisia Heritage ไปนี้ ผมเสริมได้มั้ยอ่ะงับ - - (อยากได้ตังค์ไปซื้อธาตุไฟ >O<)

Ascensiano

ตระกูล Ascensiano เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงซึ่งรับราชการทำหน้าที่รับใช้ฟีเลเซียมายาวนานหลายต่อหลายชั่วคน ตราสัญลักษณ์ประจำตระกูลแสดงถึงเกียรติยศ ศักดิ์ศรี และ คุณธรรมแห่งสายลมบริสุทธิ์ ประดับด้วยสีขาวบริสุทธิ์ของดอกเอเดอไวท์ โดยมีคติพจน์ประจำตระกูลว่า “Virtus est Mater Actus” ซึ่งมีความหมายว่า “คุณธรรมเป็นมารดรแห่งการกระทำ” เพราะเชื่อว่า การกระทำใดก็ตาม หลักคุณธรรมความถูกต้องจักต้องมาก่อนเสมอ สำหรับสัญลักษณ์เปกาซัสที่อยู่ตรงกลางกับมงกุฎดอกไม้นั้นได้เพิ่มลงไปในภายหลัง หลังจากที่มีอัศวินเปกาซัสหญิงคนแรกของตระกูลได้สร้างชื่อเสียงจนได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีคนหนึ่งของอาณาจักร

Merrisia Heritage

ในทวีปเมอร์ริเซียที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้นประกอบด้วยอาณาจักรต่างๆ มากมายตลอดทั่วทั้งทวีป แต่ละอาณาจักรนั้นก็มีตระกูลต่างๆ ทั้งน้อยใหญ่ พร้อมกับเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของแต่ละตระกูลที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้ผ่านยุคต่างๆ จากรุ่นสู่รุ่น ในบรรดาตระกูลต่างๆ เหล่านั้นมีหลายตระกูลต่างๆ เหล่านั้นมีหลายตระกูลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญและโดดเด่นต่ออาณาจักรที่ตนสังกัดอยู่และนี้คือเรื่องราวของตระกูลชั้นแนวหน้าบางตระกูลที่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึง

Bevan นักรบหนุ่มผู้รักอิสระ

Bevan เป็นสมาชิกคนหนึ่งในตระกูล Ascensiano เป็นลูกคนกลางในบรรดาพี่น้อง 7 คน แต่ตัวเขากลับแปลกแยกจากญาติพี่น้องคนอื่นๆ เพราะแทนที่เขาจะเข้ารับราชการรับใช้ราชสำนักฟีเลเซียและดำเนินรอยตามบรรพบุรุษเป็นอัศวินผู้เปี่ยมด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีเยี่ยงคนอื่นๆ เขากลับเลือกที่จะออกผจญภัยเป็นทหารรับจ้างซึ่งเป็นงานที่ไร้ซึ่งเกียรติยศ การกระทำของเขาได้สร้างความอับอายเสื่อมเสียให้กับตระกูล Ascensiano เป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งหมดที่เขาทำไปก็เป็นการซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเองดั่งสายลมอิสระที่มิอาจกักขังได้

Brunilda อัศวินเปกาซัสสาวผู้เป็นวีรสตรี

Brunilda เป็นอัศวินเปกาซัสหญิงคนแรกของอาณาจักรฟีเลเซีย เธอเข้ารับราชการเป็นอัศวินเช่นเดียวกับทุกคนในตระกูลรุ่นก่อนๆ แต่ความสามารถของเธอกลับโดดเด่นและได้สร้างผลงานอย่างยอดเยี่ยมเกินกว่าใคร จนได้เป็นอัศวินเปกาซัสหญิงคนแรกของตระกูลและของอาณาจักรฟีเลเซียด้วย ซึ่งทำให้ตระกูล Ascensiano โด่งดังไปทั่วเพราะเป็นตระกูลที่มีนักรบเปกาซัสเป็นผู้หญิง เธอได้รับการยกย่องให้เป็นวีรสตรีคนหนึ่ง เพราะเหตุนี้เองเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ จึงได้มีการเพิ่มเปลี่ยนแปลงตราประจำตระกูล โดยการใส่สัญลักษณ์เปกาซัสคือ Eurig ม้าประจำตัวของเธอลงไปตรงกลาง และได้เพิ่มมงกุฎดอกไม้ลงไปด้านบนเพื่อสื่อถึงเธอ

