[Wargreamon]

^
^
^

ถ้าเพลงเปิดที่ 3 ชื่อเพลงมันอยู่ที่คลิปแล้วครับ ชื่อ Web of Night แปลคร่าวๆก็
ใยแมงมุมแห่งรัตติกาล (แต่ภาพเพลงไม่ได้สื่อเล้ย~~) เพลงนี้ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่นะครับว่าเคยเอาไปประกอบการ์ตูนเรื่องใด

เพลงนี้มี 2 เวอร์ชั่น แบบJapan กับ English อันที่ใช้ในเพลงเปิดนี่ผมเอาแบบ Eng มา เป็นผลงานของ T.M.Revolution ครับ
ผมชอบเพลงของเค้ามากเลย ตั้งแต่ฟัง Vestige ของกันดั้ม seed Des มาก็เลยลองหาฟังเพลงของเค้าดูหลายๆเพลง
เลยอยากเอาเพลงนี้มาเป็น เพลงเปิดให้ได้ซักครั้ง แต่ เพลงเปิด 2 เพลงก่อนนู้น ฝ่ายจัดทำเค้าขอไว้ ก็เลยต้องให้เป็นเพลงอื่นไปก่อน
จนตอนหลังมานี่ ผมไปเทคโอเวอร์ หน้าที่มาแจกให้พวกผู้ช่วยแทน ถึงได้มีโอกาส ซักที(แต่กว่าคลิปจะเสร็จ !- -!)



ส่วนเพลงเปิดที่ 2 กับ 1 นี่รอ เจ้าวาการุรุ มาตอบแทนดีกว่า พอดีกระผมไม่ค่อยชำนาญ เหอๆ

[Watcharapol Luekaya]

^
^
^

ถ้าเพลงเปิดที่ 3 ชื่อเพลงมันอยู่ที่คลิปแล้วครับ ชื่อ Web of Night แปลคร่าวๆก็
ใยแมงมุมแห่งรัตติกาล (แต่ภาพเพลงไม่ได้สื่อเล้ย~~) เพลงนี้ผมไม่แน่ใจเท่าไหร่นะครับว่าเคยเอาไปประกอบการ์ตูนเรื่องใด

เพลงนี้มี 2 เวอร์ชั่น แบบJapan กับ English อันที่ใช้ในเพลงเปิดนี่ผมเอาแบบ Eng มา เป็นผลงานของ T.M.Revolution ครับ
ผมชอบเพลงของเค้ามากเลย ตั้งแต่ฟัง Vestige ของกันดั้ม seed Des มาก็เลยลองหาฟังเพลงของเค้าดูหลายๆเพลง
เลยอยากเอาเพลงนี้มาเป็น เพลงเปิดให้ได้ซักครั้ง แต่ เพลงเปิด 2 เพลงก่อนนู้น ฝ่ายจัดทำเค้าขอไว้ ก็เลยต้องให้เป็นเพลงอื่นไปก่อน
จนตอนหลังมานี่ ผมไปเทคโอเวอร์ หน้าที่มาแจกให้พวกผู้ช่วยแทน ถึงได้มีโอกาส ซักที(แต่กว่าคลิปจะเสร็จ !- -!)



ส่วนเพลงเปิดที่ 2 กับ 1 นี่รอ เจ้าวาการุรุ มาตอบแทนดีกว่า พอดีกระผมไม่ค่อยชำนาญ เหอๆ

อ๋อ....ครับ ชอบฟังญี่ปุ่นมากกว่าครับ

[Wargreamon]

สำหรับเพลงเปิดที่ 3 เผื่อว่า อยากเก็บแต่หาโหลดไม่ได้ ก็คลิกที่ลิงคเลยน่อ

แบบ Jap
แบบ ENg


ว่าแล้วเข้าเรื่องที่จะพูดอาทิตย์นี้เลยละกันครับ อาทิตย์นี้ก็คงต้อง งดอีกตามเคย T_T เนื่องจากกิจกรรมรับน้องทั้งหลายแหล่
พึ่งจะเสร็จไปว่าตอนเป็นน้องเหนื่อยแล้ว พอมาเป็นพี่นี่เหนื่อยกว่าเดิมอีก เฮ้อ

ว่าไปแล้ว เจ้าวาการุรุ เองก็ไม่เคยเข้ามาพูดหรือมาตอบกระทู้เลยซักครั้งนินา จนบางคนเข้าใจว่าเป็นคนเดียวกับเจ้า การุรุ ไปซะละ
อันที่จริง วาการุรุ เค้าอยู่ฝ่ายเทคนิค ภาพกับกราฟ น่ะครับแต่เจ้าตัวไม่ได้เล่นซัมมอนเนอร์ ที่จริงแค่ถามว่าซัมมอนเนอร์คืออะไร
มันก็ตอบไม่ถูกซะแหล่ว เหอๆ (มานั่งเผาเพื่อนร่วมงานเล่น ว่างมาก?)




ช่วงหลังมานี่กระทู้เริ่มเงียบ คงเพราะเข้าสู่ช่วงเปิดเทอมกันแล้ว คนก็เลยซบเซาตามกันไป เหนือสิ่งอื่นใด
มิส(MX)คุง เป็นเด็กมหาลัยปี 1 แล้ว ณ ตอนนี้หายเงียบไปไหนกันล่ะนี่ สงสัยจะติดรับน้องอยู่ เพราะตอนที่ผ่านๆมาก็
เป็นตอน เดบิว แต่กลับไม่โผล่ซะงั้นเหอๆ

โอย นอกเรื่องมาเยอะแล้ว เข้าเรื่องจริงๆซะที สาเหตุที่วันนี้มาโพส นอกรอบ ไม่ใช่เหตุอันใดดอก แต่เป็นเพราะ มีคน PM
มาถามว่า ทำไมช่วงนี้ VR ออกมุขแป้ก มาเยอะจริง มากันแทบทุกตอน ดราม่า หายไปไหนสาระของเรื่องล่ะชะเอิงเงิงเงย
คำตอบขอให้ดูจากสภาพของคนเขียนนะตอนนี้ ซึ่งแค่จะโพส ซักกระทู้ยัง เขียนตอบแบบคนปกติ บ่ได้เลย
เหอๆ เอาเข้าไปหัวเราะตบท้ายทุกประโยคด้วย เหอๆๆๆๆๆ

แว้ก ม่ายยยยช่ายยย!!! คืออันที่จริง อย่างที่เคยบอกไว้ว่ามันเป็นช่วงคูลดาว์น(ความจริงคือ อยากจะเขียนการ์ดกับคอมโบ
ที่ดองไว้นานแล้วเพิ่มเท่านั้นเอง) ส่วนความเครียดของเนื้อเรื่องเรา จะกันบวก กั้กเอาไว้ค่อยๆปล่อยแล้ว เทกระจาดเอาตอนท้ายๆ

และเรื่องสุดท้ายที่อยากจะแจงขอรับ วันนี้จะมาสรุป ปมของเรื่อง ที่ปรากฏออกมากับ สครีมตอนหน้านิดหน่อย ที่ดูเหมือนการบอกใบ้ตอนต่อไปจะดูไม่ช่วยอะไรเลย ล่ะนะ

เริ่มจากตอนนี้ ผูกปมไว้จนแกะไม่ออก เพราะงั้นแล้วเราข้ามมันไปเถอะ(ซะงั้น) ล้อเล่นครับ เดี๋ยวขอนับก่อนว่ามีกี่ปม
หนึ่ง สอง สาม..... โอเค ตามนี้

1.อสูรมาร เรื่องที่ คุยกันในห้องพักครูของ ตอนล่าสุด เป็นการบอกกันโต้งๆเลยว่า Sin กำลังจะได้มีบทแล้วนั่นเองสั้นๆงายๆ

2.ผลกระทบหลังศึกกับสามอสูรบรรพกาล จะเห็นได้ว่า มีแต่ตัวละครที่บทค่อนข้างจืดจางในภาคที่แล้ว
จะเป็นตัวที่รับผลกระทบมากที่สุด เพราะรายละเอียดของตัวละครไม่ยักกะเคยเผยให้ทราบ ซึ่งก็มี อิส ที่
ตอนนี่อยู่ในโหมดซึนฯ เอ้ย ซึม และ เคียวที่หายตัวไปก็ถูก กลุ่ม ชิชิน ที่พึ่งเปิดตัวตอนนี้ กักตัวไว้ หรืออีกในบริบทหนึ่งคือ

เจ้า 2 ตัวนี้กำลังใกล้จะได้มีบท สำคัญๆ หรือเป็น Key ของ เนื้อเรื่องหลักๆที่กำลังจะตามมานั่นเอง แต่ตอนนี้ก็ เอาน้ำจิ้ม ฮาเฮไปก่อนนะครับ(เนื่องจากยังทำใจให้เขียนเนื้อเรื่องต่อกันยาวๆไม่ค่อยได้ อย่างช่วงศึกสามเทพบรรพกาลก็ทำเอากระอักมาทีแล้ว)


3.จูไดคุง ปรากฏตัวมาแล้วก็หายไปเลยหรือ จากที่สังเกตุว่า เรื่องนี้ มีการเอา คาแรกเตอร์จากการ์ตูน ต่างๆปนเข้ามาเยอะทีเดียว
เช่นนั้น แล้ว จูได เองก็คงไม่พ้นแน่

4.Mystic Synchronize อย่างที่ เคยมีการพูดถึง นิยายของมันมาแล้วในตอนที่ โคทาดร่ ไปที่ ดูเอลอคาเดเมีย ว่ามันเป็น
Mystic ในสมัยโบราณ เช่นนั้นแล้วก็น่าจะเป็น การ์ดแรร์ระดับความหายากทะลุเป้า แต่ไหง ลูเีย เธอกลับมีมันและ
เอามาใช้ก่อนใครเพื่อนอีก

5.การ์ดทำเองภาคนี้ออกเยอะจัง จะมีมาเพิ่มอีกไหมเนี่ย? คำตอบคือมีแน่นอน ที่แน่คือมีการพัฒณา อสูร เทพบางตัวออก
มาเป็นการ์ดใหม่ด้วย ซึ่งจะมีจังๆตัวหนึ่ง คือ เรราเย่ นี่แหละ ต้องดูกันต่อไป

6.กลุ่มชิชิน หรือ 4 อสูรปกครอง เกี่ยวกับเป้าหมายของกลุ่ม ที่ว่ารวบรวม ดราก้อนบอล เอ้ย ลูกแก้วมะโรง ทั้ง 8 ลูกครบ
จะอัญเทพมังกรได้ และ สิ่งที่ Prince Hitler หัวโจก องค์กรNeo-Nazism พูดทิ้งท้ายไว้ คิดว่าไม่ใบ้ก็คงจะรู้กันแล้วว่า
มันคือตัวอะไร

7.bishop ผู้ทรยศ หมายความว่า คุณ นิฮิล จะเป็นเหยื่อสังเวย รายต่อไปถัดจาก โปรเฟสเซอร์ ดราก้อน หรือไม่

8.มังกรมายา จ้าวแห่งการทำลายล้าง ควาซอลโคลท์ การ์ดใบนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปมที่เกี่ยวกับภาพใน Op

9.ผูกปมไว้ขนาดนี้ไม่รีบแก้ได้มัดคอตัวเองตายแหงๆ เอาตอนไหนดีล่ะเนี่ย ยังเหลือที่ต้องเขียนอีกเพียบเยย T_T

10. เกร ล่ะ...ช่างหัวมันเถอะ!

สุดท้าย สครีมของตอนหน้า
ในตอนหน้า จะเป็นตอนที่ ลูเซีย กลับมามีบทเด่นอีกครั้ง หลังจากยกให้ ธนัท รับช่วงเด่น ยาวมาหลายตอน(ออกทุกบทนิ) ซึ่งเป็นตอนที่เราจะทำทดสอบระบบ
Ruler แบบใหม่อีกระบบ ซึ่งเป็น Mode Tag Team ที่จะแก้จากรูปแบบเดิมที่ ดวลกันดิบๆไม่มีอะไร เหมือนตอนที่ 5 ซึ่งมันจะเขียนได้ยากมาก และทำให้จำนวน
ตอนเยิ่นเย้อ และ ผมจะนับเทิร์นกันมึนเลยทีเดียว โดยจะเปลี่ยนไปใช้ระบบประยุก จากเกม เกมหนึ่งที่ไม่ขอเอ่ยนาม มาใช้กับ ระบบ Tag Ruler อันใหม่นี้
เพื่อประหยัดเวลา

และสุดท้าย สำหรับเหตุผลที่ทำไมต้องเปลี่ยน Ruler ในเรื่อง จาก ระบบ Expert Mode เป็น Master Mode ด้วย เหตุผลเพราะ ในช่วงหลังๆมา
คอมโบการ์ดส่วนมากจำเป็นต้องการ Mp ถึง 8 หน่วยในการใช้ อีกทั้ง skill ของอาแมนคริส เองก็ต้องใช้ Mp ถึง 8 หน่วย ทำให้การเล่นด้วย Mp 7 ในระดับ
Caller นั้นเป็นอุปสรรค์ไปจึงเอา ระดับของ Summoner ขึ้นมาประยุกค์กับ Ruler LV Expert Mode ให้ออกมาเป็น Ruler Level Master Mode เพื่อความสะดวกครับ


ปล. มีใครรู้บ้างว่าตอนนี้ Meta Deck หลักในงานแข่ง เค้านิยมอะไรกันมั่ง กระผมเองไม่ได้ติดตามวงการนานแล้ว เลยไม่รู้ว่าจะเอา การ์ดในไหนมาเขียน
แล้วคนส่วนใหญ่จะรู้จัก เพราะบางส่วนหรือส่วนมากนี่แหละ ที่อ่าน VR แล้วถึงพึ่งจะรู้จักการ์ดใบนี้ ทำเอารู้สึกว่าตัวเองแก่ไปเลย T_T พึ่งจะ ยี่ต้นๆเอง

[Watcharapol Luekaya]

ขอบคุณงับ วันหลังจะมาเม้นให้

[Konflyctus MX]

ช่วงหลังมานี่กระทู้เริ่มเงียบ คงเพราะเข้าสู่ช่วงเปิดเทอมกันแล้ว คนก็เลยซบเซาตามกันไป เหนือสิ่งอื่นใด
มิส(MX)คุง เป็นเด็กมหาลัยปี 1 แล้ว ณ ตอนนี้หายเงียบไปไหนกันล่ะนี่ สงสัยจะติดรับน้องอยู่ เพราะตอนที่ผ่านๆมาก็
เป็นตอน เดบิว แต่กลับไม่โผล่ซะงั้นเหอๆ

โทษทีครับท่านพี่ กระผมเองแทบไม่ได้รายงานตัวที่บอร์ดเลยช่วงนี้ รับน้องก็จบไปแล้ว แต่ตอนนี้ สาบานได้ว่าหนักกว่ารับน้อง

โปรเจคเอย สันทนาการเอย กิจกรรมชมรมเอย หลายอย่างครับเน้อ เหนื่อยจริงแท้...

แต่ว่าก็ยังคอยดูความเป็นไปจากระยะไกลครับเน้อ แหะๆๆ

[MoOmOo]

เมื่อไรพี่จาเอาเม๊ะมาให้ผมดู

[Wargreamon]

Sub-Turn 25 Cooking Duel


……………………………………………………………………………………………………………..

เช้าสายของวันนี้ บรรดานักเรียนต่างมาเรียนกันตามปกติ เพียงแต่ วันนี้เป็นหนึ่งวันที่ไม่ปกติ……..
…..

“ วันอาหารนานาชาติ...มันคืออะไรเหรอ? ”
ประโยคฉงน หลุดออกจาก ปากของ ลูเซีย หลังจากฟัง สิ่ง ธนัท และ โคทาโร่ เล่าให้เธอฟัง ถึงสภาพ
ภายในบริเวณ โรงเรียน ที่ตอนนี้ ครึกครื้นกันเป็นพิเศษ ซุ้มต่างๆถูกจัดขึ้นมากมายบน สนามกลางแจ้ง

นักเรียนหลายกลุ่มที่วุ่นอยู่กับการ ย้ายโต๊ะยาวออกจากโรงอาหารมาตั้งในซุ้มเพื่อ จัดวางถาดและจานกระดาษ
ในแต่ละ บรรจุอาหารนานาขนิดผิดทับด้วย แผ่นพลาสติกใส หุ้มปากถาดเอาไว้

“ วันนี้ จะให้แต่ล่ะห้อง นำเสนอ อาหารประจำชาติต่างๆตามที่จับสลากไว้น่ะ แล้วก็จะมีคณะกรรมการ เดินชิม
เพื่อให้คะแนนด้วย ”
ธนัท อธิบาย ขณะเดิน นำเธอ และ โคทาโร่ ไปยังซุ้มของห้อง สายตาซุกซนของ ลูเซีย พลอยกลอกกลิ้งไปมา เพื่อสอดส่องดู อาหารหลากหลายหน้าตาทั้งที่รู้จักและแบบที่ไม่เคยเห็นเลยก็มี พวกเค้า เดินตามทางไปจนถึงซุ้มสุดท้าย และเลี้ยวเข้าไปทันที ภายในซุ้ม ทั้ง แอน ชุติการ อิส และทุกๆคนในห้องเรียนเดียวกัน กำลังขมักเขม้นอยู่กับการ วางผ้าปูโต๊ะ
และนำอาหารถาดมาวางจัดแยกประเภทตามป้ายกระดาษที่แปะเอาไว้บนโต๊ะ

“ ทุกห้องจะต้องจัดอาหารไทยมาด้วย 3 ชนิด โดยจะประเมินคะแนนตามรสชาติและรูปแบบการปรุง ส่วนอาหารต่างชาติ ก็ให้จัดเตรียมาแค่ 2 อย่างพอ และประเมินตาม รสชาติรูปแบบการปรุงตรงนี้จะคะแนนเสริมเพิ่มาให้คือ การสื่อถึงวัฒนธรรมการกินของชาตินั้นๆ เพิ่มเข้ามาด้วย ”
ธนัท อธิบาย ตอนนี้ สายตาของ เธอลุกวาวเป็นมัน ทีเดียวเมื่อได้เห็น อาหารในถาด ซึ่งจัดเอาไว้อย่างสวยงาม แลดูน่ากิน
ทั้ง ต้มยำกุ้งน้ำข้น กุ้งสุกเนื้อสีชมพูอ่อนลอยอยู่เต็มถาดคลุกเคล้ากับเครื่องต้มยำทั้ง ขิงข่า ตะไคร้ ถาดข้างเคียง

คือส้มตำปูม้า เส้นมะละกอสับคลุกพริกตำไทยและเนื้อปูแกะแล้วโรยหน้า ประดับข้างถาดด้วย ก้ามปูสด
สองก้ามถาดถัดมาของฝั่งอาหารไทย คือหมูผัดกระเทียมพริกไทย ที่ผัดจนเนื้อคลุกเคล้ากับเครื่องกระเทียมจน
สุกเหลืองชวนน้ำลายสอ อีกฝั่ง จัดวางถาดอาหารต่างชาติ ไล่มาจากซ้ายสุด คือเส้นบะหมี่ราเม็ง เส้นอวบยาว

กองอยู่ครึ่ง ถาดและอีกครึ่งใส่ซุปมิโซะ ลวกลูกชิ้นปลาแผ่นนารูโตะ(ลูกชิ้นแผ่นกลมแบนแบบของญี่ปุ่น)
แยกเอาไว้ ถาดถัดมา เป็นเซ็ต กุ้งชุบแป้งทอดและไข่เจียวญี่ปุ่น กุ้งทอดตัวยาวๆทอดจนสุกเหลืองกรอบน่ารับประทาน

วางซ้อนกันเป็นชั้น และประดับรอบด้วย ไข่เจียวแผ่นสีเหลี่ยม หนานุ่มจนดูเหมือนก้อนเนย สีเหลืองทองยิ่งทำให้ น้ำย่อย
หลั่งออกมามากขึ้นไปอีก และท้ายสุด กองข้าวปั้นขนาดพอดีมือวางกองอยู่ในถาด เหมือนจะเชิญชวนให้หยิบไปขย้ำกินเสียให้ได้

“ ปีนี้ห้องเราจับสลากได้ อาหารญี่ปุ่นน่ะ..แล้วก็ห้ามกิน ก่อนคณะกรรมการ มาประเมินด้วย ”
โคทาโร่ พูดพร้อมกับรั้งคอเสื้อ ลูเซีย ไว้ไม่ให้กระโจนลงไปขย้ำ อาหารถาดบนโต๊ะ เธอจึงได้แต่ยืนดูอาหาร
ในถาดน้ำตาตกน้ำลายยืด

“ นี่พวกนายสองคนน่ะ อย่ามัวแต่ยืนดูสิมาช่วยกัน หน่อยอีกเดี๋ยวงานจะเริ่มแล้วนะ! ”
ชุติการ ตะคอกเสียงใหญ่ใส่ ทั้งสองที่ยืนอยู่หน้าซุ้มให้ตามเข้ามาช่วยจัดช้อนส้อม

“ จริงสิวันนี้ เคียว มารึเปล่า? ”
ธนัท หันมาถาม หลังจากจัดช้อนไปได้ครึ่งนึง ชุติการ กับ แอน ได้แต่ ส่ายหน้า วันนี้ เคียว ก็ยังคงไม่มาเรียนอีกเช่นเคย
แต่ยังไม่ทัน ที่จะ ธนัท จะได้พูดอะไร อาจารย์บุษบา ก็เดินเข้ามาตีมือที่ จัดช้อนส้อมของเค้า อยู่จนสะดุ้งชักออกโดยอัตโนมัติ ทำให้ ช้อนส้อม ร่วงกระจายในทันที

“ ธนัท ทำอะไรของเธอน่ะ จัดช้อนส้อม ก็วางสลับซ้ายขวา แล้วยังจะทำตก อีกรีบเก็บเร็วเข้า งานจะเริ่มแล้วนะ ”

โคทาโร่ รีบเข้ามาช่วย เค้าเก็บ ช้อนส้อน ออกไปล้าง และให้ ลูเซีย กับ แอน มาช่วยจัด ช้อนส้อมที่ยังพอมีเหลือต่อแทน
การเตรียมงานเป็นไปอย่างชุลมุนวุ่นวาย ไม่น้อย จนในที่สุดเมื่อ ทุกอย่างเข้าที่ เสียงเพลงก็ดังขึ้นจากลำโพงทุกตัว
ภายในเขตโรงเรียน

……ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อ ชาติเชื้อไทย~~~~


ทันทีที่เสียงเพลงชาติดังขึ้น ทุกคนก็หยุดทำทุกอย่าง และยืนตรงตัวนิ่ง กันทันที อย่างอัตโนมัติ จนเมื่อเสียงเพลงจบลง
ทุกคนจึงโค้งเล็กน้อยเพื่อเป็นการทำความเคารพ ก่อนจะตามมาด้วยเสียง พิธีกร เวทีวขึ้นกล่าวนำสวดมนต์

อะระหังสัมมา สัม………

เมื่อเสียงกล่าวนำสวดดัง ทุกคนจึงยกสองมือขึ้นประนม และกลาวตามด้วยท่าทีสงบจนเมื่อ การสวดมนต์ตามพิธีใน
ช่วงเช้าจบ เสียงบรรเลงเพลง คลาสสิก จึงถูกเปิดขึ้น

“ วันนี้เป็นวันอาหารนานาชาติ ซึ่งทางโรงเรียนมนต์วิทยาได้จัดขึ้นทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามหลักสูตรการศึกษา… ”
เสียง ประกาศเปิดพิธีดังขึ้น ผ่านจากไมค์ ขาตั้งบนเวทีสนาม อาจารย์ใหญ่ กำลังกล่าวปราศัยการเปิดพิธีในวันนี้
ซุ้มต่างๆที่ยังจัดกันไม่เสร็จจึงเริ่มทำงานต่อไปด้วย