Eurig เปกาซัสผู้จงรักภักดีต่อนายของตน

Eurig เป็น เปกาซัสของ วีรสตรี Brunilda โดยที่ Eurig เป็นเปกาซัสที่มีทั้งความงดงามและความเก่งกาจอยู่ในระดับชั้นแนวหน้าเหนือเปกาซัสตัวอื่นๆ ในอาณาจักร แต่เหนือสิ่งอื่นใด Eurig นั้นมีความซื่อสัตย์จงรักภักดีต่อ Brunilda ยิ่งกว่าชีพของตนเสียอีก เพราะวีรกรรมความกล้าหาญของ Eurig ที่ได้ทำร่วมกับ Brunilda นี่เอง ทำให้ Eurig ได้ถูกบรรจุเป็นสัญลักษณ์ปรากฏในตราประจำตระกูล Ascensiano ด้วย

Pony Pegasus ลูกเปกาซัสที่ถูกมนุษย์เลี้ยงมาตั้งแต่ยังเด็ก

ปกติเปกาซัสที่มนุษย์นำมาใช้งานนั้นจะจับมาจากธรรมชาติ แต่เปกาซัสที่ถูกเพาะเลี้ยงและนำมาฝึกตั้งแต่ยังเป็นลูกม้านั้นจะเชื่องและฝึกได้ง่ายกว่าลูกม้าเปกาซัสที่จับได้จะถูกนำมาเลี้ยงไว้บนยอดตึก หรือฟาร์มที่ก่อสร้างบนยอดเขาเชิงผา หรือ คอกม้าที่มีลักษณะพิเศษคือยกสูงจากพื้นหลายระดับเพื่อสนองต่อธรรมชาติของเปกาซัสนั่นเอง ดังนั้นผู้ที่จะมีฟาร์มเลี้ยงเปกาซัสได้ย่อมต้องมีฐานะร่ำรวย หรือไม่ก็เป็นขุนนางชั้นสูงจึงจะมีกำลังทรัพย์มากพอที่จะจัดสรรคอกและให้การดูแลได้

แจกแต้มให้ผมด้วยนะค้าบ งิๆๆ

[Piya]

Merrisia Heriage
ในทวีปเมอร์ริเซียที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ประกอบด้วยอาณาจักรต่างๆ มากมายตลอดทั่วทั้งทวีป แต่ละอาณาจักรนั้นก็มีตระกูลต่างๆ ทั้งน้อยใหญ่ พร้อมกับเรื่องราวแบะประวัติศาสตร์ของแต่ละตระกูลที่ได้สร้างชื่อเสียงผ่านยุคต่างๆ จากรุ่นสู่รุ่น ในบรรดาตระกูลต่างๆ เหล่านั้น มีหลายตระกูลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญ และโดดเด่นต่ออาณาจักรที่ตนสังกัดอยู่ และนี่คือเรื่องราวของตระกูลชั้นแนวหน้าบางตระกูลที่ได้ถูกหยิบขึ้นมากล่าวถึง

Saint Agnes Chuch&Academy
แต่เดิม การเป็น Unicorn Maiden เป็นเพียงการบำเพ็ญพรตส่วนตัวของบรรดาสตรีพรหมจารีย์ที่ใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์เช่นยูนิคอร์นต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งเป็นสถาบันอย่างจริงจังในฟิเลเชียจึงได้ยกย่องนักบุญ อักแนส ผู้ยอมพลีชีพเพื่อรักษาไว้ซึ่งพรมหมจรรย์และคำมั่นสัญญาต่อพระเจ้า เป็นนักบุญองค์อุปถัมป์ของโบสถ์และสถาบันโบสถ์แห่งนี้เป็นทั้งสถานที่ประกอบพิธีกรรมตามศาสนาและเป็นทั้งสถานศึกษาในเวลาเดียวกัน มีสตรีจำนวนมากได้เข้ามาศึกษาเล่าเรียนที่นี่ และได้ปฎิญาณตนว่าจะถือไว้ซึ่งพรหมจรรย์เป็น Unicorn Maiden โดยมีการปฎิญาณถือพรหมจรรย์ถวายคำมั่นแด่พระเจ้า 3 ขั้นคือ 1.ปฎิญาณถือพรหมจรรย์ตลอดเวลาที่อยู่ในโบสถ์และสถาบัน 2.ปฎิญาณถือพรหมจรรย์ 20 ปี ซึ่งมีสิทธิจะได้ Unicorn มาอยู่คู่กายด้วย 3.ปฎิญาณถือพรหมจรรย์ตลอดชีวิตจะถูกชำระพิเศษให้มีสถานะกึ่งเทพและสามารถเป็น Unicorn Maiden ได้
ตราสัญลักษณ์ของโบสถ์ มีดอกลิลลี่ที่สือถึงความบริสุทธิ์ ในปาล์มที่สือถึงชัยชนะและการสละชีวิตเพื่อศาสนาของนักบุญอักแนส และสัญลักษณ์แห่งแสงที่สื่อถึงคุณธรรม ส่วนคติพจน์ประจำโบสถ์คือ
"Virgo Intacta" ซึ่ทงหมายความว่า "พรหมจารย์ เสมอไป"หรือรักษาความบริสุทธ์สะอาดไว้ตราบนานเท่านานนั้นเอง

Guardian Angel of St.Agnes Church
อารักขเทวดาประจำโบสถ์
อารักขเทวดาประจำโบสถ์ St.Agnes ผู้ทำหน้าที่คอยพิทักษ์รักษาโบสถ์ตลอดจนผู้อยู่อาศัยภายในให้แคล้วคลาดจากภัยพิบัติและความชั่วร้ายทั้งปวง อารักขเทวดาที่คอยพิทักษ์โบสถ์แห่งนี้มีจำนวนมากน้อยตามแรงอธิษฐานภาวนาของบรรดา Unicorn Maiden ที่พำนักอยู่ในโฐสถ์แห่งนี้นี่เอง ยิ่งมีแรงภาวนากับศรัทธาอันแรงกล้ามากเท่าไหร่ จำนวนของอารักขเทวดาที่ลงมาปกป้องโบสถ์ก็จะยิ่งเพิ่มมาขึ้นตามไปด้วย

Amena
สตรีศักด์สิทธิ์ผู้ก่อตั้งโบสถ์ St.Agnes ขึ้นมา
ในกาลก่อนนั้นยังไม่มีโบสถ์ หรือสถานศึกษาที่ถูกเรียกว่า St.Agnes แห่งนี้เลยจนกระทั้ง Amena สตรีผู้มีความชื่นชมในวีรกรรมของ St.Agnes ได้ก่อตั้งโบสถ์แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อเป็เกียรติแก่ท่านและได้เปิดโอกาสให้หญิงที่ต้องการถือพรหมจรรย์มาศึกษาที่โบสถ์แห่งนี้เป็น Unicorn Maiden และ Uinicorn Knight โดยมีการปฎิญาณถือพรหมจรรย์ถวายคำมั่นแด่พระเจ้า 3 ขั้น คือ 1.ปฎิญาณถือพรหมจรรย์ตลอดเวลาที่อยู่ในโบสถ์และสถาบัน 2.ปฎิญาณถือพรหมจรรย์ 20 ปี ซึ่งมีสิทธิจะได้ Unicorn มาอยู่คู่กายด้วย 3.ปฎิญาณถือพรหมจรรย์ตลอดชีวิตจะถูกชำระพิเศษให้มีสถานะกึ่งเทพและสามารถเป็น Unicorn Maiden ได้ และเมื่อปฎิญาณตนตลอดชีวิตแล้วพวกเธอก็จะไม่สามารถออกจากโบสถ์ได้เลย นอกจากมีเหตุจำเป็น