………………………

หลังพิธีเปิดงานเสร็จสิ้นลงแล้ว คณะกรรมหาร ซึ่งประกอบด้วยคณะอาจารย์ 4 ท่านด้วยกันนำโดย อาจารย์รัตนชา
ก็เริ่มออกตระเวนไปตามซุ้มต่างๆ เพื่อประเมินและให้คะแนน โดยซุ้มห้องของ ธนัท และทุกคนประเดิมเป็นซุ้มแรก
คณะกรรมการทั้ง 4 เดินเข้ามาภายในซุ้ม และตรงไปที่ โต๊ะวางถาดอาหารที่ส่งประกวด ซึ่งตอนนี้ได้ แกะเอา พลาสติกหุ้มออกแล้ว กลิ่นหอมของ อาหารจาก ทั้ง 6 ถาด ลอยโชยมาเตะจมูก เย้ายวนให้ลองทานยิ่ง

แอน และชุติการ ทั้งสองคนเข้ามา ช่วยตักอาหารแต่ล่ะอย่างลงในจานกระดาษที่เตรียมไว้ แล้ว แอน
จึงจัด ช้อนส้อมวางใส่ในจานกระดาษ และส่งให้ คณะกรรมการชิมอีกที
หลังจากการ ชิมอาหารผ่านไปด้วยดีทั้ง 6 ถาดแล้ว ก็ถึงเวลาฟังคำประเมิน จาก อาจารย์รัตนชาที่
เป็นตัวแทนคณะกรรมการ

“ ด้านอาหารตางชาติ รูปแบบการปรุงสื่อ ออกมาถึงวัฒนธรรมการกินได้ดี แต่การจัดวางและการนำเสนอยัง
ไม่ดีเท่าไหร่ อย่างอาหารญี่ปุ่น ก็มีทั้ง ราเม็งกับกุ้งทอด สองอย่างนี้ ถ้าให้ใช้ตะเกียบทานจะเข้าถึงวัฒนธรรมได้
มากกว่าการใช้ช้อนส้อม นะ ส่วนเรื่องรสชาติ ถือว่าทำได้ดี อร่อยมาก ในด้านอาหารไทย
ก็ไม่มีข้อตำหนิอะไร พวกเธอทำได้ดีมาก ”

เมื่อฟังการประเมินจบแล้ว นักเรียนทุกคนในซุ้ม จึงโค้งขอบคุณ ก่อนจะส่ง คณะกรรมการ ออกจากซุ้ม

“ ทุกคนพยายามกันได้ดีมาก เพราะงั้นแล้ว ที่เหลือนี่ก็กินกันตามสบายเลยนะ ครูขอตัวก่อนล่ะ ”
อาจารย์บุษบารี กล่าวก่อนจะรีบสะพายกระเป๋าห้อย เตรียมเดินออกไป

“ อาจารย์ไม่มาทานด้วยกันเหรอครับ? ”
ธนัท ถาม

“ ไม่ล่ะเพราะเดี๋ยวครูต้องเตรียมตัวสำหรับการ ประเมินรายการแข่งทำอาหารช่วงเที่ยงอีก เธอกับ โคทาโร่ ทานเสร็จแล้วก็รีบไปเตรียมตัวแข่งเข้าล่ะ ครูไปก่อนนะ ”
อาจารย์ บุษบารี พูดก่อนจะสาวเท้าเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

“ แข่ง? พวกนายสองคนต้องไปแข่งอะไรกันเหรอ ”
ลูเซีย ถามหลังจากได้ยินสิ่งที่อาจารย์ บุษบารี พูดทิ้งท้ายไว้

“ เรื่องนั้นน่ะ…. ”
“ เฮ้!!! ธนัท!!! ”

ยังไม่ทันที่ ธนัท จะอธิบาย เสียงของ มิส ก็ดังขึ้น ก่อนจะลากตัว บาร์น ตรงมาที่หน้าซุ้ม
ด้วยกัน

“ ช..ช้าๆหน่อย มิส ฉันจะล้ม ว…เหวอ!! ”
บาร์น เผยอขณะกำลังจะเสียหลักล้มเพราะถูกมิส กึ่งลางกึ่งจูง จนในที่สุด ก็ลากเอามิส ลงไปนอนคลุกฝุ่นด้วยกัน

“ พวกนายสองคนไปทำกรรมอะไรกันเอาไว้รึไง ถึงได้ซวยแล้วซวยเล่ากันขนาดนี้เนี่ย ”
โคทาโร่ เปรย เสียงหน่ายกับความซุ่มซ่ามไม่เลิกของ บาร์น

“ ที่ซวยน่ะไม่ใช่ฉัน ซักหน่อย~~ ”
มิส พยายามแก้ตัว

“ แต่ฉันว่านะ คนที่จะซวยเพราะชอบลากตัวซวยไปด้วย ก็คือนายนั่นแหละ ”
ลูเซีย ออกความเห็นบ้าง ครั้งนี้คงจะเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นด้วยกับ โคทาโร่ เลยกระมัง

“ แล้วพวกนายไม่ต้องไปประจำที่ซุ้มของตัวเองเหรอ? ”
ธนัท ถาม

“ พวกเรานักเรียนแลกเปลี่ยน ยังไม่ได้กำหนดห้องที่จะเรียน จริงๆจังๆ กัน ก็เลยไม่มีงานกับเค้า
ช่วงนี้อาจารย์ใหญ่ก็เลยให้อาศัยไปเรียนร่วมกับห้องอื่นก่อนชั่วคราวน่ะนะ ”
บาร์น อธิบาย พร้อมกับใช้มือปัดฝุ่นบนเสื้อ ออก

“ งั้นพวกนายก็มากินด้วยกันเลยสิ ซุ้มเราพึ่งตัดสินเสร็จเอง ”
ชุติการ ชวนทั้งสองตอบรับด้วยความยินดียิ่ง ก่อนจะตามกันต้อยๆเข้าไปในซุ้ม พวกเคาทั้งหมดจึงกลับ
เข้าไปในซุ้มกันอีกครั้ง ด้านในตอนนี้ นักเรียนในห้องช่วยกันตักอาหารแจกจ่ายกันไปกินอย่างทั่วถึง
ทุกคนทานกันอย่างเอร็ดอร่อย จนอาหารในถาดลดลงอย่างรวดเร็ว

“ อื้ม~~~ไอ้นี่อร่อยสุดๆไปเลยแหะ ”
มิส พูดหลังจากงับกุ้งทอดเข้าไปครึ่งตัว ก่อนจะกลืนที่เหลือตามลงไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่ ชามราเม็ง
ที่ แอน พึ่งส่งให้ เพียงพริบตาก็ลงไปอยู่ในท้องจนหมด แม้แต่ ชามต้มยำกุ้งกับจานใส่หมูทอกกระเทียม
ก็หมดอย่างรวดเร็ว

“ ของพวกนี้ พวกนายทำกันเองหมดเลยเหรอ ”
มิส ถามขณะที่กำลังจะสวาปาม ส้มตำต่อ

“ ถ้าอาหารไทย น่ะ ธนัท เป็นคนปรุงหนา ส่วน อาหารญี่ปุ่น โคทาโร่ เป็นคนจัดการหลา ”
แอน กล่าวพร้อมกับ ชี้ไปยังทั้งสองคนที่กำลังทานไปคุยไปอย่างสนุกสนาน กับบรรดาเพื่อนๆในห้อง

“ เหรอ? สองคนนั้นทำอาหารเก่งเหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อเลยแหะ ”
มิส ทำตาโตด้วยความประหลาดใจนิดหน่อย

“ นี่แล้ว บาร์น ไม่กินอะไรหน่อยเหรอ ”
ชุติการ ถามพร้อมกับ ยัดเยียดจาน กุ้งทอดให้ แต่บาร์น ก็ปฏิเสธที่จะไม่รับมัน

“ คือว่าผัก เป็นมังสวิรัตน์ น่ะ ”

“ งั้นกิน ราเม็งก็ได้นี่เดี๋ยวตักเอาแต่ซุปเพียวๆแล้วใส่เส้นเอา ”
โคทาโร่ เสนอให้ แต่ บาร์น ก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธอีก

“ พวกเส้นยาวๆยืดๆ ผักก็ไม่ชอบกินเหมือนกัน ”

“ เลือกกินซะจริงนะ ”
ชุติการ บุ้ยปากใส่เมื่อ บาร์น ปฏิเสธหมดเสียทุกอย่าง แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร มิส ก็พุ่งเข้ามา
พร้อมกับ เอาข้าวปั้นยัดใส่ปาก บาร์น ไม่ให้ตั้งตัว จนข้าวปั้นอัดเข้าไปเต็มปากเต็มคำ

“ ถ้าเอาแต่เลือกกิน ระวังจะไม่โตเอานะ ข้าวปั้นนั่นน่ะ อร่อยสุดยอดไปเลยล่ะลองกินมันเข้าไปเดี๋ยวนายก็จะรู้เอง ”
มิส สาธยาย ไปพลางแทะข้าวปั้นในมือไปด้วย จนแทบไม่ต่างไปจาก หนูแฮมฯกำลังแทะเมล็ดทานตะวัน
โดยที่ไม่ดูเลยว่า เพื่อนของตนกำลัง จะติดคอตายเพราะข้าวปั้นที่ยัดเข้าไป

“ น..น้ำ น้ำ รีบเอาน้ำมาเร็ว!! ”
ชุติการ ตะโกน เมื่อ บาร์น เริ่มหน้าซีดเพราะขาดอากาศ

“ หวาย วอเตอร์!!! วอเตอร์!!(Water) ”
แอน วิ่งวุ่นตรงไปรินน้ำทันที เพื่อนๆทั้งซุ้มหันมามองด้วยความฉงน กันเป็นทางเดียว

“ รสชาติของ ข้าวกับสาหร่ายที่เข้ากันกับรสเค็มจากเกฃือที่โรยบนข้าวนี่จะทำให้นายเหมือนขึ้นสวรรค์เลยล่ะ ”
มิส ยังคงบรรยายต่อโดยไม่ได้ดูเลยว่าตอนนี้ บาร์น หน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว

“ นี่มันจะไปสวรรค์ จริงๆอยู่แล้วนะ ”
ชุติการ ตะเบ็งเสียงใส่ให้เจ้าตัว หันมามองบ้าง โดยที่ตอนนี้ โคทาโร่ กำลังเตรียมจะตบหลังเพื่อให้ บาร์น สำลักข้าวออกมา

“ แทะเหมือนหนูเลยง่า~~~ ”
ธนัท เปรย มิส ยังคงแทะข้าวปั้นต่อโดยไม่ได้รับรู้อะไรเลยอยู่เหมือนเดิม

“ สมแล้วล่ะที่อยู่กับเจ้าหนูพวกนั้นได้ ”
เสียงจากบรรดา อสูร ในสำรับของ ธนัท ต่างก็หนักใจไม่แพ้กัน

“ ท่า เวียร์วูฟ ตบเกรียน!!! ”

เปรี้ยง!!!! อ่อก!!! ฟิ้ว!

ทันทีที่ โคทาโร่ ฟาดฝ่ามือลงไปที่หลังของ บาร์น เต็มแรง ข้าวปัมที่อัดอยู่เต็มปากก็หลุดโพละ ออกมาและพุ่งเข้าไป
หา มิส ทันที

ตูม!!!

แรงส่งข้าวปั้นทั้งก้อนกระแทกใส่หน้า มิส จนตัวลอย ก่อนจะลงไปน๊อคบนพื้นทันที

“ วอเตอร์ มาแล้ว อะ ว้าย!!! ”
แอน ที่รีบวิ่งมาจะเอาน้ำไปให้ เผลอสะดุด มิส ที่นอนอยู่จนทำน้ำในแก้ว หกกระจายไปสาดใส่ บาร์น
เสียเปียกโชกไปทั้งตัว

สภาพที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้นคือ บาร์น ที่เปียกโชก นั่งอยู่บนเก้าอี้หลังงอ เพราะแรงตบของ โคทาโร่
ทำเอา หลับลึกไปเลยทีเดียว กับ มิส นอนหมดสติ อยู่บนพื้น เพราะถูกน๊อคด้วยข้าวปั้น ทำให้ ทั้งซุ้มเละ
ตุ้มเป้ะ จนทุกคนอดคิดเป็นเสียงเดียวกันเสียมิได้ว่า

{ไอ้สองตัวนี้มันช่วยกันซวยนี่หว่า…..}

…………………………………………..

หลังจากช่วยกัน เก็บกวาดเศษข้าวและน้ำที่เปียกชุ่มไปทั้ง ซุ้มเสร็จเป็นที่เรียบร้อย พร้อมกันกับส่ง ทั้งมิส และ บาร์น
ไปห้องพยาบาลแล้ว ทุกคนก็หมดแรงกันไปมากทีเดียว

“ นี่ ธนัท อีกเดี๋ยวเราต้องไปลงแข่งแล้ว รีบเตรียมตัวเหอะ ”
โคทาโร่ พูดหลังดูเวลาบนจอโฮโลแกรมที่ฉายจาก มาราคัส Note ของตน

“ จริงสิ พวกนายยังไม่ตอบเลยว่ามีแข่งอะไรงั้นเหรอ ”
ลูเซีย ท้วงขึ้นมา เพราะเธอยังไม่ได้คำตอบในเรื่องนี้เลย และยังไม่ทันที่ ทั้งสองคนจะตอบคำถามให้เธอ
ก็มีนักเรียนหญิงจากห้องอื่น เดินเข้ามาหัวเราะเสียงดัง ในซุ้มทันที

“ โฮ้~~~โฮะ โฮะ โฮะ เป็นยังไงกันบ้างคะ ซินยอร์ ธนัท & ซินยอร์ โคทาโร่ ปีนี้พวกคุณเตรียม
ที่จะยกตำแหน่งจ้าวกระทะเหล็กให้กับฉันเอาไว้แล้วรึยัง ”

นักเรียนสาวผมสั้นสีดำคลับสวมผ้ากันเปื้อนสีชมพู ลักษณะท่าทางหยิ่งๆ พูดกับ พวกเค้าทั้งสองคน
ด้วยน้ำเสียงมั่นใจอย่างล้นปรี่ ขณะ ที่ลูเซีย กำลัง งง ชุติการก็ถือโอกาสเข้าไปแจงให้เธอฟังโดยละเอียด

“ คือว่ามันอย่างนี้นะ ลูเซีย ในงานวันอาหารนานาชาติ จะมีรายการหลักของงาน คือการแข่งทำอาหารที่เรียกว่า
ศึกชิงยอดยุทธกระทะเหล็ก มันเป็นการแข่งขันที่ต้องใช้ ทักษะการทำอาหารการประสานงานและ
ความสามารถในการดวล 3 อย่างนี้รวมเข้าด้วยกัน ”

แม้ว่าเรื่องที่ ชุติการ อธิบายมานั้น เธอจะเข้าใจอยู่บ้างแต่ที่เธอสงสัยคือทำไมถึงได้มีการดวลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
จึงถามกลับออกไป

“ แล้วไอ้การดวลนี่มันมาเกี่ยวอะไรกับทำอาหารล่ะเนี่ย ”

“ ก็ในการแข่งน่ะ จะให้แต่ละทีมที่เข้าแข่งจับคู่กันสองคน แล้วทำการดวลไปด้วยระหว่างทำอาหาร โดยจะสลับกันเล่นในแต่ละรอบ แล้วให้อีกคนที่ว่างอยู่ไปทำอาหารด้วย ”

“ ใช่แล้วล่ะค่ะ!! ”

ชุติการ พูดไปได้เดี๋ยวเดียว นักเรียนสาวผู้มาใหม่ ก็แทรกขึ้นมาทันที พร้อมกับรับช่วงอธิบายต่อ

“ การแข่งนี้ จะใช้เวลาการดวลเป็นเวลาในการทำอาหาร หรือก็คือถ้าไม่มีทักษะในการดวลที่ดีก็จะทำให้ดึงเวลาที่จะใช้ทำอาหารไม่ได้ กลับกันถ้าสามารถคุมเกมไว้ได้ก็สามารถเลือกที่จะให้เวลาหมดลงตอนไหนก็ได้ ยังไงล่ะคะ ”

“ เพราะงั้นมันก็เลยเป็นการแข่งที่ต้องอาศัยทั้งฝีมือการดวลและฝีมือการทำอาหารด้วย และสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือการประสานงานกันในทีม เพราะถ้าอีกคนที่กำลังทำอาหารอยู่ ต้องถูกสับเปลี่ยนไปลงเล่นแทน อีกคนที่เล่นอยู่ก่อนก็ต้องเข้ามาทำอาหาร แล้วถ้าไม่รู้ว่าจะต้องปรุงยังไงต่อก็จะทำให้ อาหารออกมาไม่ดีหรืออาจจะเสียเอาได้ ”

ธนัท ช่วยต่อให้จน ลูเซีย เข้าใจในรายละเอียดทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อย

“ ธนัท กับ โคทาโร่ สองคนนี้เป็นแชมป์ตั้งสองสมัย ด้วยล่ะจะบอกห้าย~~~ ”
แอน กล่าว จน ลูเซีย อดทำตาโตด้วยความประหลาดใจเสียมิได้ ขณะที่ นักเรียนสาวซึ่งเดินเข้ามาท้าทาย นั้น
กัดฟันกรอดด้วยความริษยา

“ ว่าแต่เธอเถอะปีนี้หาคนมาจับคู่ได้แล้วเหรอ ปีที่แล้วที่มาจับคู่ด้วยก็ดันดวลไม่ได้เรื่องสุดท้าย
เลยทำอาหารออกมาไม่ทันเลยซักจานนี่ ”
โคทาโร่ ทักขึ้นมาทำเอา เธอสะดุ้งโหยงทันที

{ตายล่ะหว่า เรายังไม่ได้หาตัวคนที่จะมาคู่ด้วยเลยนี่ เพราะมัวเอาแต่คิดสูตรทำอาหารขั้นสุดยอดที่จะ
เอาไว้คว้าชัยจนลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลย}
นักเรียนสาว หันซ้ายทีขวาที เพื่อมองหาคนที่เธอพอจะจับคู่ด้วยได้ จนเหลือบไปเห็น ลูเซีย เข้า
เธอคลี่ยิ้มออกมาในทันที

{อ๊า~~นั่นมัน ซินยอร่า ลูเซีย อาคแอง ที่เคยเอาชนะ อาจารย์รัตนชา มาได้นี่คะ ถ้าได้จับคู่กับเธอคนนี้ล่ะก็เราต้องชนะแน่}

ไม่พูดพร่ำทำเพลงแต่อย่างใด เธอรีบสาวเท้าเข้าไป กุมสองมือของ ลูเซีย เอาไว้อย่างนุ่มนวลที่สุด
ทำเอา เธอ เอ๋อไปชั่วขณะ

“ ซินยอร่า ลูเซีย คุณได้รับเกรียติอันสูงส่งให้มาเป็น คู่หูในการแข่งครั้งนี้นะคะ ”
นักเรียนสาวกล่าว ขณะที่ ลูเซีย ยังคงนั่งนิ่ง งงเป็นไก่ตาแตกและเมื่อพยายามจะพูดออกมา ก็ถูกเธอขัดเอาไว้ทันที

“ โอ๊ะ โอ๊ะ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ ดิฉันเห็นความสามารถในตัวของคุณจึงได้เอ่ยปากชักชวนหรอกนะคะ
เอาล่ะค่ะเรามาจับมือคว้าชัยด้วยกันในการแข่งนัดนนี้เถอะค่ะ อีกครึ่งชั่วโมงการแข่งก็เริ่มขึ้นแล้ว ดิฉันขอไปเตรียม
ตัวก่อน แล้วเจอกันบนเวทีนะค้า~~~~ ”

สิ้นคำเธอก็จ้ำเท้าหน้าตั้งวิ่งออกจากซุ้มไปทันที โดยไม่รอให้ ลูเซีย ได้ถามไถ่ซักคำ

“ เอาอีกแล้ว ปีที่แล้วก็แบบเนี้ย เฮ้อ~~แล้วเมื่อไหร่เราจะได้ถอนตัวจาก งานแบบนี้ซักทีล่ะเนี่ย ”
โคทาโร่ เปรยเสียงหน่าย

“ เอ่อ เธอคนนั้นเป็นใครกันน่ะ ”
คำพูดเดียวเท่าที่จะนึกออกมาได้หลังจากถูกยัดเยียดภาระมาแบบพูดเองเออเอง หมาดๆ

“ นักเรียนห้องพิเศษ โรซ่า สปอซาเร่(Rose Sposare) บ้านเธอเปิดร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน น่ะ ช่วง 2 ปีก่อนเธอครองตำแหน่งแชมป์ซ้อนกันมากว่า 3 ปีแล้วล่ะ แต่พึ่งมาเสีย แชมป์เอาตอนพวก ธนัท ลงแข่งน่ะแหล่ะ ”
ชุติการ ตอบ

“ ก็เพราะงี้แหละถึงต้องมาลงแข่งในฐานะแชมป์มันทุกปีไง แล้วยัยนั่นก็ไม่ชนะซักที แบบนี้เราไม่ต้องมา
แข่งมันทุกปีจนจบเลยรึไงนะ ”
โคทาโร่ บ่นอุบอิบ อย่างเซ็งๆ

“ ว่าไปแล้ว พวกนายสองคนทำไมถึงลงแข่งล่ะ เห็นบ่นว่าไม่ชอบงานแบบนี้ไม่ใช่เหรอ ”
ลูเซีย ถามหลังจากฟังเสียงบ่นของ โคทาโร่ มาตลอด

“ เพราะว่าปีนั้นจำนวนผู้เข้าแข่งมันไม่มีน่ะสิ อาจารย์บุษบารี เป็นกรรมการตัดสินก็เลยออกปากชวนพวกเราขึ้นไป
แข่งเล่นๆ แต่ดันพลิกล๊อคชนะแบบขาดลอยเลย ”
ธนัท อธิบายสีหน้าบ่งบอกให้เห็นภาพเลยว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีตที่ผ่านมา ทำเอา เธอ อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน

“ แล้วจะเอายังไง เธอน่ะ จะไปตามคำชวนไหมล่ะ ”
โคทาโร่ ถามเสียงขุ่น เธอเกือบจะตอบกลับไปว่า ไม่เอาแน่อยู่แล้ว แต่เธอก็ชะงักไปก่อนจะได้พูด ราวกับนึก
อะไรบางอย่างออก

“ อืม~~…..ฉันว่า ฉันลงแข่งด้วยดีกว่า มันก็น่าสนุกดีออก ”

…………………………..
………………………………………………

ดวงตะวันย้ายทิศขึ้นสูงสุดอันเป็นสัญญาณแห่งเที่ยงวัน บรรดานักเรียนต่างก็มารุมล้อมรอบเวที เพื่อดูรายการหลักของ งานในวันนี้

“ เอาล่ะนะค้า~~~~ ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ถึงเวลาของการแข่งขันดวลทำอาหาร Duel Cooking แล้วล่ะค่า ”
ไกอา ตะโกนใส่ไมค์ จนเสียงก้องไปทั่วทั้งโรงเรียน บัดนี้บนเวที ได้มีการติดตั้งโต๊ะครัว แบบกระทัดรัด ขึ้นที่สองฝั่ง
ของเวที โดยที่ตรงกลางนั้น เป็น โต๊ะกรรมการ และ หน้าโต๊ะกรรมการ ก็มีการตั้งโต๊ะพิเศษที่ติดตั้งเครื่องสำหรับ
ทำหน้าที่แทน Note ในการอัญเชิญ อสูร และเวทมนต์ เพื่อการแข่งนี้โดยเฉพาะ


“ ระหว่างที่รอให้ทีมงานทำการเตรียมพื้นที่ ไกอา จะอธิบาย กฏของการดวลนี้ให้ฟังกันไปพลางๆก่อนค้า~~
การ Duel Cooking จะใช้กฏระดับ Ruler แบบพิเศษสำหรับเล่นเป็นคู่ ซึ่งก็คือ Tag Duel Level Master Mode นั่นก็หมายความว่า Shrine จะมีเท่ากับ 8 เหมือน Level Master Mode ค่ะ ”
ไกอา อธิบาย พร้อมกันนั้น จอภาพโฮโลแกรมก็ถูกฉายขึ้น ด้านหลังโต๊ะกรรมการ ฉายรายละเอียด ของกฏ
ในครั้งนี้

“ สำหรับกฏการ Tag Duel นั้น จะให้ผู้เล่นของแต่ล่ะ ฝ่ายมีกันสองคน และต่างเตียมสำรับของตนมา จากนั้นจะให้สลับกันเล่น ในแต่ละรอบ เช่น เมื่อผู้เล่น A จบรอบของตัวเองแล้วและเข้าสู่รอบของผู้เล่น C ผู้เล่น C ก็จะต้องเปลี่ยนตัวให้ผู้เล่น D
ที่อยู่ฝั่งเดียวกันเข้ามาเล่นแทน และเมื่อผู้เล่น D จบรอบของตัวเอง และเข้าสู่รอบการเล่นของผู้เล่น A ผู้เล่นก็จะต้องเปลี่ยนให้ผู้เล่น B ที่อยู่ฝั่งเดียวกัน เข้ามาเล่นแทน จากนั้นก็ผลัดกันไปเรื่อยๆแบบนี้ โดย จะใช้ Seal กับ Mystic ในสนาม Mp และ Shrine ร่วมกันแต่แยกการ์ดบนมือกับในสำรับ ค่ะ ”

“ หรือก็คือ ผู้เล่นฝั่งเดียวกันที่ไม่ได้เล่นในรอบนั้นจะไม่สามารถสั่งการการ์ดในสนามและบนมือได้ ต้องให้ผู้เล่นที่ได้เล่นในรอบนั้นเป็นคนสั่งการแทนทั้งหมดนั่นเอง ซึ่งเท่ากับว่าจะการประสานงานกันในฝั่งจะต้องกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน ”

ระหว่างที่ ไกอา กำลัง อธิบาย บีบิส ก็แทรกขึ้นมาตัดบทให้อย่างเรียบๆ โดยที่ จอโฮโลแกรมฉายภาพตัวอย่างการเล่นตามที่ ไกอา อธิบายไว้อย่างละเอียดก่อนจะปิดลง คณะกรรมการตัดสินการแข่ง และ ผู้เข้าแจ่งทั้งหมดต่างขึ้นมาพร้อม
กันบนเวทีหมดแล้ว

“ ถ้ายังงั้น เราไปรู้จักผู้เข้าแข่งขันและ คณะกรรมการบนเวทีกันเลยดีกว่าค่ะ เริ่มจากทางผู้เข้าแข่งขันก่อนนะค้า~~~ ”
ไกอา ลากเสียง ก่อนจะผายมือไปด้านหลังของเธอ ที่ บรรดาผู้เข้าแข่ง ซึ่งมีเพียง 4 คนดเท่านั้น ยืนอยู่

“ สำหรับปีนี้ก็มีผู้เข้าแข่งเพียง 2 ทีมเช่นเคย เริ่มจากทีม แชมป์เก่า การจับคู่กันระหว่าง
ตำนานเดินได้และPawn of Checkmate 5 ธนัททาทิเวศ จงกลาง และ โคทาโร่ เซนาคาว่า ค่า~~~~ ”

เสียงฮือฮาดังกระหึ่นขึ้นจากกลุ่มนักเรียนด้านล่าง โดยเฉพาะจากบรรดาเพื่อนๆในห้อง ที่จะส่งเสียงเชียร์กันดังเป็นพิเศษ

“ และทีมผู้ท้าชิง อดีตแชมป์จะมาขอล้างตาเพื่อทวงเอาบัลลังค์คืน ราชินีแห่งอาหาร อิตาเลี่ยน ได้จับมือกับ นักเรียนสาวเข้าใหม่แต่มีผลงานการดวลอันน่าทึ่ง โรซ่า สปอซาเร่ และ ลูเซีย อาคแอง ค่า~~~~ ”

เสียงเชียร์จากบรรดาเพื่อนๆด้านล่าง ทำเอา ลูเซีย ประหม่าจนมือสั่นไม่หยุด แต่เมื่อเธอนึกถึงจุดประสงค์ที่เข้าร่วมการแข่งนี้
อีกครั้งจึงทำให้เธอหยุดสั่นลงได้ ขณะเดียวกัน ไกอา ก็เริ่มการแนะนำคณะกรรมการ ที่ประจำเก้าอี้ ทั้ง 4 ตัวแล้ว

“ ต่อไปเราจะเริ่มแนะนำเหล่าผู้ที่จะมาตัดสินการแข่งขันในครั้งนี้กันนะคะ เริ่มจาก ท่านแรก อาจารย์พิเศษผู้จืดจางของเรา คริฟ อีสวู้ด นั่นเองค่า ”

“ จ…จืดจางเหรอ ”
อาจารย์ คริฟ ตีหน้าซีดเผือดทันที กับคำประกาศนามของตัวเอง

“ ต่อมา คืออาจารย์ประจำผู้มากประสบการณ์ในการตัดสิน อาจารย์ บุษบารี ผกาสรวงค์ ”
อาจารย์ บุษบารี โบกมือทักทายพอเป็นธรรมเนียน ก่อนจะเริ่มการแนะนำ คณะกรรมการคนถัดไป

“ และถัดมา 1 ในมหาอำนาจแห่ง Master Ceremony และเธอยังเป็นเจ้าหญิงของราชวงศ์ สเปน ที่โด่งดัง ผู้มอบความเป็นไท แด่ เหล่า DNA-Changer แวมไพร์สาวผู้น่าพรั่นพรึง
มาริน่า อัลโตมาเร่ เอลิซาเบท มาริโอเนตต้า(Marina Altomare Elisabeth Marionetta) ”

“ ชิ…ไม่เห็นต้องเรียกกันเต็มยศแบบนั้นเลย ”
มาริน่า เปรยเสียงเรียบ แต่หลังจากที่ประกาศชื่อเธอแล้ว ทุกคนกลับเงียบเสียงลงจนเงียบกริบแทน เลยทำเอา เธอ ของขึ้น
ถ้า หาก ศรี กับ ริน ไม่รีบขึ้นเวทีมาปรามเธอไว้ก่อน การ์ดผนึกของ อัลคารากอน คงถูกอัญเชิญไปแล้ว

“ เอาล่ะค่ะ มาที่คนสุดท้ายเค้าคือ นักเรียนแลกเปลี่ยนผู้เด่นดัง หนุ่มน้อยที่เรียกเสียงฮาจากพวกเรา
มิสตาลจิกัส คอนฟลิกตัส ค่า~~~ ”

“ แหะๆ ขนาดนั้นเลยเหรอ ”
มิส ยิ้มรับแห้งๆ พลางใช้มือเกาหัวแก้เขิน


“ เอ้า คราวนี้จะมาป่วนงานแข่งด้วยรึไงเนี่ย ”
โคทาโร่ หัน มาเหน็บ

“ แล้วไม่เป็นไรแล้วเหรอที่โดนข้าวปั้นอัดคอเคล็ดน่ะ ”
ธนัท ถามไถ่อาการเพราะเห็นว่า เจ้าตัวสบายดีซะจนไม่อยากเชื่อสายตา

“ อ๋อก็ยังเคล็ดอยู่นิดหน่อยน่ะ ”
มิส พูดทว่าเมื่อพวกเค้าสังเกตุเห็น มิส นั่งหันลำตัวไปทางซ้ายของเก้าอี้ แต่คอดันหันมาทางพวกเค้า ก็ดูจะสวนกับคำพูดของ
เจ้าตัวเต็มที

“ นี่มันไม่หน่อยแล้ว…. ”
ทุกคนต่างพูดขึ้นเป็นเสียงเดียวกัน ขณะที่เจ้าตัวหัวเราะ แห่ะ ทำเหมือนกับไม่มีอะไร

“ เอาเป็นว่า ตอนนี้เราก็ได้รู้จักกับ ผู้เกี่ยวข้องกันหมดแล้วจากนี้ไปขอเชิญ ท่านอาจารย์ รัตนชา ขึ้นมา
เปิดตัววัตถุดิบหลักที่จะใช้การทำอาหารครั้งนี้นะค้า~~~~ ”
ไกอา แทรกขึ้นตัดบท ก่อนจะเชิญ อาจารย์ รัตนชาขึ้นมา โดยมี นักเรียนอีก3-4 คนช่วยกันหามเอา ถาดยักษ์ขึ้นมา
2 ถาดด้วยกัน และนำไปวางไว้บนโต๊ะครัวของ ทั้งสองฝ่าย

“ สำหรับวัตถุดิบหลักที่ให้ใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ คือ ……… ”
อาจารย์รัตนชา เอ่ยขึ้นก่อนที่ จอภาพโฮโลแกรมจะฉายขึ้นอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้บนจอกำลังแสดงภาพของ เนยแข็งกองโต
4 ชนิด พร้อมกันนั้น นักเรียนที่ช่วยกันหามถาดขึ้นก็ก็ยกฝาคลุมถาดออก บนถาดเหล่านั้น คือกองเนยแข็งแบบเดียวกับภาพบนจอโฮโลแกรม

“ เนยแข็ง 4 ประเภท Mozzarella, Parmigiano, Gorgonzola และ Fontina ”
อาจารย์ รัตนชา ประกาศชื่อของ เนยแข็งแต่ล่ะชนิด ภาพบนจอก็จะแสดงภาพของเนยแข็งชนิดนั้นๆให้เป็นการเฉพาะ จน
เมื่อครบทุกชนิดแล้ว จอภาพจึงหายไปอีกครั้ง ก่อนที่ อาจารย์รัตนชา จะลงไปจากเวที พร้อมกับพวกนักเรียน

“ เอาล่ะค่า ตอนนี้วัตถุดิบหลักในครั้งนี้ก็ได้เฉลยออกมาแล้ว มาดูกันซิว่า เหล่าผู้เข้าแข่งขันจะทำมันออกมาเป็นอาหารแบบไหนกันนะคะ ”
ไกอา พากย์ต่อทันที ขณะที่ แต่ล่ะทีมแยกกันไปประจำที่ โดยโคทาโร่ กับ ลูเซีย เดินไปประจำอยู่ที่ โต๊ะ ส่วน ธนัท กับ
โรซ่า นั้นแยกไปที่ครัวของทีมตน

“ ช่วยทีนะ คอรัส ” /Yes Sir/
ธนัท กล่าวกับ เจ้านกหุ่นยนต์ซึ่งบินออกจากกระเป๋าเสื้อของเค้ามาเกาะที่แขน

“ เอาล่ะค่ะตอนนี้ทุกคนต่างก็เข้าประจำที่กันแล้ว ต่าง สแตนบายน์ Note ของตนกันหมดแล้วนะคะ ”
ไกอา กล่าว หลังจากที่ ทุกคนเปลี่ยนรูปของ Note ให้กลายเป็น ปลอกแขนสำหรับทำการดวลเป็นที่เรียบร้อย

“ ถ้างั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ Let’s Cooking Duel !!! ”
สิ้นคำ การแข่งก็ได้เปิดฉากขึ้น โคทาโร่ และ ลูเซีย ต่างจับการ์ดขึ้นมาจากปลอกแขนจนครบ 7 ใบ
ส่วน ธนัท กับ โรซ่า เองก็เปิดเตาขึ้นพร้อมๆกัน

[Thanatativet Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 5,Mystic 2]
[Mp: 5/8 Shrine 0/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 5,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

(ตัว P หน้าชื่อคือคนที่เล่นอยู่ในรอบนั้น)

“ ฉันเป็นฝ่ายบุกก่อน Cost Mp 1 ให้ เฟรนซายน์ เวียร์วูฟ(Frenzied Werewolf)ออกมาที่ At Line ”
โคทาโร่ ประกาศพร้อมกับ วางการ์ดผนึกลงบนโต๊ะสำหรับดวล เฟืองไดนาเมซ บนปลอกแขนก็เริ่มทำงาน
สร้างละอองแสงออกมา ให้การ์ดผนึกดูดซับเข้าไป การ์ดเรืองแสงขึ้นก่อนจะสร้างร่างของ อสูรมนุษย์หมาป่าขึ้น
เหนือโต๊ะ สร้างเสียงฮือฮาให้กับ บรรดานักเรียนข้างล่างกันเป็นทิวแถว



“ ออกมาแล้วนะค้า~~ สำหรับการอัญเชิญ ครั้งแรกกับ ระบบ Create Summon Field Table (C.S.F.T.) ที่พึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ จากเดิมที่ระบบ Summon Field ถูกจำกัดการอัญเชิญเต็มรูปแบบทำให้ อสูรที่เรียกออกมาจะมีขนาดเล็กกว่า
ปกติ แต่ตอนนี้เรา ได้แก้ไขระบบนั้นทำให้ จำกัดพลังของอสูรได้ แต่ยังคงคุณภาพของ ความสมจริงเอาไว้ ได้อย่างครบครัน สำหรับรายละเอียดเราจะให้ อาจารย์บีบิส มาอธิบายกันนะคะ ”

ไกอา กล่าวก่อนจะส่งไมค์ ให้บีบิส ที่เดินเข้ามารับช่วงอธิบายตามหน้าที่

“ อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า ระบบ C.S.F.T. รุ่นก่อนเป็น Prototype(ต้นแบบ) ของระบบ Summon Field ใน Note
จึงมีข้อจำกัดมากมายในการอัญเชิญ จนทำให้หลังจาก Note เป็นที่แพร่หลาย ระบบนี้จึงไม่เป็นที่นิยม แต่ว่า
สำหรับการแข่งแบบ แทคทีม นั้นทำให้ระบบนี้ยังจำเป็นอยู่ เพื่อการนั้นจึงได้มีการพัฒนาขึ้นให้
เป็นแบบ Hybrid (ลูกผสม) โดยจะทำงานร่วมกับ Note ในการจำกัดพลังทำลายและคุมควบระบบแทคทีม ค่ะ ”

“ จากนั้นกำจัด เฟรนซายน์เวียร์วูฟ ออกไปแล้วเรียกให้ จักรพรรดิ์มนุษย์หมาป่า ไกเซอร์ เวียร์วูฟ ออกมาที่ At Line!! ”
สิ้นคำ ร่างของอสูร มนุษย์หมาป่า ก็แปรเปลี่ยนเป็นก้อนกลมสีดำทมิฬ ลอยเคว้งอยู่บนสนาม โคทาโร่ หยิบเอา การ์ดผนึกของมันออกจากโต๊ะก่อนจะวางการ์ดผนึกซีลใบใหม่ ลงไปแทนละอองเวทย์ กระจายฟุ้งออกมาจาก ปลอกแขนและรวมเข้ากันกับ ลูก กลมนั้น เปลี่ยนรูปร่างขอมันให้กลายเป็น จักรพรรดิ์มนุษย์หมาป่า แทน



[Thanatativet Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
[Mp: 4/8 Shrine 0/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 5,Mystic 2 ]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ เห็นอย่างที่ ไกอา เห็นกันไหม๊คะทุกคน อยู่ๆอสูรมนุษย์หมาป่าก็เปลี่ยนร่างเป็น จักรพรรดิ์มนุษย์หมาป่าไปได้ นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะเนี่ย ”
ไกอา พากย์ เสียงตื่น ไปกับบรรยากาศในสนาม

“ Skill ของ เฟรนซายน์เวียร์วูฟ เมื่อกำจัดมันออกไปจากเกม ก็จะทำให้ เรียกเวียร์วูฟ
ตัวอื่นบนมืออกมาได้แทน เป็น Seal ที่ช่วยในการประหยัด Mp สำหรับการอัญเชิญ โดยเฉพาะ ”
อาจารย์ คริฟ แทรกขึ้นมาอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นแทน

“ Cost Mp 4 ให้ แซฟวิจ เวียร์วูฟ กับ เวียร์วูฟพับพี่ ออกมาที่ Df Line แล้วหมดรอบ ”
โคทาโร่ วางการ์ดซีลบนมือลงไปบนโต๊ะเพิ่มอีก 2 ใบอสูร มนุษย์หมาป่าตนใหม่กับ ลูกมนุษย์หมาป่า ปรากฏตัวขึ้น
รวมกันเป็นกองทัพที่ดูน่าเกรงขามทีเดียว



[Thanatativet Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 0/8 Shrine 0/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 5,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ รอบของฉัน Cost mp 2 เรียกให้ เฟลิน่า เดลิเวอร์แบนด์ เวียร์แคท ไฟเตอร์ ออกมาที่ At Line”
ลูเซีย วางการ์ดผนึกซีล ลงบนสนาม ก่อนจะอัญเชิญ อสูร ที่ถูกผนึกออกมา นักสู้สมิงแมวสาว ผู้มีหูหางและ
ผมยาวสลวยสีชมพูแดง กระโจนออกมาจากผนึก และตั้งท่าขู่ใส่ เหล่ามนุษย์หมาป่า อย่างไม่เกรงกลัว ฝ่ายมนุษย์หมาป่าทั้งหลายก็เห่าสู้กลับไป จนดูเหมือนหมาแมวกำลังตีกัน



[Thanatativet Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 4 ,Mystic 2]
[Mp: 6/8 Shrine 0/8]

“ โอ๊ะ โอ ดูท่าว่านี่จะเป็นศึกระหว่างแมวกับหมาไปแล้วนะคะนี่ อสูรของทั้งสองฝ่าย ขู่กันไปขู่กันมา ”
ไกอา พากย์ โดยที่อสูรของทั้งสองฝ่ายยังคงยั่วยุกันอยู่

“ ให้ความสามารถของ เฟลิน่า ทำงาน เมื่อถูกเรียกออกมา ก็จะได้ส่ง Mystic Card ที่มีชื่อว่า Gauntlet จากสำรับไปที่ Shrine ได้ ใบหนึ่ง ฉันขอส่ง Baldavee Gauntlet ไปที่ Shrine ”
ลูเซีย ประกาศก่อนจะ หยิบเอา Mystic Card ที่ Note ของเธอคัดออกมาแล้ววางลงไปที่พื้นที่ Shrine บนโต๊ะ



“ จากนั้น Cost Mp 3 เรียกให้ เฟลิเซีย(Felicia, the Werecat Fighter) กับ เฟลิซเซ่(Felisse, the Werecat Fighter)
ออกมาที่ Df Line ”
ลูเซียวางการ์ดผนึกลงไปบนโต๊ะ เพิ่มอีก 2 ใบ อัญเชิญ แมวสาวนักสู้ เพิ่มขึ้นมาอีกสองตนด้วยกัน
เฟลิเซีย มีผมสั้นสีน้ำตาล และเฟลิซเซ่ มีผมสั้นสีฟ้า นางแมวสามพี่น้องช่วยกันส่งเสียงขู่สวนกลุ่มมนาย์หมาป่า
กันอย่างเมามันส์



[Thanatativet Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2 Mp:/8]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2 Mp:/8]
[Mp: 3/8 Shrine 0/8]

“ Cost Mp 2 ให้ Swapping Spell ทำงาน ทิ้ง Mystic Card บนมือไปใบหนึ่งแล้วเอา Baldavee Gauntlet
จาก Shrine ขึ้นมาไว้บนมือแทน ”
ลูเซีย วางการ์ดมิสติกบนมือของเธอลงบนโต๊ะ ก่อนจะส่งมิสติกการ์ดอีกใบบนมือไปวางไว้ที่ Shrine แล้วหยิบเอา
Baldavee Gauntlet ขึ้นมาแทน



[Thanatativet Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 1]
[Mp: 1/8 Shrine 0/8]

“ ขณะนี้ทุกคนคงกำลังสนใจกับการดวลอยู่จนลืมดูไปเลยว่า ผู้เข้าแข่งทั้งสอง ที่กำลังทำอาหารอยู่ไปถึงไหนกันแล้ว
เราลองไปดูกันเถอะค่ะ ”
ไกอา พากย์เบนความสนใจของผู้ชมไปทาง คนทำอาหารกัน ตอนนี้ ธนัท ยกเนยแข็งชนิดละ 2 ก้อนโยน
ใส่หม้อที่ต้มน้ำจนเดือดได้ที่แล้ว ก้อนเนยแข็งละลายผสมกับน้ำจนเริ่มเหนียวข้น จากนั้น ธนัท จึงใช้ทัพพี
คนให้เข้ากันอย่างช้าๆ

“ ผู้เข้าแข่งขัน ธนัท เอา เนยแข็ง ลงไปละลายในน้ำแล้วก็เริ่มเคี่ยวอย่างสบายใจไม่ทุกร้อนเรื่องเวลาเลยนะคะ ”
“ มันก็แหงอยู่แล้ว ”
มิสแทรกขึ้นมาระหว่างที่ ไกอากำลัง พากย์อยู่

“ การจะเคี่ยว เนยแข็งที่หลากชนิดซึ่งมีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวให้เข้ากันน่ะ จะต้องใช้ความพิถีพิถัน
เป็นอย่างมากเพราะงั้นถึงจะรีบร้อนไม่ได้ยังไงล่ะ ”

“ โอ ดูเหมือนว่า กรรมการ มิสตาลจิกัส จะสวมบทผู้บรรการทำอหารในครั้งนี้แล้วล่ะนะคะ ไกอาเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องด้วยยกหน้าที่ให้เลยแล้วกัน ตอนนี้เราไปดูทางฝั่งผู้เข้าแข่งขัน โรซ่า กันดีกว่าค่ะ ”

ไกอา กล่าวก่อนจะเบนความสนใจทุกคนไปยังฝั่ง โรซ่า บ้าง ตอนนี้เธอเองก็กำลัง ทำแบบเดียวกับ ธนัท เคี่ยวเนยแข็งทั้ง 4
ให้เข้ากันอยู่ในหม้ออย่างช้าๆ เช่นกัน

“ ทางนี้เองก็กำลังเคี่ยว เนยแข็งอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่เหมือนกันค่ะ นี่คงจะเป็นการเริ่มต้นสำหรับการ
ปรุงอย่างแน่นอนแต่ว่า ตอนนี้การดวลที่เกิดขึ้นก็กำลังจะมีผลกับ ฝ่ายแชมป์ของเราเสียแล้ว เพราะตอนนี้ ลูเซีย
ได้ประกาศจบรอบของตัวเอง ซึ่งตามกฏ Tag Duel นั้นจะต้องทำการเปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกคนเข้ามาเล่นแทนค่ะ ”
ไกอา ประกาศ ตอนนี้ โคทาโร่ ก็สาวเท้าเดินกลับไปที่โต๊ะครัวและช่วงเคี่ยว เนยแข็งต่อจาก ธนัท

“ รอบของฉัน ”
ธนัท ประกาศรอบและเริ่มเล่นต่อโดยไม่ติดขัดแต่อย่างใดเช่นเดียวกัน โคทาโร่ ที่เปลี่ยนมือไปทำอาหารแทน ก็สามารถ
จัดการทุกอย่างได้โดยไม่มีปัญหา

P[Thanatativet Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 1]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ สมกับที่เป็น ทีมแชมป์จริงๆค่าการเปลี่ยนตัวกระทันหันไม่มีผลอะไรต่อพวกเค้าเลยซักนิดเดียว และตอนนี้ ธนัท ก็เตรียมจะร่ายอสูรออกมแล้วล่ะค่ะ ”
ไกอา พากย์ ผ่านไมค์ โดยพยายามจะแข่งกับเสียงเชียร์ของ นักเรียนที่อยู่ด้านล่าง ซึ่งดังกระฮึ่มขึ้นมากว่าเดิมเสียอีก

“ เฮ้ๆ แบบนี้พวกเราไม่ต้องแข่งไปจนกว่าเรียนจบเลยรึไงเนี่ย ”
โคทาโร่ เปรยกับเสียงตอบรับที่ตรงกันข้ามกับที่พวกเค้าต้องการเลยทีเดียว

“ นี่เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ฉันได้ดวล ลูเซีย น่ะ ”
ธนัท กล่าว

“ นั่นสิว่าไปแล้วได้ยินว่าพวกนายสองคนมีฝีมืออยู่พอตัวเลยนี่นา การดวลนี้คงจะสนุกน่าดู ”
ลูเซีย รับคำ ทั้งสองจ้องกันด้วยความคิดเดียวกัน รอยยิ้มจางๆเจืออยู่ในสีหน้าของทั้งสอง และแล้ว ธนัท
ก็หยิบการ์ดผนึกบนมือร่ายออกมาทันที

“ Cost Mp 3 เรียกให้ ไซเบอร์ติก้า ดราก้อน(Cybertica Dragon) ออกมาที่ At Line!! ”
จักรกลมังกร ขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นเหนือสนาม เสียงหวีดหวิว จากเครื่องยนต์ของมันดังก้อง ปานเสียงคำรามของมังกร



“ คงสนุกน่าดูงั้นเหรอ….นี่มันโชว์แห่งศตวรรษเลยต่างหาก King Queen และ Jack ได้มาอยู่พร้อมกันแบบนี้ ”
มาริน่า เปรยกับตัวเองด้วยเสียงอันแผ่วเบา รอยยิ้มปริศนา ปรากฏขึ้นไม่อาจรู้ได้ว่า มันคือความรู้สึกแบบไหน

……………………………………………
……………………………………………………………
To be Continue
……………………………………………………………
……………………………………………..