Clare
สาวน้อยผู้ปฎิญาณตน
เมื่อแรกเริ่มเด็กหญิงทุกคนที่เข้ามาศึกษาจะปฎิญาณตนขั้นที่ 1 เท่านั้น เพื่อหากพบว่านี่ไม่ใช่หนทางที่แท้จริงก็สามารถเลิกล้มและกลับออกไปใช้ชีวิตตามปรกติได้หากระหว่างศึกษามีคนเริ่มแน่ใจก็จะได้ปฎญาณตน 20 ปี ซึ่งในขั้นนี้ สามารถเป็น Unicorn Knight ได้ และภายใน 20 ปีนี้หากผ่านเกณฑ์การพิจารณาของบรรดาอาจารย์ ซิสเตอร์ และเหล่า Unicorn Maiden อาวุโสก็จะสามารถขอปฎิญาณตนตลอดชีวิตได้
สำหรัแคลร์ เธอแสดงเจตน์จำนงอันแน่วแน่ของเธอตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาศึกษาเพื่อเป็น Unicorn Maiden และแสดงความตั้งใจนั้นตลอดเวลาที่ศึกษาจนเธอได้ปฎิญาณตนตลอดชีวิตได้เป็น Unicorn Maiden เมื่ออายุยังน้อยมาก

[Tanu~Nabandicoot]

ง่ะ มีคนเอาตระกูลง่ายๆ4ตัวไปหมดแล้ว

งั้นตาหนูเอาEstaก็ได้ (อ่านประวัติย่อๆแล้วพี่หมูน่ารักดี)

Merrisia Heriage

ในทวีปเมอร์ริเซียที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ประกอบด้วยอาณาจักรต่างๆ มากมายตลอดทั่วทั้งทวีป แต่ละอาณาจักรนั้นก็มีตระกูลต่างๆ ทั้งน้อยใหญ่ พร้อมกับเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของแต่ละตระกูลที่ได้สร้างชื่อเสียงผ่านยุคต่างๆ จากรุ่นสู่รุ่น ในบรรดาตระกูลต่างๆ เหล่านั้น มีหลายตระกูลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญ และโดดเด่นต่ออาณาจักรที่ตนสังกัดอยู่ และนี่คือเรื่องราวของตระกูลชั้นแนวหน้าบางตระกูลที่ได้ถูกหยิบขึ้นมากล่าวถึง

Esta

ตระกูลชื่อดังแถบฝั่งตะวันออก เป็นตระกูลที่ทำหน้าที่อยู่ในอาณาจักร Mirablis มาตั้งแต่ครั้งสมัยกษัตริย์ Elijah จนได้รับพระราชทานสกุลEsta มา จึงก่อนกำเนิดเป็นตระกูลขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิ เพราะเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่วมในการประกาศเอกราชของประเทศ ตระกูลนี้มีคติพจน์ประจำตระกูลว่า "Fortes de Liber" ซึ่งมีความหมายว่า "อิสระคือความแข็งแกร่ง" และด้วยเป็นตระกูลที่รักอิสระ ไม่ชอบที่จะถูกผูกมัดด้วยกฏข้อบังคับหรือกรอบใดๆ จึงไม่เข้ารับราชการใน Mirabilis อย่างเต็มตัว หากแต่ชอบทำงานปฏิบัติภารกิจ ตามแต่จะได้รับมอบหมายมาเท่านั้น

Tharan Esta, the Tamer

Tharanเป็นหนุ่มนักฝึกสัตว์ชั้นแนวหน้าแห่งตระกูล Esta ที่มีความสุขในด้านการอยู่ร่วมกับสัตว์ชชนิดต่างๆในธรรมชาติ เพื่อจะได้เข้าถึงพวกมันได้อย่างเต็มที่ ว่ากันว่าไม่ว่าสัตว์น้อยใหญ่ที่มีความดุร้ายแค่ไหน เขาก็สามารถสยบได้อย่างง่ายดาย เป็นที่เลืองลือด้านฝีมือสยบสัตว์จนถึงขนาดมีการเปรียบเทียบว่าเก่งไม่แพ้ Kalena แห่งตระกูล Inzu เลยทีเดียว

Velika Esta, the Archer

นักรบธนูผู้มีหัวใจรักอิสระและการผจญภัย ชอบที่จะท่องเที่ยวไปตามป่าเขาลำเนาไพร Velika เป็นบุคคลที่เป็นดั่งคติพจน์ของ Esta พูดถึง คือ แข็งแกร่ง และ รักอิสระ เป็นนักรบอีกคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูล Esta ด้วยฝีมือธนูที่ยอดเยี่ยมของเธอ

Berdette Esta. Golden Bird Enchantress

Berdette เป็นจอมเวทย์ชั้นสูงผู้สามารถอัญเชิญวิหคทองคำในตำนานออกมาได้ และวิหคทองคำนี่เอง ก็เป็นแหล่งพลังเวทย์อันยิ่งใหญ่ของเธออีกด้วย วีรกรรมของเธอเป็นที่เลื่องลือไปทั่วนคร Mirabilis ไม่พ้นแม้แต่กษัตริย์ Elijah ที่ให้ความชื่นชมในวีรกรรมของเธอ จนพระราชทานสกุล Esta ให้กับเธอ ทำให้ตระกูล Esta ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

Red Earth Leogriff

Leogriff เป็นสัตว์ที่งามสง่าและดุร้ายในแถบฟูดินันและมิราบิลิส โดยเฉพาะ Red Earth Leogriff ที่มีอำนาจในการสะกดเหยื่อให้ตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว ด้วยเสียงคำรามที่กึกก้องของมัน หากแต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นสัตว์ที่รักอิสระ และชอบที่จะท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ ตามแต่จะพอใจ Berdette ได้ถูกใจในหัวใจอันทรนงกล้าแกร่งหากแต่รักอิสระของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้จึงได้นำมันไปใส่ในตราประจำตระกูลของ Esta ตั้งแต่นั้นมา

[opptimist]

Saint Agnes Waltz of Harmony

Merrisia Heritage

ในทวีปเมอร์ริเซียที่กว้างใหญ่ไพศาลนั้น ประกอบด้วยอาณาจักรต่างๆมากมายตลอดทั่วทั้งทวีป แต่ละอาณาจักรนั้นก็มีตระกูลต่างๆทั้งน้อยใหญ่ พร้อมกับเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของแต่ละตระกูลที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้ผ่านยุคต่างๆ จากรุ่นสู่รุ่น ในบรรดาตระกูลต่างๆเหล่านั้น มีหลายตระกูลที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญและโดดเด่นต่ออาณาจักรที่ตนสังกัดอยู่ และนี่คือเรื่องราวของตระกูลชั้นแนวหน้าบางตระกูล
ที่ได้ถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวถึุง

St. Agnes Church & Academy Waltz of Harmony

โบสถ์ St. Agnes คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของหญิงสาวพรหมจรรย์ที่ปฏิญาณจะรักษาพรหมจรรย์ของตนไว้ยิ่งชีพเพื่อคงความสะอาดบริสุทธิ์ให้เหมาะสมกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อย่าง Unicorn สถาบันแห่งนี้เป็นสถานที่สร้าง Unicorn Maiden และ Unicorn Knight มาแต่ช้านานแล้ว ซึ่งบรรดาอัศวิน Unicorn ที่มีชื่อเสียงของ Felasia ทั้งหลายก็ล้วนแต่จบการศึกษามาจากสถาบันนี้ด้วยกันทั้งสิ้น