…………………………………………………………………………

ลูเซีย:ว้ายๆตอนนี้ฉันได้บทเด่นเต็มๆเลยนะเนี่ย
ธนัท+โคทาโร่:เด่นตรงไหน พวกเรายังจะเด่นเกินกว่าอีก(เหงื่อตก)
ลูเซีย:ก็เพราะพวกนายได้บารมีของฉันไปด้วยก็เลยเด่นด้วยต่างหากล่ะ แต่ยังไงซะฉันคนนี้ก็คือ ตัวเอ….
มิส:ตอนต่อไป Sub-Turn 26 Final Cooking อาหารเสร็จแล้วน่ากินจังเลย ขอหม่ำก่อนละน้า~~~~
ลูเซีย+ธนัท+โคทาโร่:นี่!!!!!
………………..จบจ๊ะ……………

Card Pop!!
Felina, Deliver Band Werecat Fighter



Type: pugilist Mp: 2 / 1 Lv: 2 Rarity: rare
At: 6 Df: 7 Sp: 4 Element: earth
+[Pugilist] Nyoo Nyoo At 9 Df 9 Mp 2
+[Pugilist][Earth] Neko Scratch At 11 Df 11 Mp 3
Ability:
เมื่อ Felina, Deliver Band Werecat Fighter เข้ามาในสนาม เราสามารถแสดง Mystic Card ที่มี N[Gauntlet] 1 ใบจากกอง Mystic Card เรา แล้วนำไปยัง Shrine
ตราบเท่าที่ Felina, Deliver Band Werecat Fighter ติด Mystic Card N[Gauntlet] Felina, Deliver Band Werecat Fighter สามารถใช้ท่าโจมตีได้ 2 ครั้งโดยจ่าย Mp ค่าโจมตีเพียงครั้งเดียว
เมื่อ Felina, Deliver Band Werecat Fighter ต่อสู้ Seal ที่ต่อสู้กับ Felina, Deliver Band Werecat Fighter –At และ Df ตามจำนวน N[Gauntlet] ในสนามและ/หรือใน Shrine ฝ่ายเรา 1 Turn


Sub-Turn นี้ค่อนข้างนานเลยกว่าจะเขียนเสร็จเพราะ ต้องหาข้อมูลเรื่องอาหารประกอบด้วย เลยต้องแบ่งไปเขียนตอนหน้าด้วย
อาทิตย์หน้าก็คงกะว่าจะงดล่ะครับ เพราะกิจกรรมมันพอกพูนขึ้นมาอีกแล้ว


ว่าแต่

เมื่อไรพี่จาเอาเม๊ะมาให้ผมดู

เม๊ะไรคับ ถ้าเม๊ะเรื่องนี้ ขอเวลาเรียนรู้อีกซัก 100 ปีไว้ทำเป็นแล้วขอเวลาทำอีกซัก 100 ปี รอแค่ 200 ปีเองคับไม่นานหรอกเ้น้อ~~
(ว่าไปนั่น)

[boy]

ตอนแรกอ่านกฏ เอาซะมึน @w@
เนยแข็งน่ากิน ฮิๆ
(ลูเซียจะแพ้รึเปล่านะ รึเปล่านะ)

[MetalGaruruMoN]

ตอนแรกอ่านกฏ เอาซะมึน @w@
เนยแข็งน่ากิน ฮิๆ
(ลูเซียจะแพ้รึเปล่านะ รึเปล่านะ)

เหอ เจ๊ เอก้มึนฮ่ะ ตอนที่ เกรม่อนคุง อธิบายกฏใหม่นี้ ยังงเลยว่าเล่นยังไง เกรม่อนคุงเลยให้ไปชวน วาการุรุกับพัลม่อนจัง มา
แล้วลองจับคู่เล่นดูถึงจะเข้าใจว่าเล่นยังไง แล้วทำให้ถึงบางอ้อด้วยว่า เล่นแบบนี้มันเร็วกว่า เพราะ การ์ดบนสองคนมันจะไม่รวมกันทำให้ ร่ายแทรกมาช่วยกันไม่ได้ เกมมันจะลื่นกว่า จะให่การ์ดช่วยกันได้ มันก็ต้องอยู่ในสนามแล้ว ด้วย ที่สำคัญคือไม่ต้องเสียเวลาอัพรูปการ์ดเยอะเพราะ Mp ร่วมการ์ดที่ใช้ได้มันน้อยตามไปด้วย(อันนี้แหละประเด็น)

[Wargreamon]

Sub-Turn 26 Final Cooking


………………………………………………………………………….

ความเดิมตอนที่แล้ว:ลูเซีย ถูก โรซ่า ชักชวนเข้าร่วมการแข่ง Duel Cooking ประจำปี และพวกเธอต้องแข่งกับ คู่ของ ธนัท และ โคทาโร่ ซึ่งเป็น ทีมแชมป์ การประสานงานของฝ่าย ธนัท และ โคทาโร่ นั้นเข้ากันได้อย่างสมบรูณ์ทั้งด้านการทำอาหารและการดวล ตอนนี้ รอบการดวลได้วนมาจนถึงรอบที่ ธนัท ต้องลงมาทำการดวลแล้ว จะเป็นเช่นไร…..

P[Thanatativet Status; Hand:Seal 4 ,Mystic 2]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 5/8 Shrine 0/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 1]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ Cost mp 2 ให้ ไคเซอร์ เวียร์วูฟ โจมตี ไปที่ เฟลิน่า ”
ธนัท ประกาศ จักรพรรดิ์มนุษย์หมาป่า กึ่งวิ่งกึ่งควบ ตรงเข้าหา สมิงแมวป่า อย่างดุดัน


“ Cost mp 2 ให้ Baldavee Gauntlet ทำงานการ์ดใบนี้จะป้องกันการโจมตี ของอสูรที่มีเผ่าพัน์หรือธาตุเดียวกับที่กำหนด กำหนดให้ป้องกันการโจมตีของธาตุความมืด ”
ลูเซีย ประกาศพร้อมกับ ส่ง มิสติกการ์ดบนมือ ลงไปบน โต๊ะถุงมือติดโล่สีม่วงขลิบทองขนาดเหมาะมือ
ถูกสวมให้กับ สมิงแมวป่า และใช้มันทานแรงกระแทกของ จักรพรรดิ์มนุษย์หมาป่าเอาไว้

P[Thanatativet Status; Hand:Seal 4 ,Mystic 2]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 3/8 Shrine 0/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 6/8 Shrine 0/8]

เมื่อไม่สามารถโจมตีต่อไปได้ ธนัท จึงอัญเชิญ อสูร เพิ่มลงมาแทน

“ Cost Mp 3 ให้ แรฟเซโน่ กับ จิวเว่ยฮูลี ออกมาที่ Df Line แล้วหมดรอบ ”
สิ้นคำประกาศ การ์ดซีล 2 ใบบนมือของเค้าก็ถูกส่งลงมาบนโต๊ะ อสูรจิ้งจอกเก้าหาง และ มังกรกริฟฟินทั้งสองตัว
ปรากฏกายขึ้นมาสมทบกับกองทัพมนุษย์หมาป่า จนดูแน่นขนัดขึ้นมาทันตา




P[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 0/8 Shrine 0/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 6/8 Shrine 0/8]

และเมื่อรอบการเล่นเปลี่ยน ก็ถึงคราว ที่ลูเซีย จะต้องเปลี่ยนมือกับ โรซ่า บ้างแล้ว แม้ทั้งสองจะประสบปัญหาในการ
เปลี่ยนมือกันมาเล่น อยู่บ้างก็ตามที

“ การเปลี่ยนตัวผู้เล่นระหว่างการแข่ง ฝ่ายผู้ท้าชิงก็ไม่มีปัญหาเท่าไหร่ค่ะ ตอนนี้ ลูเซีย รับหน้าไปเคี่ยว เนยแข็งในหม้อต่อแทน และ ผู้เข้าแข่งขัน โรซ่า ก็กำลังจะแสดงฝีมือการดวลเราได้ชมกันแล้วนะคะ ”
ไกอา บรรยาย

โรซ่า เมื่อเธอมาถึงโต๊ะดวล ก็ไม่รีรอ หยิบ ซีลการ์ดบนมือของเธอร่ายลงบนโต๊ะทันที

“ รอบของดิฉัน Cost mp 2 ให้ บราชีเอล(Bratschel, the Angel of Music) ออกมาที่ At Line ”
ทูตสวรรค์ในอาภรณ์สีน้ำตาลดิน โรยตัวลงสู่สนาม พร้อมกับขานบรรเลงบทเพลงด้วยโอลิน
ท่วงทำนองชวนให้เคลิบเคลิ้ม กับบทเพลงแห่งสวรรค์นี้


P[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 4 ,Mystic 2]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 4/8 Shrine 0/8]

“ Ability ทำงานเมื่อ บราชีเอล ถูกเรียกออกมาก็จะได้รับ Charge Counter 3 จุด และหากการ์ดใบนี้
จะถูกทำลายจากการต่อสู้ ถ้านำเอา Charge Counter ออกไป 1 จุดก็จะทำให้มันไม่ถูกทำลาย ”
โรซ่า อธิบาย อย่างรวดเร็วเสียจน ไม่มีใครฟังทันเลย

“ เอ๋ ได้รับ 3 ชาร์จ แล้วยังไงต่อล่ะเนี่ย ความสามารถย๊าวยาว ไกอาจัง ตามไม่ทันค่า เชิญ อาจารย์ คริฟ รับหน้าที่ต่อทีนะคะ ”
ไกอา พากย์เสียงระสับระส่าย เพราะฟังที่ โรซ่า พูดแทบไม่ทัน จนต้องส่งค์ให้ อาจารย์ คริฟ รับไปพูดต่อ

“ อ่า ครับความหมายรวมๆของ Ability นี้คือ บราชีเอล จะไม่ถูกทำลายจากต่อสู้ หากยังมี Charge Counter อยู่นั่นเองครับ ”

“ อ่อ มันเป็นเช่นนี้นี่เองค่ะ ”{ยังกะ ทีวีแชมป์เปี้ยน}(*_*)
ไกอา ขานรับแบบเก้ๆกังๆนิดหน่อยกับความรู้สึกที่เหมือนเป็นพิธีกรเกมโชว์ ไม่นานนักก็มีเสียงฮือฮาดังมาจากกลุ่มนักเรียนที่เป็นผู้ชม จนทำให้ต้องหันควับไปดูทันที

บนครัวฝั่ง ธนัท นั้น โคทาโร่ กำลังใช้ไม้นวดบรรจงนวดแป้งที่ผสมไว้แล้ว ออกเป็นแผ่นวงกลมบางๆ
อย่างชำนาญ

“ ดูเหมือนว่า ที่น่าจับตามองตอนนี้จะไม่ได้มีแค่การแข่งบนโต๊ะเท่านั้นนะคะเนี่ย แต่ตอนนี้ ฝั่งแชมป์ของเรา
ผู้เข้าแข่งขัน โคทาโร่ ได้เคี่ยวเนยแข็งจนเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลัง นวดแป้งอยู่ค่ะ ”
ไกอา พากย์ หลังจากนั้นไม่นาน แป้งที่นวดเสร็จ ก็ถูกลาดด้วย เนยแข็งเหลวร้อนๆ ที่เคี่ยวจนได้ที่
ก่อนจะเกลี่ยนให้ทั่วทั้งแผ่น แล้วจึงยกเข้าไปอบในเตาอบ อีกที ไกอา จึงเริ่มพากย์ อีกครั้ง

“ อื้อฮือ กลิ่นเนยแข็งหอมฉุยทำน้ำลายหกกันเลยทีเดียวค่ะ ว่าแต่เอาเนยราดลงไปบนแผ่นแป้งนี่เค้าคิดจะทำ
อะไรกันคะเนี่ย เดาไม่ถูกจริงๆเลยค่ะ หรือว่าจะทำ โรตี กันล่ะเนี่ย ”

“ นี่ขอทีเหอะ จะแอ๊บ ก็เอาแต่พอประมาณ แค่เอาเนยราดบนแป้งแล้วอบต่อเนี่ย ไม่ต้องเดาก็รู้แล้วว่า ทำพิซซ่าน่ะ แถมนี่ยังเป็นพิซซ่าหน้าชีสรวมรส แบบอิตาเลี่ยนแท้ๆด้วย แค่พูดก็น้ำลายสอแล้ว ”
มิส สวดใส่ก่อนจะอดแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างอดใจไม่ไหวกับ ความอร่อยในจินตนาการ

“ พิซซ่า เนี่ยมีต้นกำเนิดจาก อิตาลี่ น่ะครับ คิดว่าการที่ผู้เข้าแข่งขัน โคทาโร่ ทำพิซซ่านี่ก็คงจะเป็นการส่งสาร
ท้าต่อ กุหลาบงามแห่งวงการอาหารอิตาเลี่ยน อย่างผู้เข้าแข่งขัน โรซ่า ล่ะมั้งครับเนี่ย ”

“ เอิ่ม รู้สึกว่าพวกคุณสองคนจะรวมหัวกันสวดใส่ดิฉันแต่ ไหงพากย์แทนซะจนนิยายเปลี่ยนแนวไปซะแล้วล่ะคะ
เนี่ย นี่ นิยายดวลการ์ดนะ ไม่ใช่นิยายทำอาหาร ”
ไกอา กระซิบขัดทั้งสองที่ใส่กันมาเป็นลูกคู่จนเธอแย้งไม่ออก

“ จากนั้น Cost Mp 1 แล้วให้ เบเกอรี่เกิลร์(Bakery Girl) ออกมาที่ Df Line แล้วให้ Ability ทำงาน เลือกอสูร
ตัวหนึ่งบนสนามแล้วทำให้ Mp Cost ทั้งหมดของ อสูร ตัวนั่นลดลง 1 จุดเลือกให้ เบเกอรี่เกิลร์ รับผลนี้เอาไว้ ”
เด็กสาวนักอบขนมปัง ถูกอัญเชิญ ออกมา เธอหมุนตัวรอบหนึ่งก่อนจะส่งยิ้มหวานให้


P[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 3/8 Shrine 0/8]

“ จากนั้นให้ เฟลิน่า ย้ายลงมาที่ Df Line แล้ว Cost Mp 3 ให้ ผีเสื้อแห่งความตาย ปาปิยอง(Deadly Papillion)
ออกมาที่ Df Line อีกใบ ”
โรซ่า ประกาศ พร้อมกับใช้มือดึงเอาการ์ดผนึกของ เฟลิน่า ลงไปยังแนวหลัง ก่อนจะร่ายการ์ดอีกใบบนมือลงมาเพิ่ม
ละอองพลังเวทย์ที่ปกคลุมอยู่รอบๆ ทยอยมารวมกันเป็น ปีกผีเสื้อบนปีกนั้นปรากฏลวดลายคล้ายกับดวงตา
ไม่นาน เมื่อละอองแสงก็รวมตัวอัดแน่นสร้างร่างของหญิงสาวบิดใบหน้าเอาไว้ด้วยปีกผีเสื้อนี้ ขึ้นมา

จากนั้น ก็มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้น หลังการ์ด ใบบนสุดของสำรับทั้งของ ธนัท และ โรซ่า เกิดสะท้อนภาพด้านหน้า
ของการ์ดขึ้นมา ทั้งสำรับ ซีลและมิสติก



P[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 0/8 Shrine 0/8]

“ นี่คือความสามารถของ ปาปิยอง มันจะทำให้ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายต้องแสดงการ์ดใบบนสุดของสำรับ
ไปด้วยระหว่างการดวล ทีนี้ล่ะ ให้ Skill ของ เบเกอรี่เกิลร์ ทำงาน เนื่องจากค่า Mp Cost ลดลงไป 1 ทำให้
ไม่ต้องCost Mp ค่าใช้ Skill จากนั้นฉันจะได้ประกาศชื่อของ การ์ดใบบนสุดและถ้ามันถูกต้องก็จะนำขึ้นมา
ไว้บนมือได้แต่ถ้าไม่ใช่ก็ต้องส่งไปที่ Shrine ”

โรซ่า อธิบาย

“ เป็นการเล่นผสานที่นำจุดร่วมของ Seal แต่ละใบมาใช้งานได้อย่างมีเหมาะสมมากเลยครับ การใช้ Skill ของ
เบเกอรี่เกิลร์ นั้นต้องอาศัยดวงในการทำให้สำเร็จ แต่ถ้ารู้ว่าการ์ดใบบนสุดเป็นอะไรแบบนี้ ก็จะทำให้
อัตราเสี่ยงหายไปในทันที ”
อาจารย์ คริฟ ถือโอกาส ดึงเอา ไมค์ จาก ไกอา ที่ยืนงงเพราะตามการเล่นในสนามไม่ทัน มาอธิบายเสียเอง
ก่อนจะถูกเธอ กระชากไมค์กลับมา พร้อมกับมองค้อนประมาณว่า อย่ามาแย่งหน้าที่ฉันนะ อะไรแบบนี้

“ ฉันขอประกาศชื่อ Seal Card ที่อยู่ใบบนสุดของสำรับของ ฉันก็คือ เบเกอรี่เกิลร์ จากนั้นก็จะได้เอามันขึ้น
มาเพิ่มไว้บนมือได้ เทิร์นเสร็จสิ้น ”
โรซ่า ประกาศพร้อมกับ จับการ์ดขึ้นมาจากสำรับซีล และแสดงการ์ดใบนั้นให้ดูว่าเธอทายได้ถูกต้องก่อนจะ
เพิ่มมันไว้บนมือ เมื่อรอบการเล่นเปลี่ยนฝั่ง ธนัท กับ โคทาโร่ จึงต้องเปลี่ยนตัวกันอีกครั้ง

“ รอบของฉัน จั่วไพ่ ”
โคทาโร่ ประกาศรอบของตนทันทีที่มาถึงโต๊ะ แล้วจึงจับการ์ด ซีลและมิสติกขึ้นมาอย่างละใบ

[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 3]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ ตอนนี้จะขออธิบายกฏของการ Tag Duel นี่ซักหน่อยนะคะ ผู้เล่นจะจั่วการ์ดในช่วง Draw Step ได้ตั้งแต่
รอบการเล่นของตนครั้งที่ 2 ขึ้นไปค่ะดังนั้นช่วง 4 Sub-Turn แรกจึงผ่านไปโดยไม่มีการ จั่วการ์ดในช่วง Draw Step ”
บีบิส เข้ามาแย่งไมค์ไปจากมือ ของไกอา เอาดื้อและอธิบายโดยไม่สนใจ ความรู้สึกของ เธอที่กำลังหงุดหงิดเพราะถูกดึง
เอาไมค์ไปมาเหมือนกับเธอเป็นขาตั้งของไมค์ไปซะแล้ว

“ Cost Mp 1 ให้ นักสู้ฝึกหัด อาคามุ(Akamu Inzu, the Apprentice Pugilist) ออกมาที่ At Line ”
โคทาโร่ วางการ์ดผนึกซีล ลงบน โต๊ะก่อนจะอัญเชิญ หนุ่มน้อยนักสู้ฝึกหัด ออกมา



[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 3]
[Mp: 7/8 Shrine 0/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ แล้วตามด้วย Cost Mp อีก 2 ให้ Mystic Card บนมือ เชปชิฟส์(Shapeshifts) ทำงาน!! ต้องใช้อสูรที่เป็นเผ่านักสู้เท่านั้น(Pugilist)เป็นเครื่องสังเวย(Sacrifice) แล้วอัญเชิญ Seal ที่มีชื่อว่า Werewolf ออกมาจากสำรับได้ใบ 1
ให้ อาคามุ เป็นเครื่องสังเวย แล้วเรียกให้ มนุษย์หมาป่าจอมคลั่ง แฟรนทิคเวียร์วูฟ(Frantic Werewolf) ออกมา ”

ทันทีที่ มิสติกการ์ดสำแดงอิทธิฤทธิ์ นักสู้หนุ่มน้อย ก็ยกสองมือขึ้นกุมขมับอย่างทรมาน เหล่ามนุษย์หมาป่าในสนาม
ต่างพากันหอนเสียงแหลมสูงเข้าไปถึงโสตประสาท ขานรับพรรคพวกตนใหม่
ร่างกายของเด็กหนุ่มค่อยขยายขึ้น และมีขนสีดำผุดขึ้นทั่วทุกรูขุมขนใบหน้ายื่นยาวออกเล็บมือเล็บเท้า
แปรเปลี่ยนเป็นเล็บของสัตว์ป่า หางสีดำและหูสุนัขป่า ยื่นออกมาและกลายเป็น
มนุษย์หมาป่าจอมคลั่ง อย่างสมบรูณ์




[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 5/8 Shrine 1/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ เป็นการอัญเชิญที่น่าสยดสยองจริงๆเลยค่ะ ทำเอาเสียวสันหลังวาบกันเลยทีเดียว ถ้ายังไงเราเปลี่ยนบรรยากาศ
กลับไปดูที่ครัวฝั่งผู้ท้าชิงกันหน่อยดีกว่านะคะ ว่าตอนนี้ไปถึงไหนกันแล้ว ”
ไกอา ชวนเปลี่ยนเรื่องบรรยายขึ้นมาทันทีหลังจากต้องขนพองสยองเกล้ากับ ภาพการเปลี่ยนร่างนั้น

“ เอ่อ จากที่ดูอยู่นี่ผู้เข้าแข่งขัน ลูเซีย กำลัง อบขนมปังอยู่มั้งคะเนี่ย ใช่รึเปล่าคะ? ”
ไกอา พูดแบบไม่ค่อยมั่นใจ เพราะลูเซีย เอาแป้งสาลีที่พึ่งนวดเสร็จเอามาปั้นเป็นก้อน แล้วยัดเข้าไปในเตาทันที

“ Cost Mp 4 ให้ ไคเซอร์เวียร์วูฟ กับ แฟรนทิคเวียร์วูฟ โจมตีไปที่ บราชีเอล ”
เสียงประกาศของ โคทาโร่ ดังขึ้น ดึงความสนใจทั้งสนามให้กลับไปที่การดวล มนุษย์หมาป่าจอมคลั่ง และ จักรพรรดิ์มนุษย์หมาป่า ทั้งสองตนบุกตรงดิ่งเข้าไปหมายจะเล่นงาน ทูตสวรรค์แห่งการดนตรี ให้ย่อยยับในคราเดียว ทว่า
เมื่อ ทูตสวรรค์แห่งการดนตรี เริ่มบรรเลงบนเพลงขึ้นอีกครั้ง ก็ทำให้ ทั้งสองตนต้องล่าถอยกลับไป

“ Ability ของ บราชีเอล ทำงาน!! เมื่อมันจะถูกทำลายจาก การต่อสู้ให้นำ Charge Counter ออก 1 จุด มันก็จะไม่ถูกทำลาย ”
โรซ่า อธิบายความสามารถของ ทูตสวรรค์แห่งการดนตรี