Magena, the Unicorn Knight

อัศวิน Unicorn ชั้นแนวหน้า ผู้สำเร็จการศึกษามาจากสถาบัน St. Agnes และได้รับ Unicorn คู่ใจประจำตัวเธอ เธอสำเร็จการศึกษาในช่วงที่บ้านเมืองสงบสุข เธอจึงสมัครทำหน้าที่เป็นครูผู้ฝึกสอน คอยทำหน้าที่สอนสั่งเหล่าสาวพรหมจรรย์ผู้ตั้งเป้าหมายจะเป็นอัศวิน Unicorn รุ่นใหม่ๆ ให้เพียบพร้อมทั้งด้านฝีมือ จริยธรรม และหัวใจที่เที่ยงธรรม ให้พร้อมจะก้าวไปในหนทางแห่งความถูกต้องเยี่ยงเธอ

Melina, the Unicorn Maiden

Melina เป็น Unicorn Maiden รุ่้นเดียวกับ Veronica ทั้งคู่เข้ามาอยู่ในสถาบัน St. Agnes ในเวลาที่ใกล้เคียงกัน และด้วยอายุและนิสัยที่คล้ายๆกันด้วยนี่เอง ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทด้วยกันในเวลาอันสั้นขณะที่ Veronica ได้เลือกทางนักรบ Melina ก็ได้ไปเอาดีด้านมนต์ภาวนาที่ช่วยปกป้อง Unicorn จากภัยอันตรายต่างๆ และเมื่อเพื่อนสนิทของเธอได้พบจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิต เธอได้ตัดสินใจทำทุกวิถีทางให้เพื่อนได้เลือกทางที่ถูกต้อง

Philippe, Veronica's Unicorn

Philippe เป็นม้า Unicorn สายพันธุ์ Great Horn ที่กำเนิดและเลี้ยงดูในโบสถ์ St. Agnes และเป็นม้าประจำตัวคู่ใจของ Veronica แม่ทัพอัศวิน Unicorn แห่ง Felasia ในครั้งที่เด็กสาวมาปฏิญาณที่จะถือพรหมจรรย์นั้น Philippe น้อยที่น่ารักและสง่างามถูกเลือกมาเป็น Unicorn ที่จะเติบโตก้าวหน้าไปด้วยกันกับเธอ ซึ่งสำหรับ Veronica แล้ว Philippe เป็นดั่งน้องสาวที่ได้เติบโตมาด้วยกัน และหวังจะได้อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต

Maia, the Unicorn Knight

อัศวิน Unicorn ผู้สำเร็จการศึกษามาจากสถาบัน St. Agnes เฉกเช่นคนอื่นๆ หากแต่เธอผู้นี้กลับสามารถพัฒนาเพลงดาบไปได้อย่างโดดเด่นเกินกว่าเพื่อนๆในรุ่น และสามารถสร้างวิชาดาบที่ใช้ต่อสู่ร่วมกันกับ Unicorn ที่ร่วมรบได้ เธอเป็นหนึ่งในอัศวินชั้นยอดของ Felasia และเป็นหนึ่งในนักรบผู้กล้าอันเป็นความภาคภูมิใจของสถาบัน

[the St. of Amara]