[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 1/8 Shrine 1/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ ตายยากตายเย็นจริงนะ….ให้ ไซเบอร์ทิก้า ดราก้อน เปลี่ยน Line แล้วหมดรอบ ”
โคทาโร่ ขบฟันเจ็บใจที่ไม่อาจจัดการกับ อสูรของเธอได้ก่อนจะออกคำสั่งให้ มังกรจักรกล
ถอยลงมาแนวหลังจนเหลือเพียงสองมนุษย์หมาป่าในแนวหน้าเท่านั้นและจบรอบการเล่นของตน
และในครั้งนี้ ลูเซีย ก็ต้องเปลี่ยนมือเข้ามาเล่นแทน โรซ่า อีกครั้ง

[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 1/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ รอบของฉัน ”
ลูเซีย ประกาศรอบของตนก่อนจะ จับการ์ดมิสติกขึ้นมา 2 ใบแล้วเลือกร่ายมันออกมาใบหนึ่ง

“ Cost Mp 3 ให้ Rising ทำงานจะได้เลือกเอา การ์ดของตัวเองใบหนึ่งบนพื้นที่ กลับขึ้นมาไว้บนมือได้ ให้ บราชีเอล กลับขึ้นมาอยู่บนมือของฉัน ”

ร่างของทูตสวรรค์แห่งการดนตรี ค่อยๆสลายกลายเป็นละอองแสงจนหมดสิ้น ลูเซียจึง เก็บการ์ดผนึกของ ทูตสวรรค์นั้นขึ้นมาจาก โต๊ะ



[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 1/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 1]
[Mp: 5/8 Shrine 0/8]

“ จากนั้น Cost mp 2 ให้ บราชีเอล ออกมาที่ At Line อีกครั้ง!! ”
ลูเซีย ประกาศพร้อมกับ อัญเชิญ ทูตสวรรค์แห่งการดนตรีออกมาอีกเป็นครั้งที่ 2

[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 1/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 1]
[Mp: 3/8 Shrine 0/8]

“ เป็นการเล่นผสานอีกแล้วค่ะ คราวนี้ใช้ Rising เพื่อที่จะเรียก บราชีเอล ออกมาใหม่อีกครั้งก็จะทำให้ Charge Couter ทำการ Reload กลับไปเป็น 3 เท่าเดิม ก็หมายความว่าจะสามารถทานการโจมตีได้อีก 3 ครั้งค่า!!! ”
ครั้งนี้ ไกอา รีบชิงพากย์ก่อนจะถูกแย่งหน้าที่อีก

“ จากนั้นให้ Skill ของ เบเกอรี่เกิลร์ ทำงานการ์ดใบบนสุดของสำรับ Mystic ของฉันคือ No Attacking จากนั้น
ก็เอาเพิ่มไว้บนมือ ”
ลูเซีย ประกาศใช้ความสามารถของ อสูร ในสนามก่อนจะจับการ์ดขึ้นมาจากกองมิสติกเสียเลย เพราะไม่ว่าอย่างไร
การทายก็ไม่มีทางผิดพลาด ด้วยความสามารถของ ผี้เสื้อแห่งความตาย

“ จากนั้นให้ เฟลิเซีย ย้ายขึ้นไปที่ At Line แล้ว Cost Mp 1 โจมตีไปที่ แฟรนทิคเวียร์วูฟ Neko Punch!! ”
ลูเซีย ออกคำสั่ง นางแมวป่า ชุดขาว เฟลิเซีย กำหมัดแน่น ก่อนจะทะยานตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 8/8 Shrine 1/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 1]
[Mp: 2/8 Shrine 0/8]

“ Ability ทำงาน เมื่อ เฟลิเซีย โจมตีก็จะได้รับค่า At เพิ่มขึ้นเท่ากับ Mp ค่าโจมตีของ Seal ที่ต่อสู้ด้วยและด้วย ความสามารถของ เฟลิซเซ่ ก็จะทำให้ ค่า At ของ เฟลิเซีย เพิ่มขึ้นอีก 1 จุดดังนั้นค่าพลังของ เฟลิเซีย จะเท่ากับ 11 หน่วย ”

ลูเซีย อธิบาย ค่าพลังของ เฟลิเซีย ผันแปรเพิ่มขึ้นจนมากกว่าค่าพลัง ของ มนุษย์หมาป่าจอมคลั่ง เสียแล้ว สมิงแมวสาว
พุ่งหมัดของเธอรัวใส่ อย่างรวดเร็ว จนมันต้องยกแขนขึ้นปัดป้อง แต่ก็ไม่อาจกันได้ทั้งหมด




“ Cost Mp 2 ให้ Guardian of Icicle ติดให้กับ แฟรนทิคเวียร์วูฟ และทำให้มันกลายเป็นสภาพ Freeze Curse ”
โคทาโร่ ประกาศพร้อมกับร่าย มิสติกการ์ดบนมือสวนออกไป นักพรตหญิงปรากฏตัวขึ้น ยกสามง่ามในมือชี้ใส่
มนุษย์หมาป่าจอมคลั่ง แสงสีฟ้าสว่างวาบออกมาจากสามง่าม ตรงเข้าอาบร่างของมันจนกลายเป็นน้ำแข็ง ลื่นหล่นลงไปยังแนวหลัง สมิงแมวสาว ยังคงตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ได้ไม่นาน จักรพรรดิ์มนุษย์หมาป่าที่อยู่ข้างเคียง กลับพุ่งเข้าใส่เธอ
อย่างดุดัน



[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 1]
[Mp: 6/8 Shrine 1/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 1]
[Mp: 2/8 Shrine 0/8]

“ ตอนนี้ เป้าหมายการโจมตีของเธอถูกเปลี่ยนไปเป็น ไคเซอร์เวียร์วูฟแล้ว Ability ทำงาน ไคเซอร์ เวียร์วูฟ จะมีค่า At เพิ่มขึ้นตามจำนวน เวียร์วูฟ ในสนาม ค่า At ตอนนี้จึงเท่ากับ 12 หน่วย รับไปซะ คมเขี้ยวแห่งราชันย์ Fang of King!!~ ”
โคทาโร่ ประกาศเสียงกร้าว กรงเล็บของจักรพรรดิ์ เหวี่ยงออกไป หมายจะฉีกร่างของ สมิงสาวให้เป็นชิ้นๆ

“ ไม่มีทางหรอกน่า Cost Mp 2 ให้ No Attacking ทำงานทำให้การโจมตีของ เฟลิเซีย หยุดลงการต่อสู้จึงถือเป็นโมฆะ ”
ลูเซีย ร่ายมิสติกออกมาได้ทันท่วงที ดาบสองเล่มปรากฏขึ้นปักไขว้ระหวาง สมิงสาวและ จักรพรรดิ์ ทันก่อนที่
การต่อสู้จะสิ้นสุดลง

[Thanatativet Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 1]
[Mp: 6/8 Shrine 1/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 0/8 Shrine 0/8]

“ เฮ้อ~~ หมดรอบแค่นี้”
ลูเซีย เปรยพลางหอบหายใจ จากอาการตื่นเต้น ที่เกือบจะเพลี่ยงพล้ำเสียเอง ยิ่งทำให้เธอตระหนักว่าการป้องกันของ
โคทาโร่ นั้นหนาแน่นและอ่านเกมเหนือกว่าเธอไว้มาก

“ ทำเอาหายใจกันไม่ทั่วท้องกันเลยทีเดียวนะคะ เผลอแปปเดียว ผู้เข้าแข่งขันทั้งสองฝ่ายต่างทำอาหาร
ของตนเสร็จใส่ถาดปิดเตรียมไว้ซะแล้วล่ะค่ะ และตอนนี้ ผู้เข้าแข่งขัน โคทาโร่ ก็กำลังจะเปลี่ยนมือเพื่อ
กลับไปทำอาหารของตัวเองให้เสร็จด้วยเช่นกัน ”

ไกอา บรรยายสถานการณืในสนามขณะนี้ บนโต๊ะครัวของทั้งสองฝ่าย ต่างมีถาดปิดฝาที่เตรียมอาหารที่ทำเสร็จไว้พร้อมแล้วกันคนล่ะถาด

“ ฝากด้วยล่ะ ”
โคทาโร่ กล่าวก่อนจะแปะมือกับ ธนัท เพื่อเปลี่ยนตัว เค้ารับคำสิ้นๆก่อนจะ เดินไปที่ โต๊ะดวล และเริ่มรอบของตน

“ รอบของฉัน ในจังหวะนี้ ผลของ Guardian of Icicle ได้หมดลงแล้วดังนั้น แฟรนทิคเวียร์วูฟ จึง
พ้นสภาพ Freeze Curse ”

ธนัท กล่าว ร่างของมนุษย์หมาป่าจอมคลั่งที่เป็นน้ำแข็ง เริ่มกระเทาะแตกออก และคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
จากนั้นเค้าจึงจับการ์ด ซีลขึ้นมาอีก 2 ใบ

P[Thanatativet Status; Hand:Seal 4 ,Mystic 2]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 1]
[Mp: 6/8 Shrine 1/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ Cost Mp 2 ให้ Mystic Synchronize Contact Force ทำงาน กำจัด The Tale of Dragoon บนมือ ที่มี
ค่าร่ายเท่ากับ 2 ออกไปแล้วให้ผลในการ Contact Tune ทำงาน ให้ แรฟเซโน่ เปลี่ยนเป็น ธาตุเดียวกับ จิวเว่ยฮูลี ”

ธนัท ประกาศ ก่อนจะแสดงมิสติกการ์ดบนมือใบหนึ่งซึ่งก็คือ The Tale of Dragoon แล้วเก็บใส่กระเป๋ากางเกงไป
จากนั้นให้อีกใบทำงานแทน สีขนของมังกรกริฟฟิน เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีน้ำตาลดินแบบเดียวกับ จิ้งจอกเก้าหาง
ในทันที



P[Thanatativet Status; Hand:Seal 4 ,Mystic 0]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 1]
[Mp: 4/8 Shrine 1/8]
[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2]
P[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ แล้วให้ แรฟเซโน่ เป็นวัตถุดิบในการ Contact Growth Cost Mp 3 ออกมาเลย
มังกรกริฟแห่งผืนดิน บารานนิทิล(Baranithil, the Earth Dragogriff) ”

สิ้นคำ มังกรกริฟฟิน ก็ได้สลายกลายเป็นละอองแสง ก่อนจะรวมตัวควบแน่นเป็นร่างใหม่ มังกรกริฟฟิน ซึ่งมีเกล็ดแข็ง
ดังหินผา ปกคลุมร่างประหนึ่งเสื้อเกราะของนักรบ ทะยานลงสู้พื้นสนามแนวหลัง(Df Line) ก่อนจะหุบปีกลง
ด้วยกิริยาสงบนิ่ง



“ ด้วยความสามารถของ ไซเบอร์ทิก้า ดราก้อน ทำให้ บารานนิทิล ลดจำนวน Seal เงื่อนไขที่เป็น
เผ่าสัตว์อสูร(Beast) ออกไปได้

และทำให้ค่า At เพิ่มขึ้นอีก 3 ค่า Df เพิ่มขึ้นอีก 2 หน่วยด้วย นอกจากนี้ บารานนิทิน เมื่อ อยู่ในสภาพGrowth
ยังมีความสามารถ ทำให้ เผ่ามังกร(Dragon)ใบอื่น นอกจากการ์ดใบนี้ โจมตีข้ามไปยัง Df Line ได้อีกด้วย ”

คำอธิบายของ ธนัท ยิ่งกดดัน ลูเซีย มากขึ้นไปอีก เพราะในตอนนี้เท่ากับว่า กำแพงที่เกิดจากความสามารถของ
ทูตสวรรค์แห่งการดนตรี ไม่อาจขวางการบุกจาก อสูร เผ่ามังกรได้อีกต่อไปแล้ว หนำซ้ำในแนวหลังก็ยังมีแต่ อสูรที่
อ่อนแอ่ง่ายต่อการจัดการของเผ่ามังกรที่มีค่าพลังสูงเป็นส่วนใหญ่อีกด้วย

“ แต่ว่า ในรอบนี้ไม่มี Mp พอจะทำการโจมตีได้ หมดรอบเลยก็แล้วกัน ”
“ เฮ้!ๆ อย่ารีบเล่นนักสิ อาหารฉันยังต้องใช้เวลาอีกนิดหน่อยนะ ”

ธนัท ประกาศจบรอบของตนเสียดื้อๆ ทำให้ โคทาดร่ ต้องปรามให้เค้าเล่นให้ช้าลงอีก
แต่สำหรับ ลูเซีย แล้วการนี้ทำให้เธอ โล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลยก็ไม่ปาน
ในตอนนี้ เธอต้องเปลี่ยนมือกับ โรซ่า

“ วางใจได้เลยค่ะ คุณ ลูเซีย อาหารไม้ตายของฉันได้เสร็จเป้นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนอาหารของคุณ ดิฉันจะถ่วงเวลาไว้ให้อย่างสุดความสามารถเลย ไม่ต้องกังวลค่ะ ”
โรซ่า พูดเสียงมั่น ดวงตาเป็นประกาย เชื้อชวนให้วางใจในตัวเธอ แต่ ลูเซีย ก็ไม่คิดจะหวังอะไรกับเธออยู่จึง
ตอบกลับไปแบบรีบๆ

“ ข..ขอบใจนะ แต่ของฉันแค่เอาที่อบไว้ออกมาทาเครื่องปรุงก็เสร็จแล้วล่ะ.. ”

เธอรีบผละกลับมาที่ครัวเพื่อจะเปิดเตา ที่เธอ อบวัตถุดิบทำอาหารทิ้งเอาไว้ก่อนจะเปลี่ยนมือในรอบที่แล้ว
ทันที ขณะที่ โรซ่า เดินไปที่ โต๊ะและ จับการ์ดมิสติก ขึ้นมาจากสำรับ 2 ใบเพื่อเริ่มรอบของตน

“ น่าเสียดายนะคะ ซินยอร์ ธนัท ดูเหมือนว่าปีนี้ ชัยชนะจะต้องตกมาเป็นของฉันเสียแล้ว
เพราะอาหารสูตรลับสไตล์อิตาเลี่ยนที่ฉันเฝ้าฝึกฝนทุ่มเทมาหลายปีบัดนี้มันได้สำเร็จออกมาเป็น
ที่เรียบร้อยแล้ว การดวลนี้ก็ไม่มีความหมายใดกับผลของการแข่งแล้วล่ะค่ะ ”

โรซ่า พูดท้าทาย ด้วยอาการเย่อหยิ่งสุดประมาณ เพราะมั่นใจว่าไม่มีทางแพ้อย่างแน่นอน

P[Thanatativet Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 0]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 1]
[Mp: 8/8 Shrine 1/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 4]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ แหม ถ้าได้แบบนั้นก็ดีสิ พวกเราน่ะอยากจะถอนตัวจากการแข่งนี่จะแย่อยู่แล้ว ”
ธนัท ออกปากเห็นด้วย แต่กลายเป็นว่าเค้ากำลังเล่นลิ้นในความคิดของเธอ

“ ไม่ต้องทำเป็นพูดปลอบใจตัวเองก็ได้ค่ะ ดิฉันจะยืดเวลาออกไปให้อีกหน่อยก็แล้วกันเพราะยังไงคู่หูของดิฉัน
ก็ยังต้องใช้เวลาในการทำอาหาร…. ”

“ เย้ เสร็จแล้ว!!! ”

ยังไม่ทันที่ โรซ่า จะกล่าว จบเสียงตะโกนเฮ ของลูเซียก็ดังลั่นขึ้นมาทำเอาเธอเสียศูนย์

“ ตอนนี้ฝั่งผู้ท้าชิงทำ อาหารเสร็จกันหมดแล้วนะคะ เหลือเพียงผู้เข้าแข่งขันโคทาโร่ เท่านั้นที่ ยังคงทำอาหารอยู่ ”
ไกอา รายงานแทรกขึ้นมาทันที

“ ชิ ยังไงก็เถอะถึงจะขัดขวางการทำอาหารของพวกคุณด้วยการดวลไม่ได้ แต่ก็จะยืดเวลาให้อีกหน่อยก็แล้ว
กันค่ะ ให้ เฟลิเซีย ย้ายลงมาที่ Df Line จากนั้น Cost Mp 2 ให้ Black Wood ทำงานแล้วหมดรอบ ”
สิ้นคำ พื้นที่ก็ถูกเปลี่ยนเป็นป่าทึบบดบังแนวหลังของทั้งสองฝ่ายจนไม่อาจมองเห็นกันได้



P[Thanatativet Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 0]
[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 1]
[Mp: 8/8 Shrine 1/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 3]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 6/8 Shrine 0/8]

“ การ์ดใบนี้จะทำให้ อสูรทุกตัวใน Df Line รอดพ้นจากการโจมตีทุกชนิด เท่านี้ความสามารถในการโจมตีข้าม Line
ของคุณก็ไร้ความหมายแล้วล่ะค่ะ โฮ้โฮะๆๆๆ ”

“ ถ้างั้นขอปิดฉากเลยละกันนะ!! ”
เสียงของ โคทาโร่ ดังขึ้นจากอีกฟากของป่า ทำเอาเธอสะดุ้งเพราะไม่คิดว่า จะรีบเปลี่ยนตัวเข้ามาดวลเร็วขนาดนี้
แต่เสียงพากย์จาก พิธีกร ที่ดังตามมานั้นยังจะทำให้เธอช็อคยิ่งกว่าเดิมอีก

“ และแล้วตอนนี้ ผู้เข้าแข่งขัน โคทาโร่ ก็ทำอาหารเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะค้า~~~~ ”

“ อ…อะไรนะเสร็จ แล้วงั้นเหรอ? ไหงเร็วงี้ล่ะค่ะ ”
โรซ่า กล่าวเสียงหลงและอยู่ในอาการตกใจ สภาพรอบๆของเธอนั้นไม่อาจคาดเดาได้เลย เพราะป่า
กำลังปกคลุมสนามอยู่

[Thanatativet Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 0]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 3]
[Mp: 8/8 Shrine 1/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 3]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 0/8]

“ Cost Mp 2 ให้ Cunning Clown ทำงาน มันจะทำให้ อสูรทุกใบของเธอที่ไม่ใช่ เผ่าเครื่องจักร(Machine)
เปลี่ยน Line ทั้งหมด ”
เสียง โคทาโร่ ดังแทรกเข้ามาในป่าเป็นเหมือนกับเสียงที่แว่ววมาจากไกลๆ ไม่นาน อสูร ของเธอ ก็โผล่ออกจาก
ป่าบริเวณรอบๆป่า และเดินออกไปยังแนวหน้า โดยมี เพียง ทูตสวรรค์แห่งการดนตรี
เดินกลับเข้ามาในป่าแทน



“ จากนั้น Cost Mp 2 ให้ ไคเซอร์ เวียร์วูฟ โจมตีไปที่ เฟลิเซีย Fank of King!! ”
เสียงของ โคทาโร่ ดังแว่วเข้ามาและตามด้วยเสียง ระเบิดก่อนจะมีละอองแสงลอยขึ้นไปจากสนาม
ป่าทึบ บดบังทัศนียภาพทั้งหมดของเธอจนไม่อาจทราบได้ว่าการต่อสู้ไปถึงไหนแล้ว ทำให้เธอยิ่งตกอยู่
อาการสับสนมากขึ้นไปอีก

[Thanatativet Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 0]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 4/8 Shrine 1/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 3]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 2/8]

“ Cost Mp อีก 4 แซฟวิจเวียร์วูฟ โจมตีไปที่ เฟลิซเซ่ Savage Claw!!~ และ แฟรนทิคเวียร์วูฟ โจมตีไปที่
เฟลิน่า Bloody Fang!! ”
เสียงดังขึ้นอีกครั้งและตามมาด้วย การสลายร่างของ อสูร ที่แนวหน้าอย่างต่อเนื่อง และแล้วเสียงก็เงียบหายไป
เป็นเพราะ Mp ที่ใช้ในรอบนี้ได้หมดลงแล้ว ขณะที่คิดว่าการโจมีคงจบลงแล้วจริงๆ เสียงของ โคทาดร่ กลับดังแทรกขึ้นมา

[Thanatativet Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 0]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 0/8 Shrine 1/8]
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 3]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 6/8]

“ Ability ของ แฟรนทิคเวียร์วูฟ ทำงานเมื่อมันทำลาย Seal การต่อสู้สำเร็จ สามารถโจมตีได้อีกครั้งโดยไม่ต้อง Cost Mp ค่าโจมตี จัดการ ปาปิยอง ไปซะ!! ”

เสียงระเบิดดังตามมาเป็นครั้งสุด ก่อนที่ภาพของป่าและ อสูรทั้งหมดบนสนามจะจางหายไป พร้อมกับการดวลที่สิ้นสุดลง

[Thanatativet Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 0]
P[Kotaro Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2]
[Mp: 0/8 Shrine 1/8] **Win**
P[Rosa Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 3]
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 0]
[Mp: 8/8 Shrine 8/8] **Lose**

“ การดวลรู้ผลแล้วค่า นั่นก็หมายความว่า เวลาในการทำอาหารได้ยุติลงแล้ว จากนี้ไปจะเป็นการตัดสินคะแนน โดยกรรมการทั้ง 4 ท่านนะคะ ”

ไกอา ทวนให้ฟังอีกครั้ง ก่อนที่การตัดสินจะเริ่มขึ้น อาหารของทั้งฝ่าย ถูกนำไปวางเรียงกันบนโต๊ะกรรมการ
ทุกคนรออย่างใจจดใจจ่อว่าจะได้พบกับอาหารแบบใด

“ เอาล่ะค่า ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ทุกท่านรอคอยกันแล้ว มาเริ่มที่จานแรก เปิดระเดิม โดยทีมแชมป์เก่าของเรา
พิซซ่าหน้าชีสรวมรส ของผู้เข้าแข่งขัน โคทาโร่ ค่า!!~ ”
สิ้นเสียง ประกาศของไกอา ฝาถาดของ โคทาโร่ ก็ถูกยกขึ้นเป็นจานแรก พิซซ่าแผ่นกลมถาดใหญ่
ส่งกลิ่นชีสหอมฉุย เตะจมูก บรรดาผู้ชมจนรู้สึกอิจฉากรรมการ ขึ้นมาทันที

“ นี่มัน!! เหลือเชื่อจริงๆเลย! สีเหลืองของชีสที่ถูกอบพร้อมกับแป้งที่นวดอย่างพิถีพิถัน จนสุกเหลืองกรอบ
ราวกับแสงแห่งพระอาทิตย์ Goldden Sun Pizza!!! ”

มิส อุทานเสียงหลงกับความงามของหน้าตาพิซซ่า ในถาด ที่งดงามซะจนเสียที่จนต้องกินมันเข้าไป
มีดหั่นขนมปังเล่มใหญ่ ถูกยกขึ้นตัดแบ่งพิซซ่าออกเป็น 8 ส่วน ก่อนจะถูกตักใส่จานส่งให้
เหล่าคณะกรรมการชิมเพื่อตัดสิน ทันทีที่ คำแรกของ พิซซ่าเข้าไปในปาก ทุกคนก็แทบจะหยุดนิ่งราวกับถูกสะกด

“ ร..รสชาตินี้มันอะไรกัน!! บนโลกใบนี้ยังมีของแบบนี้อยู่ด้วยหรือเนี่ย!!~ ”
อาจารย์ คริฟ ถึงกับหลุดอาการตกตะลึงบรรยายออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ อา~~ ชีสมันละลายไปทั่วทั้งปาก ความกลมกล่อมของ เนยแข็งชั้นเลิศ ….หยั่งกับได้ไปถึง
อิตาลี่ จริงๆเลย~~~~ ”
แม้แต่อาจารย์บุษบา ก็ยังน๊อตหลุดไปเหมือนกับคนอื่นๆ

“ รสชาติ นี้มันราวกับได้ตายแล้วขึ้นไปยังสวรรค์ที่เต็มไปด้วยแสงสีทองของ ชีส จริงๆ ”
กระทั่ง มาริน่า ก็ยังเคลิ้มไปด้วยเช่นกัน ในขณะที่ อาการของ มิส ถึงไม่เดาก็พอจะรู้ว่าจะออกมายังไง
เพราะเจ้าตัว ลงตะเกียกตะกายแขนขาทำท่าหมือนว่ายอยู่ในน้ำ

“ หยั่งกับ…ได้ลงไปว่ายอยู่ในสระที่เต็มไปด้วยเนยแข็ง เลย อา~~ มีความสุขเจงๆ~~~~~ ”

“ อ..โอ้โห!! นี่มันพิซซ่า หรือยาบ้ากันล่ะคะเนี่ย ถึงทำเอาบรรดาคณะกรรมการของเรา น๊อตหลุดกันเป็นแถบๆ!! ”
ไกอา พากย์ ด้วยอาการตื่นตระหนกไม่น้อยกับภาพที่เห็น ขณะที่บรรดาผู้ชม พากันอ้าปากค้างน้ำลายหก
ท่วมสนามกันเลยทีเดียว

“ แต่รู้สึกว่าจะมีอยู่คนหนึ่งนะที่น๊อตหลวมตั้งกะยังไม่เริ่ม ”
เสียงทัดทานจากกลุ่ม ของ ชุติการ ที่ยืนดูอยู่ข้างล่างเวที ดังขึ้น

“ เอ่อ…เอาเป็นว่า มาเริ่มให้คะแนนกันเลยดีกว่าค่ะ ”
บีบิส แย้งขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเรื่องชักจะออกนอกลู่นอกทาง บรรดาคณะกรรมการจึงหยุดเต้นดิ้นเต้น
กันและกลับไปเขียนคะแนนลงบนกระดาษ หลังจากส่งให้กับ บีบิส แล้ว เธอจึงนักเรียนที่คุมเครื่อง
ฉายจอโฮโลแกรมป้อนคะแนนลงไป และแสดงให้ดูทันที

“ ผลการให้คะแนนออกมาแล้วนะคะ ทุกนให้กันคนละ 5 คะแนนหมดเลยค่ะเพราะอะไรกันคะเนี่ยทั้งที่น่า
จะอร่อยหลุดโลกกันขนาดนั้นเราลองไปฟังความ เห็นจากพวกเค้ากันดีกว่าค่ะ ”
ไกอา กล่าวก่อนจะ ส่งไมค์ไปให้ เหล่ากรรมการ น๊อตหลุดทั้ง 4 ตอบกลับเป็นเสียงเดียวกันในทันที

“ อืม~~ อร่อยดีอยู่หรอกแต่ก็ยังเป็นแค่พิซซ่าที่อาศัย ความกลมกลืนในการปรุงอย่างลงตัวเท่านั้นเอง ”

“ รู้สึกว่าจะพูดกันได้ไม่กระดากปากจริงๆนะคะเนี่ย ทั้งที่เมื่อกี้ก็ยังน๊อต… ”
“ จะพอได้รึยาง!!~~~~ ”

ยังไม่ทันที่เธอจะแสดงความเห็นจนจบ ก็ถูกทั้งสี่ แทรกขึ้นมาเสียก่อน จนต้องรีบเปลี่ยนไปตัดสินจานต่อไปกันทันที

“ จานต่อไป เป็นฝีมือของ ผู้เข้าแข่งขัน ธนัททาทิเวศ จากทีมแชมป์เก่าของเรา ข้าวผัดคลุกเนย ค่ะ! ”
ฝาถาดจานถัดมาถูกยกขึ้น พร้อมกับ ข้าวผัดที่ผัดจนเหลืองหอมกลิ่นเนย หลังจากชิมกันหมดแล้ว
ก็มาถึงเวลาให้คะแนน

“ ผลคะแนนออกมาแล้วค่า กรรมการทั้ง 4 ท่านของเราก็ยังคงให้กันคนล่ะ 5 คะแนนหมดเลยค่ะ ”
ไกอา ประกาศ ก่อนจะส่งไมค์ให้กับเหล่ากรรมการทั้ง 4

“ ถึงจะไม่ค่อยอร่อย อย่างที่กะไว้ก็เถอะแต่ก็ไม่เลี่ยนเท่าไหร่ ”
ทั้ง 4 ยังคงตอบเป็นเสียงเดียวกัน

“ ก็แหงสิ เล่นกิน แต่ของชุ่มเนยแข็ง เข้าไปขนาดนั้น มันจะไม่เลี่ยนได้ไงเล่า ”
โคทาโร่ เปรยเสียงเซง ขณะที่กำลังเริ่มการสรุปผลคะแนน

“ สรุปผลคะแนนของ ทีมแชมป์ ออกมาแล้วนะคะ ได้กวาดไปทั้งสิ้น 40 คะแนนค่า ”
ไกอา ประกาศก่อน จะให้เริ่มการตัดสินจานต่อไปทันที

“ รู้สึกเลี่ยนจนไม่อยากกินอีกแล้วนะเนี่ย เนยแข็งคงหนักเกินไปสำหรับกรรมการจริงๆน่ะแหละ ”
มิส บ่นนิดหน่อยเพราะตอนนี้ ในปากของเค้ามีแรสของเนยแข็งอยู่เต็ม จนไม่รู้สึกอยากรับประทานมันอีกแล้ว
ทุกคนเองก็เป็นเช่นเดียวกัน

“ ไม่ต้องกังวลไปค่ะดิฉันได้คิดเอาไว้อยู่แล้วว่า จะต้องเป็นแบบนี้ ถ้าได้ลองชิมอาหารของดิฉันล่ะก็ รับรองว่า
อาการเลี่ยนจะต้องหายไปอย่างแน่นอนค่ะ ”

โรซ่า ออกตัวอวดสรรพคุณอาหารของเธออย่างเต็มที่ จนเมื่อฝาถาดถูกเปิดออก สปาเก็ตตี้ผัดซอสเนยแข็ง
ก็ส่งกลิ่นหอมแบบเผ็ดๆออกมา ชวนลิ้มลองๆ ทันทีที่คำแรกสัมผัสกับลิ้น

เหล่ากรรมการทั้ง 4 ถึงกับหน้าแดงด้วยความเผ็นร้อนขึ้นมาทันที แต่กลับทานเส้นสปาเก็ตตี้กันอย่างเอร็ดอร่อย
จนหมดจานกันเลยทีเดียว บรรดานักเรียนที่มาช่วยงานต้องรีบ ยกน้ำขึ้นมาให้ดื่มดับกระหายกันเป็นการใหญ่
และก็มาถึงเวลาของการให้คะแนน

“ ผลการให้คะแนนออกมาแล้วค่ะ นี่มัน ได้ 10 คะแนนจากทั้ง 4 คนเลยค่า แบบนี้ก็เท่ากับคะแนนรวมของ
ทีมแชมป์แล้วสิคะเนี่ย ลองไปฟังความเห็นกันหน่อยดีกว่าค่ะ ”
ไกอา ประกาศก่อนจะยื่นไมค์ให้

“ เป็นการเอารสเผ็ดมาช่วยแก้เลี่ยนได้อย่างกลมกลืนมากๆเลยครับ ซีด~~ โทษนะครับพอดีมันเผ็ดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
แต่ ซีด~~ ก็อร่อยมาก โอย ผมพูดไม่ไหวแล้วล่ะ ซีด~~ ”
อาจารย์ คริฟ พูดพลางกัดฟันดูดลิ้นด้วยความเผ็ด จนพูดไม่ออก เช่นเดียวกับ คณะกรรมการท่านอื่นๆที่เผ็ดจนพูดไม่ไหว

“ เอาล่ะค่ะ และแล้วก็มาถึงจานสุดท้ายกันแล้วนะคะ ดูเหมือนจะเป็นวิกฤติของ ทีมแชมป์ เสียแล้วล่ะค่ะ
เพราะตอนนี้ คะแนนของทีมผู้ท้าชิงเท่ากับคะแนนรวมเลย หากจานนี้ได้คะแนนไปแม้เพียงคะแนนเดียว
ก็จะเป็นฝ่ายชนะไปโดยปริยายเลยนะคะ ”

ไกอา สรุปผลให้อย่างคร่าวๆ โรซ่า เหนแล้วว่าเธอชนะอย่างแน่นอน เมื่อผลออกมาเอกฉันท์แบบนี้จึงหันกลับไป
เกทับใส่ทั้งสองคน

“ ไม่ต้องลุ้มผลมันก็ออกมาเห็นๆอยู่แล้วล่ะค่ะ ถึง ซินยอร์ลูเซีย จะทำอาหารออกมาไม่เลิศหรูเท่าไหร่แต่อย่าง น้อยก็ได้คะแนนรสชาติพอกินได้ ซัก 2 คะแนนต่อคนอยู่แล้วล่ะค่ะ ไว้คืนนี้ดิฉันจะเปิดแชมเปญ ฉลองรอไว้ให้นะคะ โฮ้ โฮะๆๆๆ ”

“ ดีล่ะเท่านี้ปีหน้าก็ไม่ต้องมาแข่งแล้ว!! ”

ทว่าอากัปกริยา ของทั้งคู่ก็ทำเอา เธอเสียศูนย์ไปม่น้อยเพราะดูจะดีใจมากกว่าชนะเสียอีก

“ เอาล่ะค่ะผลสรุปคะแนนของทั้งสองทีมออกมาแล้วค่ะ ทีมที่ชนะเลิศได้แก่….. ”
ไกอา ประกาศค้างเอาไว้ แต่ไม่มีใครในสนามที่จะมารอลุ้นผลการตัดสินอีกแล้ว เพราะต่างคาดการณ์กันไว้ว่า
โรซ่า จะเป็นผู้ชนะอย่างแน่นอนหลังจากการประกาศผลคะแนนก่อนหน้า

“ ทีมของแชมป์เก่า ธนัททาทิเวศ จงกลาง และ โคทาโร่ เซนาคาว่า ค่า!!!!! ”

“ หา!!!!!!!!!!!!!!!! ”

ทุกคนร้องขึ้นเป็นเสียงเดียวกันกับผลที่ออกมา พลิกล็อคถลมทลาย

“ ด…เดี๋ยวก่อนสิ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ก็ดิฉันได้คะแนน เท่ากับคะแนนรวมของสองคนนั่นแล้วถ้ารวมกับของ
ซินยอร่า ลูเซีย ก็น่าจะมากกว่าไม่ใช่เหรอแล้วทำไมถึง ”

โรซ่า แย้งและพยายามขอคำตอบที่ผลออกมาเป็นแบบนี้แต่ แล้วก็มีเสียงหวอรถพยาบาดังขึ้น พร้อมกับ บรุษพยาบาล
2 คนขึ้นเวที มาหามร่างของ มาริน่า ลงเปลไป

“ คือว่า ผลคะแนนครั้งสุดท้าย อาหารของผู้เข้าแข่งขัน ลูเซีย คือ ขนมปังเนยกระเทียม น่ะค่ะ คะแนนจากกรรมการ 3 ท่านได้กันคนละสองคะแนนก็จริงแต่ของคุณ มาริน่า ได้ ลบ 10 นะคะ ”

ไกอา อธิบายเพื่อให้ทุกคนกระจ่างในผลการตัดสินครั้งนี้ ทำเอา โรซ่า หน้าซีดไปทันที

“ เดี๋ยวนะ 40 +6-10 มันก็เหลือแค่ 36 คะแนน ง..ไหงถึงได้ -10 ในตอนสุดท้ายล่ะ ”
โรซ่า พูดเสียงสั่นเหมือนจะร้องไห้ ด้านพวก ธนัท เองก็สงสัยเช่นกัน จนเมื่อ บีบิส ต้องเปิดภาพใบปลิว
การแข่งขึ้นฉายบนจอโฮดลแกรมให้ทุกคนดูเป็นขวัญตา

“ การแข่งขันนี้เนื่องจาก มาริน่า เป็นผู้ร่วมตัดสินด้วยดังนั้นจึงห้ามทำอาหารที่ใช้กระเทียม โดยเด็ดขาด
เพราะเธอแพ้กระเทียม ”
เหตุผลถูกบรรยายผ่านปากของ บีบิส จบโรซ่า ก็ไหลลงไปนอนกองกับพื้นด้วยความช็อค ขณะที่ โคทาโร่ กับ ธนัท
กอดกันกลมพากันน้ำตาไหลที่ต้องเป็นแชมป์ไปอีกปี และต้องลงแข่งในปีหน้าอีกเช่นเคย
จึงจบงานอาหารนานาชาติลงท่ามกลางสายตาเอือมกันแบบสุดๆของบรรดาผู้ชม
นับเป็นงานที่จบลงด้วยน้ำตาแห่งความปิติ เอิ่ม น่าจะอย่างนั้นนะ….. แล้วลูเซีย ล่ะ

………………………….
………………………………………….
ย้อนกลับไปประมาณ 10 นาทีก่อนจะเริ่มการตัดสิน

“ นี่ๆ อิส ฉันทำขนมปังเนยกระเทียมสูตรพิเศษมาให้ด้วยล่ะ ”
ลูเซีย ยื่นขนมปังส่งให้ กับ อิส ที่กำลังเก็บซุ้ม อยู่เพียงลำพังขณะที่ ทุกคนยังคงสนใจกับการ Cooking Duel
อยู่

“ เอ๋..ให้ผมเหรอ? ทำไมล่ะ? ”
อิส ย้อนถามกลับไปอย่าง งงๆแต่ก็รับมันมาจากเธอ

“ ก็เห็นช่วงนี้เธอซึมๆ ก็เลยคิดว่าไม่สบายหรือเปล่าน่ะ…..ก็เลยทำเจ้านี่มาให้… ”
ลูเซีย กล่าวโดยไม่มองหน้า เพราะเธอไม่รู้จะทำหน้ายังไงดีแล้ว

“ งั้นเหรอ…ขอโทษนะครับที่ทำให้ต้องลำบาก ”

“ ม..ไม่ใช่ซักหน่อย! ฉันน่ะทำก็เพราะอยากทำเท่านั้นแหละไม่ต้องคิดเป็นบุญคุณอะไรหรอก ”
ลูเซีย รีบแย้งขึ้นมาทันที

“ หมายถึงเรื่องที่คฤหาสน์ต่างหากล่ะครับ ”
ทันทีที่เค้าเอยถึงเรื่อง เธอจึงเงียบเสียงลง

“ ในตอนนั้นที่ผมกลับไปที่นั่นก็เพราะอยากจะไปเอาของสิ่งหนึ่ง แต่ว่ากลับถูกศัตรูเล่นงานจนถูกควบคุมได้ซะก่อน
ต้องขอบคุณจริงๆที่ช่วยผมเอาไว้ เพราะงั้นรับ สิ่งนี้ไว้ด้วยนะครับ ”
อิส กล่าวก่อนจะยัดเยียดอะไรบางอย่างใส่มือของเธอ

“ นี่มัน…. ”
ลูเซีย เปรยอย่างฉงน กับการกระทำของเค้า

“ อยากจะให้ช่วยเก็บมันไว้ น่ะครับ เพราะอีกไม่นานนี้ผมอาจจะต้องกลับไปที่…Alvis ”
อิส กล่าว แต่ไม่ทันไร เสียง หวอรถพยาบาลก็ดังขึ้น จนเมื่อ บรุษพยาบาล
ที่กำลังหามเปล ที่แบกร่างของ มาริน่า เอาไว้ ผ่านหน้าซุ้มไป

“ อ๊ะ มาสเตอร์!!! ”
อิส อุทานและพยายามจะวิ่งตามออกไปโดยไม่รู้ตัว เธอ พยายามจะรั้งเค้าเอาไว้เพื่อที่จะถาม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว

“ กลับไปที่ Alvis…? อะไรหว่าแล้วนี่มันอะไรกันนะ ”
ลูเซีย เปรยอย่าง งงๆกับเรื่องที่อิส พูดก่อนจะหงายฝ่ามือดูของที่ เขา ยัดเยียดให้เธอ

“ Ship ข้อมูลเหรอ? บันทึกอะไรไว้ล่ะเนี่ย ”
เธอพลิกดู แผ่นบันทึกข้อมูลบางๆที่รับมา จนไปสะดุดกับชื่อที่แกะทิ้งไว้บนแผ่นนั้น

“ ฟ้า … ”
เธอเปรยชื่อที่แกะไว้ออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา

…………………………………
…………………………………………….
โรงพยาบาล

“ โอย~~~ ปวดท้องจังเลย ”
มาริน่า ครวญพลางกลิ้งไปมาบนเตียงผู้ป่วยเหมือนเด็กๆ

“ ก็อยากทานอะไรไม่ระวังนี่คะ ”
ฟรานซิสก้า กล่าวเสียงหน่าย เพราะเธอต้องนอนโรงพยาบาลคืนหนึ่งทำให้ ต้องยกกันมาทั้งบ้าน
คือ เธอ อิส และ ไดสุเกะ เพื่อนอนเฝ้าไข้ทั้งคืน

…………………………………………………………..

…………………………………………………………
To be Continue
………………………………………………………………..

Next Sub-Turn

มิส:คุณหนูๆ ทั้งหลายการที่จะกิน อะไรนั้นเราต้องระวังด้วยนะครับไม่อย่างนั้นอาจจะปวดท้องได้
ชุติการ:ไหงพูดเป็นข้อคิดอย่างกับการ์ตูนเด็ดเล็กแบบนั้นล่ะ นี่มันช่วงตัวอย่างตอนต่อนะ
มิส: นั่นสินะ แล้วตอนต่อไปนี่มันอะไรเหรอ
บาร์น:คือว่า ตอนต่อไปมันมีทีเดียว 2 ตอนเลยน่ะสิ
มิส:หาแล้วเราจะเลือกตอนไหนมาฉายก่อนล่ะเนี่ย
ธนัท:ถ้างั้นเรามาให้ ผู้อ่านทุกท่าน เป็นคนเลือกกันดีไหมล่ะ
ทุกคน:อื้อ!!
โคทาโร่: งั้นก็ตอนต่อไปเป็นแบบทางเลือกนะไปดูกันเลย


ตัวเลือกที่ 1)
ธนัท:ช่วงนี้เนี่ย พี่ริน มาขอดูสำรับของฉันบ่อยเหลือเกิน หลังกินข้าวบ้างล่ะหลังอาบน้ำเสร็จบ้างล่ะ
ก่อนไปโรงเรียนแล้วก็ก่อน เข้านอนด้วยไม่รู้ว่าทำไมถึงได้อยากดูนักหนา
มิส:โห ดูบ่อยขนาดนั้น นี่ถ้าให้สำรับไปเลย คงจะเอาไปขึ้นหิ้งเลยมั้งเนี่ย
โคทาโร่:อ๊า!!! แย่แล้ว พี่ริน กับ พี่ศรี ทะเลาะกันซะแล้ว
มิส+ธนัท: เอ๋!!!
ศรี:ถ้าเธอยังยึดติดกับอดีตอยู่อีกล่ะก็พี่จะเป็นคนตัดมันเอง
ริน:พี่คะ..ทำต้องบังคับกันแบบนี้ด้วย ไม่ว่ายัง ฉันก็ตัดใจลืมเค้าไม่ได้หรอก
มิส:ตอนต่อไป Sub-Turn 27 ThaliwilyaVs.Valkyrie ศึกระหว่างพี่น้อง ทาลิวิลย่าและวอลคีรี่
นี่มัน… Crisis Valkyrier เหรอ
ธนัท:ทำไมพี่ต้องมาทะเลาะกันด้วยล่ะครับ พอซะทีเถอะ


ตัวเลือกที่ 2)
บาร์น: นี่ๆ ทุกคนนักเรียนแลกเปลี่ยนมีกันทั้งหมดกี่คนเอ่ย
แอน: โฟว์ แมน(Four man) จ้า
มิส: ตอนนี้รู้จักพวกเรา 2 คนแล้ว แต่อีก 2 คนล่ะ
ธนัท: เอ่อไม่รู้สิ ฉันมาไม่ทันตอนพวกนายแนะนำตัวกันน่ะ
เชสต์(Chess):DNA-Changer คือสิ่งที่ฉันเกลียดที่สุด All Hire Neo-Nazism!!!
โคทาโร่:นี่นายเป็นพวกลัทธิ Neo-Nazism งั้นเหรอ….
ธนัท: ตอนต่อไป Sub-Turn 27 Chess Tactic กลยุทธหมากรุกของชายผู้เกียดชัง DNA-Changer
.....นายจะแบ่งแยกคนด้วยเหตุผลไร้สาระแบบนั้นน่ะเหรอ….

Card Pop!!

Shapeshifts


Type: tarot Subtype: 18 The Moon
Mp Cost: 2 Turn: 0 Rarity: TAG
Ability:
Sacrifice Seal 1 ใบที่มีเผ่าพันธุ์ [Pugilist] เป็นเพียงเผ่าพันธุ์เดียวเท่านั้น จากนั้นร่าย N[Werewolf]
จากกองการ์ดซีล 1 ใบ โดยไม่ต้องจ่าย Mp ค่าร่าย


สำหรับ บทนี้มาช้ากว่าปกติ อันเนื่องมาจาก โดนเรียนชดเชยกันกระจุยกระจาย จนไม่มีเวลาเขียนเลยครับ
เรียนตั้งกะจันทร์ยันอาทิตย์ เหอๆ แถมอีก 2 อาทิตย์สอบ โอ้วแม่เจ้า!! ไหงยัดกันมาเต็มตารางแบบนี้
ด้วยเหตุฉะนี้เอง ตอนต่อไปก็เลยต้องเลื่อนไปลงกันอีกทีกลางเดือนหน้าโน่นล่ะครับ แหะๆ

เพราะงั้นก็เลยขอทดสอบระบบ ทางเลือกกันซะหน่อย อย่างที่อธิบายไปว่า จะให้โหวต
ว่าจะเอาตอนไหนจาก 2 ตอนข้างบน เป็นตอนต่อไปกันนะครับ ส่วนตอนที่ไม่ได้ถูกเลือกก็จะไปลงต่อจาก
ตอนที่เลือกไว้แทน เพราะงั้นแล้วช่วยกันโหวตหน่อยเน้อ

[MetalGaruruMoN]

เฮ่อะๆ นึกภาพอาคามุ กลายร่างเป็นเวียร์วูฟแล้ว ทำเอาอยากไปดู Twilight ขึ้นมาตะหงิดๆกระแสหมาป่ากับแวมไพร์
แรงสินะๆช่วงนี้ ว่าแต่อาหารของโรซ่า สปาเก็ตตี้เนยเผ็ด…มันอร่อยเหรอเนี่ย
(ว่าไปแล้วของเกลียดของ บาร์นคุง ด้วยนี่เนอะ ทั้งสปาเก็ตตี้ทั้งของเผ็ด เหอๆเลยไม่มาตัดสินด้วยสินะ)


งืม~~~ดีนะเนี่ยที่ทีมงานไม่มีส่วนในการโหวต เพราะถ้าให้เลือกก็เลือกไม่ถูกอ่ะ ดูแล้วน่าจะเครียดทั้ง 2 ตอนเลย
เอแบบนี้ก็เท่ากับว่า.....เจอตอนเครียดทีเดียวควบสองสัปดาห์!!! อ่อก

[Watcharapol Luekaya]

มาเม้นให้ครับ
น่าจะให้เวียร์วูฟสู้กะแวมไพร์นะ

[boy]

โหวตตัวเลือกที่ 2 ครับ
ความจริงแล้วอ่าน Intro แค่ดูเหมือนว่าจะมี Battle มากกว่าตัวเลือกที่ 1 อ่านะฮะ =3=
แถมน่าจะอ่านเข้าใจง่ายด้วย (แล้วมันไม่เข้าใจยังไงฟร่ะ)
เดี๋ยวๆๆๆๆ ผักไม่ได้เกลียดสปาเกตตี้นะ =[]=
ชอบด้วยซ้ำง่า

[MetalGaruruMoN]

โหวตตัวเลือกที่ 2 ครับ
ความจริงแล้วอ่าน Intro แค่ดูเหมือนว่าจะมี Battle มากกว่าตัวเลือกที่ 1 อ่านะฮะ =3=
แถมน่าจะอ่านเข้าใจง่ายด้วย (แล้วมันไม่เข้าใจยังไงฟร่ะ)
เดี๋ยวๆๆๆๆ ผักไม่ได้เกลียดสปาเกตตี้นะ =[]=
ชอบด้วยซ้ำง่า

เอ๊ะอ้าวเรอ งั้นเจ๊ไปจำสลับกับใครล่ะเนี่ย.......................ติ๊กต๊อก.......................
ปิ๊ง!!