Esta

ตระกูลชื่อดังแถบฝั่งตะวันออก เป็นตระกูลที่ทำหน้าที่อยู่ในอาณาจักร Mirabilis มาตั้งแต่ครั้งสมัยกษัตริย์ Elijah
จนได้รับพระราชทานสกุล Esta มา จึงก่อนกำเนิดเป็นตระกูลขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิ
เพราะเป็นหนึ่งในตระกูลที่ร่วมในการประกาศเอกราชของประเทศ ตระกูลนี้มีคติพจน์ประจำตระกูลว่า "Fortes de Liber"
ซึ่งมีความหมายว่า "อิสระคือความแข็งแกร่ง" และด้วยเป็นตระกูลที่รักอิสระ ไม่ชอบที่จะถูกผูกมัดด้วยกฏข้อบังคับหรือกรอบใดๆ
จึงไม่เข้ารับราชการใน Mirabilis อย่างเต็มตัว หากแต่ชอบทำงานปฏิบัติภารกิจ ตามแต่จะได้รับมอบหมายมาเท่านั้น

Tharan Esta, the Tamer



Tharan เป็นหนุ่มนักฝึกสัตว์ชั้นแนวหน้าแห่งตระกูล Esta ที่มีความสุขในด้านการอยู่ร่วมกับสัตว์ชนิดต่างๆในธรรมชาติ
เพื่อจะได้เข้าถึงพวกมันได้อย่างเต็มที่ ว่ากันว่าไม่ว่าสัตว์น้อยใหญ่ที่มีความดุร้ายแค่ไหน
เขาก็สามารถสยบได้อย่างง่ายดาย เป็นที่เลืองลือด้านฝีมือสยบสัตว์
จนถึงขนาดมีการเปรียบเทียบว่าเก่งไม่แพ้ Kalena แห่งตระกูล Inzu เลยทีเดียว

Velika Esta, the Archer



นักรบธนูผู้มีหัวใจรักอิสระและการผจญภัย ชอบที่จะท่องเที่ยวไปตามป่าเขาลำเนาไพร
Velika เป็นบุคคลที่เป็นดั่งคติพจน์ของ Esta พูดถึง คือ แข็งแกร่ง และ รักอิสระ
เป็นนักรบอีกคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูล Esta ด้วยฝีมือธนูที่ยอดเยี่ยมของเธอ

Berdette Esta, Golden Bird Enchantress



Berdette เป็นจอมเวทย์ชั้นสูงผู้สามารถอัญเชิญวิหคทองคำในตำนานออกมาได้ และวิหคทองคำนี่เอง
ก็เป็นแหล่งพลังเวทย์อันยิ่งใหญ่ของเธออีกด้วย วีรกรรมของเธอเป็นที่เลื่องลือไปทั่วนคร Mirabilis
ไม่พ้นแม้แต่กษัตริย์ Elijah ที่ให้ความชื่นชมในวีรกรรมของเธอ จนพระราชทานสกุล Esta ให้กับเธอ
ทำให้ตระกูล Esta ได้ถือกำเนิดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

Red Earth Leogriff



Leogriff เป็นสัตว์ที่งามสง่าและดุร้ายในแถบฟูดินันและมิราบิลิส โดยเฉพาะ Red Earth Leogriff
ที่มีอำนาจในการสะกดเหยื่อให้ตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว ด้วยเสียงคำรามที่กึกก้องของมัน
หากแต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นสัตว์ที่รักอิสระ และชอบที่จะท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆตามแต่จะพอใจ
Berdette ได้ถูกใจในหัวใจอันทรนงกล้าแกร่งหากแต่รักอิสระของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้
จึงได้นำมันไปใส่ในตราประจำตระกูลของ Esta ตั้งแต่นั้นมา

[Chess, The Otakuma]

^
^
^
^

ซ้ำกับพี่ฝนแล้ว อ่ะ ตาสุ

[the St. of Amara]

^
^
^
^

ซ้ำกับพี่ฝนแล้ว อ่ะ ตาสุ

อ่านข้ามโจทย์ครับ

[S_A_Y]

แง้ๆ การ์ดเค้าเตอร์ช้านนนน หายไปไหนหมด

ไม่ทันแล้ว ฮือๆๆๆ

[HibaRi[KyO]Ya]

Counter ผมหายไปไหนหมด