อ๋อ ที่เกลียดพวกเส้นมันพัลม่อนจังนี่นะ แสดงว่าเจ๊เบลอ เข้าั้นแล้วสินะเนี่ย เหอๆ

[Wargreamon]

Sub-Turn 27 Chess Tactic กลยุทธหมากรุกของชายผู้เกลียดชัง DNA-Changer


เช้าตรู่ของวันใหม่ เริ่มด้วยแสงอรุณแย้มแรก ที่ค่อยผุดขึ้นจากขอบฟ้า ลมฝนพัดผ่านเหนือเมือง ทำให้อากาศชุ่มชื้น
ที่สนามกลางโรงเรียนมนต์วิทยา กำลังมีการดวลเกิดขึ้น เสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมวลหมู่นกตื่นจากการหลับไหล
และบินแตกฮือ ออกจากบริเวณด้วยอาการตื่นตระหนก กับเสียงที่ดังขึ้น


“ Cost mp 2 ให้ ดิ การ์เดี้ยน ออฟ เลกซ์เดทีโอ ซีล โจมตี! Sacred Sword Bounding!!!(การกระทำของดาบศักสิทธิ์) ”
สิ้นเสียงประกาศของ คิระ จักรกลสวรรค์ จึงได้พุ่งทะยานลงไปผ่าร่างอสูร บนสนามจนแตกสลายในดาบเดียว
พร้อมๆกับ ผลการดวลได้ออกมาเป็นเอกฉันท์

“ ดวลได้หละหลวมมาก นี่นายตั้งใจที่จะมาดวลด้วยรึเปล่า!! ”
คิระ ตะคอก ชัยชนะในเช้าตรู่ของวันนี้ ได้มาอย่างง่ายดาย จนยากจะเชื่อว่ที่ดวลอยู่ด้วยจนถึงเมื่อครู่ คือ หนึ่งในนักเรียน
แลกเปลี่ยนซึ่งเป็นแชมป์ของ SMN Academy อีกหนึ่งสาขา

“ ฉัน…ไม่มีความจำเป็นที่จะดวลกับนาย มันก็เท่านั้น.. ”
นักเรียนแลกเปลี่ยนตอบน้ำเสียงเรียบนิ่ง เมินเฉยต่ออารมณ์ของ อีกฝ่าย เขามีผมมัดหางเปียสั้นสีดำออกเทา
สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีอัญชัน ที่แขนสวม Note ซึ่งอยู่ใน Duel Mode สีฟ้า

“ ความจำเป็นสำหรับการดวลยังงั้นเหรอ? สำหรับนายการดวลมันคืออะไรกันน่ะ… ”
คิระ ทวนคำด้วยความฉงน กับเหตุผลของ เขา

“ การดวลคือหน้าที่มันก็เท่านั้น… ”

…………………………………………………………………………………..

…………………………………………………………………………………..

เป็นเวลาเย็นจนเกือบถึงหัวค่ำแล้ว แต่ท้องฟ้าก็ยังคงมัวหมองไปด้วยเมฆฝน และพายุโหมกระหน่ำ จนน้ำท่วมขัง
เต็มถนน ภายในโรงเรียนตอนนี้ยังคงมีนักเรียนเหลือ ค้างอยู่จำนวนไม่น้อยที่ติดฝน จนกลับบ้านไม่ได้

“ หน้าฝนนี่น่าเบื่อจังเลยน้า~~~ ”
มิส บ่นเสียงหน่าย กับพายุฝนที่ตกแบบไม่ลืมหูลืมตา ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนแม้จะยาวมาถึงช่วงหัวค่ำ สายฝนก็ยังคงกระหน่ำลง
มา ธนัท ลูเซีย โคทาโร่ รวมกับเค้าทั้งหมด 4 คนอยู่บ้านเดียวกัน เองก็ต้องนั่งรออยู่ในโรงอาหาร อย่างเซงๆด้วย
เสียงอึกอึงจากบรรดานักเรียนในโรงอาหาร ที่ทั้งเล่นกันบ้างหยอกกันบ้าง ดังตัดกับ เสียงน้ำกระทบหลังคาสังกะสี
เก่าๆของอาคารโรงอาหาร ที่ยื่นเยื้องออกจากตึกเรียน

ถัดไปจากโต๊ะม้านั่งยาวของพวกเค้า สองสามโต๊ะ มีกลุ่ม นักเรียนกำลังมุงดูการเล่นหมากรุกของ
นักเรียนแลกเปลี่ยนที่ดวลกับ คิระ เมื่อเช้า

“ รุกฆาต ”
นักเรียนแลกเปลี่ยน กล่าวน้ำเสียงเรียบนิ่ง หลังจากวางตัวหมากลงบนกระดาน

“ แพ้อีกแล้ว..ว้า~ ถูก เชส ดักทางได้หมดเลย ”
นักเรียนที่นั่งเล่นอยู่ด้วยกันบ่นด้วยความเสียดาย

“ นั่นใครน่ะไม่คุ้นหน้าเท่าไหร่เลยแหะ? ”
ธนัท เปรยถาม หลังจากทอดสายตามองไปรอบๆแก้เซ็ง จนไปสะดุดตากับ นักเรียนใหม่ที่ไม่คุ้นหน้า

“ อ๋อ นั่นน่ะเหรอ นักเรียนแลกเปลี่ยนไง รู้สึกจะชื่อ ดีเจ อะไรซักอย่างเนี่ยแหละ ”
โคทาโร่ ตอบแต่ก็ลืมอีกฝ่ายไปนานแล้ว

“ ดีเจ เชส (DJ Chess) แชมป์ SMn Academy สาขา North น่ะ ได้ยินว่าเคยชนะการแข่งหมากรุกรุ่นจูเนียร์
มาหลายรายการแล้ว เชี่ยวชาญ การวางกลยุทธหมากแล้วยังปรับแทคติกของหมากรุกมาใช้กับ
การดวลจนสามารถสร้าง การเล่นผสานหมากรุกได้เลยด้วย ”

มิส ตอบโดยให้ข้อมูลอย่างละเอียด เกี่ยวกับนักเรียนแลกเปลี่ยนคนนี้ แต่ทว่าสีหน้าของเค้าเมื่อพูดถึงเรื่องนี้กลับบอกอาการ
บุญไม่รับถึงที่สุด

“ รู้ละเอียดจังเลยนะ เคยคุยด้วยกันมาก่อนเหรอ ”
ลูเซีย ถาม มิส ทำเสียงจิกจักด้วยความไม่พอใจก่อนจะตอบแบบขอไปที

“ หมอนั่นน่ะ ดังจะตายใครๆก็รู้จักทั้งนั้นแต่สำหรับฉันน่ะขอผ่านดีกว่า ”

ระหว่างนั้นเอง บาร์น ซึ่งถูกทุกคนวานให้ไปซื้อน้ำ กำลัง ถือถาดวางแก้วน้ำเดินมาอย่างทุลักทุเล
มือจับถาดเอียงสั่นไปมา ด้วยความกลัวว่า น้ำในแก้วจะหก เลยยิ่งทำให้ ถือถาดไม่นิ่ง ยิ่งกว่าเดิม

“ เหวอ~~อย่าหกน้า~… ”
บาร์น เปรยเสียงสั่น ด้วยความกลัวเลยทำก้าวเท้าผิดจังหวะจนขาพันกัน ถาดน้ำในมือจึง หลุดกระเด็นเทโครมลงบนกระดานหมากรุกบนโต๊ะจนเปียกชุ่มโชก ทำเอากลุ่มที่นั่งเล่นกันอยู่ แตกฝูงกันถอยออกจากโต๊ะ เพื่อหลบน้ำที่จะกระเซ็นเข้ามา


“ เฮ้อ~~~ ”
ธนัท และ ทุกคนพากันถอนหายใจด้วยความเอือมระอา กับความซุ่มซ่ามที่แกไม่หายของ บาร์น

“ ข…ขอโทษนะ ผัก จะรีบเช็ดให้เดี๋ยวนี้ล่ะ!! ”
บาร์น พูดอย่างร้อนรน ก่อนจะรีบวิ่งไปเอาผ้า มาเช็ดโต๊ะกับกระดานหมากรุก ให้ โดยมีสายตาไม่พอใจจาก
เชส ที่ถูกรบกวนระหว่างเล่นหมากรุกอยู่

ไม่นานหลังจาก บาร์น เช็ดทุกอย่างจดแห้งสะอาดหมดจดแล้ว และกล่าวขอโทษอีกครั้งก่อนจะเก็บเอาแก้วน้ำบนพื้นไปทิ้ง
ทุกอย่างเหมือนจะเป็นปกติดี ทุกคนจึงไม่ได้สนใจอะไร เริ่มคุยกันต่อว่า จะเอายังไงกับน้ำที่ฝากซื้อเพราะ บาร์น ทำหก หมดแล้วนั้นเอง

“ อย่ามาแตะนะ!!! ”
เสียงตะคอกดังขึ้นพร้อมกับ บาร์น ถูกผลักกระเด็น มาล้มลงที่ โต๊ะของ พวกธนัท

“ เฮ้!! ทำอะไรของนายน่ะ ”
โคทาโร่ สวนใส่ กลุ่มนั้นทันที ขณะที่ ธนัท กับ ลูเซีย เข้าไปช่วยพยุง บาร์น ขึ้น

“ ผ..ผัก เห็นว่าเสื้อของเค้ายังเลอะน้ำอยู่ก็เลยจะเช็ดให้เท่านั้นเอง ”
บาร์น กล่าว ตัวสั่น จากอาการหวาดวิตก พร้อมกับชี้ไปที่ เชส ซึ่งเป้นคนผลักตน

“ พวก DNA-Changer น่ะฉันเกลียดที่สุด แค่ต้องมาอยู่ด้วยกันนี่ก็เกินพอแล้ว ”
เชส กล่าวด้วยสายตาเหยียยดหยาม ใส บาร์น ยังคงสั่นเป็นลูกนก อยู่ ข้างหลัง ธนัท

“ อะไรของนายน่ะ บาร์น แค่จะช่วย เช็ดให้แค่นั้น ไม่ได้จะเข้าไปทำร้ายซักหน่อย ”
มิส ขึ้นเสียงด้วยความโกรธ และเดินออกมาเผชิญหน้า กับ อีกฝ่าย
เสียงตะคอกของพวกเค้าดังก้องอยู่ในโรงอาหาร จนนักเรียนทุกคนหันมามองกัน

โคทาโร่ ที่จะคิดจะเข้าไปห้ามปรามทั้งสองคน แต่เค้ากลับเหลือบไปเห็น เข็มกลัดรูปปีกสีทองที่ติดอก
ของ เชส อยู่ทำให้ต้องเอ่ยออกมา

“ เข็มกลัดนั่น…นี่นายเป็นพวก Neo-Nazism งั้นเหรอ… ”

[DJ Chess]


“ หึ สมเป็นลูกชายของรองประธานสภา URH(สหพันธ์ปฏิรูปมนุษยชาติ) คงรู้จักเข็มกลัดนี่ดีสินะ ”
เชส กล่าวพลางอวดเข็มกลัดนั้นอย่างภาคภูมิใจ แต่สำหรับ โคทาโร่ แล้วการกระทำเช่นนี้ก็ไม่ต่าง
กับกำลังเหยียดหยามเค้าอยู่เลย

“ เข็มกลัดนั่นมันทำไมเหรอ แล้ว อะไรคือ Neo-Nazism ”
ธนัท และ ลูเซีย ถามขึ้นแทบจะพร้อมกัน

“ เข็มกลัดนั่น ผู้ที่จะมีมันได้คือคนที่อุทิศตนก่อประโยชน์แก่ Neo-Nazism ซึ่งเป็นลัทธิ ที่มีจุดมุ่ง
หมายในการกำราบ DNA-Changer ทั้งหมด ”

โคทาโร่ หันมาอธิบาย

“ พูดง่ายๆก็คือไอ้พวกนี้มัน เหยียดชนชั้นกันยังไงล่ะ เพราะแบบนี้แหละถึงได้ไม่ชอบไอ้หมอนี่ไง ”
มิส ตะคอก และโกรธอย่างที่ พวกเค้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

“ สิ่งที่คั่นระหว่างสวรรค์และแผ่นดินคือลม หาก Neo-Nazism คือลม Neo-Nazism ก็เปรียบดั่งที่รองบาทแห่งพระเจ้า
หรืออีกนัยหนึ่ง ก็คือเส้นคอยกั้นไม่ให้ ปีศาจอย่างพวกแกขึ้นจากผืนดิน ไปลุกล้ำสวรรค์ที่มีแต่ คนดีๆเค้าอยู่กันไง ”

เชส กล่าวเปรียบเปรยเพื่อที่จะยั่ว โคทาโร่ แต่ก็หาได้ทำให้ เค้ามีน้ำโหแต่อย่างใด กลับกันคนที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟแทน
คือ มิส ที่เป็น N.O.W.(Native of World)

“ นี่ โคทาดร่ ถูกหยามขนาดนี้แล้วยังจะทำเฉยได้อยู่อีกเหรอ! ”
มิส หันมาใส่อารมณ์กับ โคทาโร่ บ้างเมื่อเห็นว่าเจ้าตัว ยังเฉยกับคำพูดของ เชส

“ ถึงพูดแบบนั้นไปก็เปล่าประโยชน์ พวก DNA-Changer น่ะมันเก่งได้ก็เพราะใช้พลังของอสูร
รังแกคนที่อ่อนแอกว่า ก็เท่านั้น น้ำหน้าอย่างพวกมันไม่กล้าขึ้นเสียงกับฉันคนนี้หรอก อย่างเจ้าแว่นนั่น ก็เหมือนกันเพราะ
มันอ่อนแอไงล่ะถึงได้ต้องหลบอยู่ข้างหลังแล้วให้พวกแกออกหน้าแทน ”

เชส สบประหมาด ใส่อย่างสนุกปาก จนในที่สุด มิส ก็เหลือ อดกับกริยาแบบนี้เต็มที ก่อนจะกำหมัดเหวี่ยงกำปั้นใส่
หวังตั้นหน้าให้อีกฝ่ายเงียบ

“ พูดแบบนี้ลองเอานี่ไปกินหน่อยไหม!! ”
มิส ตะคอกทว่า ก่อนที่หมัดจะถูกต้องตัวของ เชส และนำมาซึ่งการทะเลาะวิวาทในภายหลัง
นั้น โคทาโร่ กลับเป็นฝ่ายเอาหน้าเข้ามารับ หมัดของ มิส แทนเสียก่อน
วินาทีนั้น ทุกคนได้แต่นิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออกไปในทันที

“ ท…ทำไม ”
มิส กล่าวเท่าที่เสียงของเค้าจะเอื้ออำนวยให้ หลังจากความประหลาดใจกลืนเอาเสียงของเค้าไปหมด

“ นี่แกโง่รึเปล่า…ถึงเข้ามากันให้ฉันแบบนี้ ”
แม้แต่ เชส เองก็พูดไม่ถูกกับการกระทำของเค้า

“ ที่ ฉันนิ่งเฉยใช่ว่าเพราะฉันโง่งม ที่ฉันอดกลั้นไม่ใช่เพราะขลาดกลัว แต่การที่ฉันอดทนและปกป้องนั่นต่างหาก
คือการเข้มแข็งที่ประเสริฐสุด ”
โคทาโร่ กล่าว ก่อนจะดึงตัว มิส กลับไปนั่งที่ เพื่อไม่ให้เข้าไปหาเรื่องอีก

“ ทำไมคำพูดของสองคนนั่นมันฟังดูคุ้นๆยังไงชอบกลแหะ ”
ลูเซีย เปรยอย่าง งงๆเพราะเธอรู้สึกคุ้นหูกับประโยคที่ ทั้ง เชส และ โคทาโร่ พูดไม่น้อย

“ สิ่งที่คั่นระหว่างสวรรค์และแผ่นดินคือ ลม หากฟีเลเซียคือลม ฟีเลเซียก็เปรียบดังที่รองบาทแห่งพระเจ้า
ที่ เรานิ่งเฉยใช่ว่าเพราะเราโง่งม ที่เราอดกลั้นไม่ใช่เพราะเราขลาดกลัว แต่การที่เราอดทนและปกป้องนั่นต่างหากคือการเข้มแข็งที่ประเสริฐสุด ประโยคเด็ดของ ซักมันด์ที่3(Sigmund 3rd, Knight of Swords) กับ ฮารีซัน(Harison, Knight of Pentacles) ไงล่ะ ”
เด็กหนุ่ม ซึ่งสูงอายุกว่าพวกเค้าและน่าจะพอๆกับ ศรี และ คิระ ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับตอบคำถามของ ลูเซีย



“ ใครกันอีกล่ะเนี่ย ”
ลูเซีย เปรยทันทีหลังจากเห็นเด็กหนุ่ม ก่อนที่เธอจะนึกออกว่า คือคนที่เคยเจอ ที่ ภิรมย์พลาซ่าเมื่อครั้ง
ไปเดินหา สำรับใหม่ให้กับธนัท

“ นาย…เกร เหรอ มาที่นี่ได้ไงน่ะ! ”
ธนัท เกือบจะลืมชื่อของเค้าไปแล้ว แต่ที่ตกใจยิ่งกว่าคือ การที่เค้ามาปรากฏตัวที่นี่

“ ก็แค่แวะมาเท่านั้นเอง ”
เกร ตอบก่อนจะควักเอา Note รูปแบบจี้ห้อยคอขึ้น มาจากกระเป๋าเสื้อ

/Get Set/
เสียงทุ้มแหลมกังวานจาก Note ก่อนจะเปลี่ยนรูปเป็นปลอกแขนจักรกล เกร นำมันสวมเข้าไปที่แขนซ้าย
ก่อนจะชี้ไปที่ เชส

“ สนใจจะมาดวลกันหน่อยไหมล่ะ ”
เกร ท้า เชส ไม่ยอมตกปากรับคำทันที ด้วยความรู้สึกระแวงต่อเค้า

“ ทำไมฉันต้องมาดวลกับคนนอกทีไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยอย่างนายล่ะ ”
เชส กล่าว เกร จึงลดมือลงแล้วหันไปคว้าตัว ธนัท มาแทน

“ งั้นดวลกับหมอนี่แทนก็แล้วกัน ”
“ หา!! เดี๋ยวเด้ ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ ”
ธนัท รีบแย้งทันที ที่จู่ๆก็ถูกยัดเยียดให้ ดวลแทน

“ ก็เพราะนายเป็นคนที่เกี่ยวข้องแล้วก็เป็นลูกศิษย์ของฉันไง ”
เกร ตอบเสียงเรียบ หน้าตาเฉยราวกับเป็นเรื่องธรรมดา แต่

“ ไม่เห็นมันจะเกี่ยวกันตรงไหนเลย แล้วอีกอย่างฉันไปเป็นลูกศิษย์ของนายตั้งกะเมื่อไหร่กัน ”
ธนัท แย้งอีกครั้ง ทว่า เชส กลับแทรกขึ้นมา

“ น่าสนดีนี่ ไงๆตอนนี้ฉันก็หมดอารมณ์เล่นหมากรุกแล้วงั้น ขอเปลี่ยนบรรยากาศหน่อยก็แล้วกัน ” /Get Set/
เชส กล่าวพร้อมกับ แสตนบายรื Note ของตนเป็น ปลอกแขนเรียบร้อย

“ ไม่ต้องหรอก ธนัท คนอย่างหมอนี่น่ะ ฉันจะจัดการเอง!! ”
มิส เสนอที่จะรับการดวลนี้แทน

{ถ้าให้ มิส ดวลแทนมันจะดีเหรอ…}
ธนัท คิดตัวเค้าทราบอยู่แล้วถึงจุดประสงค์ ที่มิส ต้องการดวลแทน ซึ่งไม่ใช่อย่างอื่นนอกจาก
การเอาคืนแทน บาร์น แต่ตัวเค้าเองไม่อยากให้ใครใช้การดวล เป็นเครื่องมือในการทะเลาะวิวาทหรือกระทั่ง
แบ่งแยกเผ่าพันธุ์กันเองแบบนี้

ธนัท ยกแขนซ้ายขึ้นตั้งฉากกับลำตัวให้ คอรัส Note ของเค้าที่ตอนนี้เป็นหุ่นยนต์นกและเกาะอยู่บนหัวของเค้า
ลงมาเกาะที่แขนแทน

“ เข้าใจแล้วถ้างั้นการดวลนี่ฉันขอรับไว้เองก็แล้วกัน ” /Get Set Twin Drive Mode!!/
ธนัท กล่าวพร้อมกับ แสตนบายน์ คอรัส ให้กลายเป็น ปลอกแขนซึ่งมี ไดนาเมซถึง 2 ฟันเฟืองด้วยกัน

“ เดี๋ยวสิ ก็ฉันบอกแล้วไงว่าจะดวลเอง… ”
มิส เข้ามาขวางเอาไว้

“ มิส นายน่ะดวลไปเพื่ออะไรงั้นเหรอ ”
คำถามของ ธนัท ทำให้เค้าต้องสะอึก จนพูดไม่ออก เพียงเหตุผลเดียวที่เค้าต้อง การจะดวลในตอนนี้ก็คือเพื่อแก้แค้นเท่านั้น

“ ร…เรื่องนั้น ”
“ ถ้านายให้เหตุผลไม่ได้ ฉันก็คงยอมยกให้นายไม่ได้หรอก ”
ธนัท กล่าวตัดก่อนจะเดินหลีกผ่านเขาไป มิส รีบแย้งพูดเพื่อจะถ่วงเวลาให้ตัวเองหาเหตุผลที่ ธนัท จะยอมรับมันได้

“ ม…มีสิ เหตุผลน่ะ ”
“ เพื่อเอาคืนงั้นเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ฉันไม่ยอมเด็ดขาด การดวลไม่การทะเลาะวิวาทนะ ”
ธนัท สวนคำกลับ เพียงเท่านั้น มิส ก็พูดไม่อาจอ้างอะไรได้อีก และยอมเลิกลาไป

{ธนัทธาทิเวศ เคยเอาชนะ King of Checkmate5 จนได้ฉายาว่านักดวลในตำนาน และเพราะดวลกับ King ในครั้งนั้นจึงทำให้ เหล่า DNA-Changer เป็นอิสระจากการปกครองของ N.O.W. สำหรับ Neo-Nazism แล้ว แม้แต่
Prince ฮิตเลอร์เองก็ยังขยาด}

เชส คิดข้อมูลของ ธนัท นั้นเค้ารู้มาเป็นอย่างดี

“ Let’s Duel!!! ”
สิ้นคำของทั้งคู่ ฟันเฟืองไดนาเมซบนปลอกแขนของพวกเค้า ก็เริ่มหมุนปั่นด้วยความเร็วสูง
จนเกิดละอองแสงสีเขียวอันเป็นพลังงานเวทมนต์กระจายออกมาปกคลุมบริเวณรอบๆ

[Chess Status; Hand: Seal 5 , Mystic 2 Mp:5/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 5 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]

“ ฉันเป็นฝ่ายเริ่มก่อน Cost Mp 4 อัญเชิญ ราชาแห่งฟีเลเซีย ซิกมันด์ที่ 3(Sigmund 3rd, the King of Felasia) ออกมาที่ At Line ”
เชส กล่าว ก่อนจะแสดงการ์ดซีล บนมือ ออกมาละอองเวทย์ต่างถูก การ์ดใบนั้นดูดกลืนเข้าไป และกลายเป็นแสงพุ่งลง
มายังสนาม หลังผ้าคลุมสีขาวสะบัดพริ้วลงร่างของ กษัตริย์แห่งสายลมในชุดเกราะสีเขียวขลิบทองก็ปรากฏขึ้นบนสนาม
ดวงตาคมกร้าวและเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและความภูมิในเกรียติยศ



“ ให้ Ability ทำงาน! เมื่อ ซิกมันด์ ลงมาบนสนาม จะได้เลือก เผ่าอัศวิน(Knight)เลเวล 1 หรือธันเดอริกซ์ ออกมาจากสำรับได้ใบหนึ่ง ฉันให้ ธันเดอริกซ์(Thunderix) ออกมาที่ Df Line ”
สิ้นคำ ซีลการ์ดอีกใบก็พุ่งออกมาจากสำรับและกลายเป็นวิหกสายฟ้า ทะยานออกมาอย่างรวดเร็ว
วิหกสายมีขนสีทองเหลืองราวกับแสงแห่งอัสนี ทันทีที่วิหกสายฟ้าปรากฏตัว ก็บังเกิดฟ้าร้องกึกก้องท่ามกลางสายฝน
ขึ้นมาราวกับจะขานรับการปรากฏตัวของมัน


“ จากนั้นให้ ซิกมันด์รวมร่าง กับ ธันเดอริกซ์ ” /Combination Console/
เชส ประกาศ จอโฮโลแกรมสำหรับใส่คำสั่งรวมร่างปรากฏขึ้น ต่อหน้า เชส ใส่คำสั่งลงไป
ไม่นาน วิหกสายฟ้าก็ทะยานขึ้นจากแนวหลังไปเกาะที่แขนของ กษัตริย์แห่งสายลม

“ จากนั้น Cost Mp 2 สวม ฟีเลเซีย รอยัล ซอร์ด (Felasia Royal Sword)ให้กับ ซิกมันด์ รอบหมดรอบ ”
การ์ดมิสติกบนมือถูกร่ายออกมา ดาบเนื้อโลหะสีทองขาวด้ามจับสีเขียว เสียบอยู่ในฝักดาบสีเขียวซึ่ง
ทำขึ้นอย่างประณีตงดงามสมเป็นดาบแห่งราชวงศ์ ถูกชักออกด้วยพระหัตของกษัตริย์แห่งสายลม

[Chess Status; Hand: Seal 4 , Mystic 1 Mp:0/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 5 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]

“ รอบของฉัน!! ”
ธนัท ประกาศ ก่อนจะหยิบซีลการ์ดบนมืออกมาเตรียมร่าย

“ Cost Mp 3 ให้ ไซเบอร์ทิก้า ดราก้อน(Cybertica Dragon) ออกมาที่ At Line ”
สิ้นคำ มังกรจักรกลลำยักษ์ ก็ทะยานลงสู่สนามรบ ร่างของมันส่งเสียงกระหึ่มของเครื่องจักรกลซึ่งกำลังทำงาน
อยู่ในร่างของมันดังก้อง


[Chess Status; Hand: Seal 4 , Mystic 1 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 4 , Mystic 2 Mp:5/8 Shrine 0/8 ]

“ จากนั้น Cost Mp 5 เพื่ออัญเชิญเพิ่มอีก 3 ใบ ออกมาเลย ดาร์ตมิสยูนิคอร์น(Darkmist Unicorn)
แรฟเซโน่(Llapseno, the Dragogriff) เซนท์แมกนัสเบบี้ดราก้อน(St. Magnus’ Baby Dragon) เลือกให้อยู่ใน Df Line แล้วหมดรอบ ”

สิ้นคำ ยูนิคอร์มหมอกทมิฬ มังกรกริฟแรฟเซโน่ และ ลูกมังกรขาวแห่งเซนท์แมกนัส ทั้งสามตัว ปรากฏขึ้นบนสนาม
แนวหลังอย่างเนืองขนัด



[Chess Status; Hand: Seal 4 , Mystic 1 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 2 Mp:0/8 Shrine 0/8 ]

“ รอบของฉัน จั่วไพ่ ”
เชส ประกาศ พร้อมกับจับการ์ดมิสติกขึ้นมา 2 ใบ

[Chess Status; Hand: Seal 4 , Mystic 3 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]

“ ด้วยผลของ ฟีเลเซีย รอยัล ซอว์ด ทำให้ค่า Cost ทุกอย่างของ ซิกมันด์ลดลงไป 1 จุด และสามารถโจมตีข้าม
ไปยัง Df Line ได้ ”
เชส อธิบาย กษัตริย์แห่งสายลม กระชับดาบมั่น ตั้งท่าเตรียมบุกทันที

“ อะไรนะ โจมตีข้ามแนวยังงั้นเหรอ?! ”
ธนัท ถึงกับรนขึ้นมา แนวหลังของเขาตอนนี้มีแต่ อสูรที่ อ่อนพลังเกินกว่าจะต่อสู้ได้ทั้งนั้น

“ Cost Mp 2 ให้ ซิกมันด์ โจมตีไปที่ ดาร์คมิสยูนิคอร์น Flash Slash!! ”
เชส ประกาศ กษัตริย์แห่งสายลมสะบัดแขนออกให้ วิหกสายฟ้า บินไปเกาะหลังของตน วิหกสายฟ้า
กระพือปีกของมันเบาๆ ก็สามารถยกร่าง ของกษัตริย์แห่งสายลมขึ้นมาได้อย่างสบายๆ ก่อนจะพาทะยานไป
ข้างหน้าอย่างรวดเร็วจนราวกับ กษัตริย์แห่งสายลมมีปีกสีทอง ดาบเหล็กราชวงศ์ ตะวัดอย่างรวดเร็วดั่ง
สายฟ้าแลบแปลบปลาบ ทันทีที่ กษัตริย์แห่งสายลมบินผ่านไป ร่างของ ยูนิคอร์นหมอกทมิฬ ก็แตกสลายในบัดดล

[Chess Status; Hand: Seal 4 , Mystic 3 Mp:6/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 1/8 ]

“ ด้วยผลของ ฟีเลเซีย รอยัล ซอว์ด ทำให้ ซิกมันด์ โจมตีได้อีกครั้ง รับไป!! Flash Slash!!! ”
เชส ประกาศ กษัตริย์แห่งสายลมได้บินย้อนกลับมา และใช้ดาบปักลงไปยังกลางหลังของ แรฟเซโน่
และปลิดชีพมันในดาบเดียว ร่างของ แรฟเซโน่แตกสลายกลับคืนเป็นละออง และควบแน่นกลับเป็นการ์ดผนึกอีกครั้ง
ก่อนจะร่อนกลับไปที่ มือของธนัท

[Chess Status; Hand: Seal 4 , Mystic 3 Mp:6/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 2/8 ]

“ อะไรกันน่ะ ค่า Cost ก็ลดลง โจมตีข้ามแนวได้ ไม่พอนี่ยังต่อสู้ได้ถึง 2 ครั้งในหนึ่งรอบอีก ขี้โกงกันนี่นา ”
มิส ตะคอก ความสามารถของ กษัตริย์แห่งสายลม ที่ได้รับเพิ่มจากดาบเหล็กราชวงศ์ นั้นมากเหลือล้น
เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด

“ ขี้โกงยังงั้นเหรอ…นี่ไม่ใช่กลโกง แต่เป็น กลยุทธ(Tactic)ต่างหาก King คือหมากหลักของแต่ละฝ่าย คนที่ไม่สามารถ
แสดงความสามารถของ หมากแต่ล่ะตัวออกมาได้ต่างหากล่ะที่ผิด ”
เชส สวนก่อนจะเริ่มเล่นต่อโดยหยิบ ซีลการ์ดอีกใบออกมาเตรียมร่าย ทิ้งให้ มิส ยืนกัดฟันกรอดด้วยความโมโห

“ ที่เค้าพูดมาน่ะถูกแล้ว การโจมตีที่ดุดันเมื่อครู่คือหลักฐานจากการแสดงความสามารถของ
หมากแต่ละตัวออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ใช่กลโกง… ”
เกร กล่าวเพื่อจะปราม มิส ให้เลิกถือ อคติซักที แต่ทว่า มิส ก็ยังคงไม่ยอมรับในฝีมือของ เชส แต่อย่างใด
และจ้องจะจับผิดเพียงอย่างเดียว

“ Cost Mp 4 ให้ ราชินีแห่งดาบ เรจิน่า(Regina, the Queen of Swords) ออกมาที่ Df Line ”
ทันทีที่การ์ดผนึก ถูกร่ายออกมา ราชินีแห่งดาบ ในชุดเกราะสีขาวทองปะด้วยลายสีเขียวมรกต
พระเกศาสีทองน้ำตาลยาวสลวย พระสิริโฉมงดงามและคมคาย



[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 3 Mp:2/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 2/8 ]

“ แล้วก็ Cost Mpอีก 2 เรียกให้ เชาเชา(ChaoChao) ออกมาที่ Df Line อีก ใบแล้ว หมดรอบ ”
อสูรขนสีเขียวหูยาวถูกอัญเชิญ ขึ้นมาเพิ่มกำลังรบให้แน่นหนาขึ้นไปมากกว่าเดิม



[Chess Status; Hand: Seal 2 , Mystic 3 Mp:0/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 2/8 ]

“ รอบของฉัน จั่วไพ่!! ”
ธนัท ประกาศรอบของตน พร้อมกับจับซีลการ์ดขึ้นมา 2 ใบ

[Chess Status; Hand: Seal 2 , Mystic 3 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 3 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 2/8 ]

“ Cost Mp 3 ให้เซนท์แมกนัสเบบี้ดราก้อน เป็นวัตถุดิบทำ Contact Growth และด้วย Ability ของ ไซเบอร์ทิก้า ดราก้อนทำให้ ลดจำนวน Seal เงื่อนไขเผ่าสัตว์อสูร(Beast)ที่ใช้เป็นวัตถุดิบลงได้ตัวหนึ่ง ”
ธนัท ประกาศ ลูกมังกรขาว สยายปีกของมันออกกว้างอย่างช้าๆ ก่อนจะ เหินขึ้นไป
เหนือสนาม และกลายเป็นแสงสว่างเจิดจ้าส่องวาบไปทั่วทั้งโรงอาหาร

“ ออกมาเลย !! มังกรกริฟ แห่งแสง อิมซาร์น(Imsarn, the Shining Dragogriff) ”
ธนัท กล่าว มังกรกริฟฟินสีขาว กระโจนผ่านแสงสว่างนั้นลงมบนสนามก่อนจะสยายปีกกว้าง
ขนปีกสีขาวบนร่างสะท้อนแสงเปล่งประกายประหนึ่งดวงอาทิตย์



[Chess Status; Hand: Seal 2 , Mystic 3 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 2 , Mystic 2 Mp:5/8 Shrine 2/8 ]

“ Cost Mp 3 ให้ อิมซาร์นโจมตีไปที่ ซิกมันด์ Flash Wing!! ”
ธนัท ประกาศ มังกรกริฟแห่งแสง ได้ทะยานพุ่งออกไป

“ ค่า At ของ ซิกมันด์ที่รวมร่างอยู่มี 12 แต่ของ อิมซาร์นมี 7 คิดจะฆ่าตัวตายงั้นเหรอ?! ”
เชส กล่าวทว่า ธนัท ก็ร่ายมิสติกการ์ดเพิ่มมาอีกใบ

“ ให้ Light Tear Whip 2 ใบบนมือไปติดให้กับ อิมซาร์น การ์ดใบนี้เมื่ออีกฝ่ายมีจำนวน Seal ในสนามมากกว่า
Seal ที่สวมมันไว้จะได้รับค่า At เพิ่มขึ้น 1 จุด ”
ธนัท ประกาศพร้อมกับ ร่ายมิสติกการ์ดทั้งหมดบนมือ ออกไป แส้สองสาย ถูกติดตั้งให้กับปีกของอิมซาร์น



“ นอกจากนี้ด้วย Ability ของ ไซเบอร์ทิก้า ดราก้อน กับ ดาร์คมิสยูนิคอร์น ที่อยู่ใน Shrine ทำให้ อิมซาร์น ที่ Growth สำเร็จมีค่า At เพิ่มขึ้น อีกรวมกัน 4 จุด ดังนั้น At ของ อิมซาร์น จึงเพิ่มขึ้นเป็น 13 ตามด้วย Ability ของ อิมซาร์ม ทำงาน Seal ที่ถูกโจมตีจะ ยกเลิกผลของ Mystic Card ทั้งหมด ดังนั้น ฟีเลเซีย รอยัล ซอร์ด จะถูกทำลาย ”
ธนัท อธิบาย ตอนนี้ มังกรกริฟฟิน แห่งแสง มีค่าพลังเหนือกว่า กษัตริย์แห่งสายลม แล้วแส้ที่ปีกตวัดพันเข้ากับดาบ
ก่อนจะถูกแรงสะบัดของปีกกระชากจนหลุดมือ ปีกอีกข้างของ มังกรกริฟฟิน เรืองแสงขึ้น และ
พร้อมฟาดลงไปบนร่างของ กษัตริย์แห่งสายลม

[Chess Status; Hand: Seal 2 , Mystic 3 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 2 , Mystic 0 Mp:2/8 Shrine 2/8 ]


“ ไม่ให้ทำได้หรอกน่า Cost Mp 1 ให้ Fallen Fight ไปสวมกับ อิมซาร์น การ์ดใบนี้จะทำให้ค่า Atของ Seal ที่ใส่มันไว้ ลดลงตามจำนวนการ์ดใบนี้ ”
เชส ประกาศพร้อมกับร่าย มิสติกการ์ดออกไป


[Chess Status; Hand: Seal 2 , Mystic 2 Mp:7/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 2 , Mystic 0 Mp:2/8 Shrine 2/8 ]

“ ถึงค่าพลังจะลดลงไป แต่ตอนนี้ ก็ยังสูสีกันอยู่ จัดการมันเลย ธนัท!! ”
มิส ส่งเสียงเชียร์อย่างเต็มที่ให้ ธนัท จัดการกับ อีกฝ่ายให้หมอบราบคาบ ทว่า เชส ก็ได้ร่ายมิสติก เพิ่มอีกใบ

“ Cost Mp อีก 1 ร่าย Fallen Fight เพิ่มอีกใบ ตอนนี้มี Fallen Fight 2 ใบ ใบหนึ่งจะลดค่า At ลง 2 จุด
ดังนั้นค่าพลังของ อิมซาร์น จะต้องลดลงไป 4 จุด สวนกลับไปเลย ซิกมันด์ Flash Slash!! ”
เชส กล่าวจบ กษัตริย์ แห่งสายลม จึงส่ง วิหกสายฟ้าออกไปรับมือ ก่อนจะชักดาบอีกเล่มจากฝัดาบที่เหน็บเอวไว้
ขึ้นมา วิหกสายฟ้า กระพือ ปีกสร้างสายฟ้า เข้าทำร้าย มังกรกริฟฟิน จนมันหยุดชะงักอยู่กับที่
กษัตริย์แห่งสายลม สบโอกาส กระโจนตามขึ้นไป บั่นคอของ มันจนแตกสลายไปในที่สุด

[Chess Status; Hand: Seal 2 , Mystic 1 Mp:/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 2 , Mystic 0 Mp:2/8 Shrine 4/8 ]

“ โธ่วึ้ย~ อุตส่าห์ทำถึงขนาดนั้นยังโค่นมันไม่ได้อีกเหรอ…. ”
มิส สบถเสียงสั่นด้วยความโกรธ แต่แล้ว เค้าก็ต้องชะงักไปเมื่อ สีหน้าที่ปรากฏอยู่ของธนัท นั้นราวกับเล่นสนุกอยู่
กับการดวลนี้ ทั้งที่กำลังเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

“ ธนัท น่ะไม่เคยสนใจหรอกว่าใครจะเป็น N.O.W. ใครจะเป็น DNA-Changer หรือ ใครจะเข้าข้างฝ่ายไหน ครั้งหนึ่ง
เจ้านั่นเคยพูดไว้….การดวลคือสื่อกลางที่ก้าวข้ามกำแพงแห่งความขัดแย้งและแตกแยกของทั้งสองฝ่าย หากได้ดวลกันแล้ว
ก็สามารถเปิดใจให้แก่กันได้และ ที่นั่นจะมีความสนุกรออยู่…นี่เป็นคำพูดที่ เคยพูดกับ King of Checkmate 5 หลังการต่อสู้เมื่อ 2 ปีก่อน ”

โคทาโร่ กล่าว พลางนึกย้อนกลับไปในอดีต ถึงคำพูด ที่ตนได้ยินในครั้งนั้น

“ ฉันเชื่อในคำพูดนั้น เชื่อมาตลอดว่า N.O.W.และ DNA-Changer จะสามารถเข้าใจกันได้ แล้วซักวัน..
วันที่กำแพงของความขัดแย้ง ได้พังทลายลง จะมาถึง เพราะงั้นฉันถึงได้ยังอยู่ที่นี่ ”
โคทาโร่ กล่าวเสียงมั่น คำพูดของเขาได้ทำให้ มิส เข้าใจแล้วว่า ตนได้หลงลืมความสำคัญของการดวลไปกับอารมณ์
ที่เต็มไปด้วยความโกรธ

“ Cost Mp 2 ให้ จินเว่ยฮูลี ออกมาที่ Df Line แล้วหมดรอบ ”
ธนัท ประกาศก่อนจะอัญเชิญ จิ้งจอกเก้าหางขึ้นมาบนสนาม

[Chess Status; Hand: Seal 2 , Mystic 1 Mp:6/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 0 Mp:0/8 Shrine 4/8 ]

“ รอบของฉันจั่วไพ่ ”
เชส ประกาศพร้อมกับ จับ ซีลการ์ดและมิสติกการ์ดขึ้นมาอย่างละใบ
[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 2 Mp:6/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 0 Mp:8/8 Shrine 4/8 ]

“ เอาล่ะ King กับ Queen มากันพร้อมแล้วได้เวลา Checkmate กันซักที ให้ ซิกมันด์แยกการรวมร่าง แล้วให้ เรจิน่า ขึ้นมาที่ At Line จากนั้นทำ Tripple Combimation กับ ธันเดอริกซ์และ เชาเชา ”
สิ้นคำ ราชินีแห่งดาบ ทรงวิ่งขึ้นมายังแนวหน้า พร้อมกับ วิหก สายฟ้าและ อสูรขนปุย ได้เข้ามารวมกลุ่มด้วย

“ Cost Mp 5 รับไปซะ Million Slash ”
เชส ประกาศ ราชินีแห่งดาบ ทรงชักดาบประจำกายขึ้นมาก่อนจะตวัดดาบในมือเป็นวงกว้าง
สายลมบริเวณรอบๆสนาม พัดโหมอย่างรุนแรงและกลายเป็นคมดาบแสงแห่งสายลมนับล้านๆ
ถาโถมใส่ อสูรของ ธนัท ในสนามจนแตกสลายไปหมดในคราเดียว สายลมยังพัดโหมเสียจน
กระดานหมากรุกบนโต๊ะ ปลิวหกกระจายเต็มพื้น
[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 2 Mp:1/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 0 Mp:8/8 Shrine 7/8 ]

“ ฉันขอหมดรอบแค่นี้แหละ ”
เชส กล่าว เปลี่ยนรอบการเล่น

“ รอบของฉัน ”
ธนัท ประกาศพร้อมกับจับการ์ดซีล และ มิสติกขึ้นมาอย่างละใบ

[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 2 , Mystic 1 Mp:8/8 Shrine 7/8 ]

“ Cost Mp 2 ให้ Twin Star ทำงาน จากนั้น จั่วการ์ดขึ้นมา 2 ใบ ”
ธนัท ร่ายมิสติกการ์ด ออกไปก่อนจะ จับมิสติกการ์ด ขึ้นมาอีก 2 ใบ


[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 2 , Mystic 2 Mp:6/8 Shrine 7/8 ]

“ Cost Mp 2 ให้ Evader of the Hell ทำงาน กำจัด ไซเบอร์ทิก้า ดราก้อน ใน Shrine ออกไปจากเกม ”
ธนัท ร่ายมิสติกการ์ดบนมือ ออกมา อีกใบ ฐานวางรูปปั้นปรากฏขึ้นบนสนามก่อนที่ ปีศาจตนหนึ่งจะลง
นั่งและกลายเป็นรูปปั้นสลักก่อนจะหายไป การ์ดผนึกซีลของ ไซเบอร์ทิก้า ดราก้อน ถูกส่งคืนออกมา จากช่อง Shrine ของปลอกแขน ธนัท รับมันมาเก็บใส่กระเป๋ากางเกง และเริ่มเล่นต่อ


[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 2 , Mystic 1 Mp:4/8 Shrine 5/8 ]

“ Cost Mp 4 เรียกให้ เซเบอร์ฮอร์น(Saber Horn Hound) ออกมาที่ At Line และ เร้ดร็อก(Red Roc) ที่ Df Line ”
สุนัข เขาดาบ และ นกร็อกสีแดงถูกอัญเชิญขึ้นบนสนาม และการ์ดซีลของ มังกรกริฟฟิน อิมซาร์น
ก็ถูกส่งคืนขึ้นมาจากช่อง Shrine


[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 1 Mp:0/8 Shrine 3/8 ]


“ ด้วยผลจากAbility ของ เร้ดร็อก ทำให้ เอา เผ่าสัตว์อสูรใน Shrine ในหนึ่งกลับขึ้นมาอยู่บนมือได้ เป็นอันเทิร์นเสร็จสิ้น ”
ธนัท อธิบายก่อนจะประกาศหมดรอบของตน

“ รอบของฉัน ดิ้นรนไปก็เปล่าประโยชน์ ”
เชส กล่าวขณะที่ จับมิสติกการ์ด ขึ้นมาจากกอง 2 ใบ

[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 4 Mp:8/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 1 Mp:8/8 Shrine 3/8 ]

“ Cost Mp 5 ลองรับดูอีกครั้งซิ Million Slash!! ”
สิ้นคำ ราชินีแห่งดาบ ตวัดดาบออกไป คมดาบสายลม นับล้านๆ จึงถาโถมเข้าใส่ สนามของ ธนัท อีกครั้ง

“ แล้วก็ ให้Million Slash ที่อยู่บนมือทำงาน เมื่อมีเผ่าผู้ใช้เวทมนต์ ธาตุลม ทำการโจมตี All สามารถสวมการ์ดใบนี้ให้กับ Seal นั้นได้ ด้วยผลของการ์ดใบนี้ทำให้ค่าพลังของ เรจิน่า เพิ่มขึ้น เป็น 12 หน่วย และไม่สามารถแยกการรวมร่างได้ ในรอบที่ทำการโจมตี All ! ”

เชส กล่าวพร้อมกับ ร่ายมิสติกการ์ดออกไป ราชินีแห่งดาบ หมุนตัวตวัด ดาบสร้าง คมดาบสายลม
พัดกระหน่ำกวาดล้าง อสูร ของ ธนัท จนหมดสิ้น



[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 3 Mp:3/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 1 Mp:8/8 Shrine 5/8 ]

“ และเพราะ เร้ดร็อก ของนายถูกทำลาย จึงต้องส่ง เผ่าสัตวือสูรบนมือไปที่ Shrine ด้วย ”
เชส กล่าว ธนัท จึงส่งการ์ดใบสุดท้ายบนมือลงไปใน ช่อง Shrine

[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 3 Mp:3/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 0 , Mystic 1 Mp:8/8 Shrine 7/8 ]

{ตอนนี้การ์ดบนมือเหลือแค่ใบเดียวสนามก็ว่างเปล่า อยากรู้นักว่านายจะทำยังไง หึๆ}
เชส คิดพลางหัวเราะในลำคอโดยไม่รู้ตัว จนเมื่อเมื่อรู้สึกตัวแล้ว เขาเองก็ยังแปลกใจ
ตอนนี้เขากำลังรู้สึกสนุกกับการดวลอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความตื่นเต้นที่อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะแก้เกมของตน
ด้วยวิธีไหน

“ รอบของฉันจั่วไพ่!! ”
ธนัท ประกาศ พร้อมกับ จัวการ์ด ซีล และ มิสติก ขึ้นมาอย่างละใบ หลังจากดูการ์ดเหล่านั้นแล้ว
เขาก็ยิ้มขึ้นมาสร้างความประหลาดใจ ให้กับ เชส ไม่น้อย

[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 3 Mp:3/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 1 , Mystic 2 Mp:8/8 Shrine 7/8 ]

“ นี่รู้อะไรไหม การดวลน่ะมันสนุกตรงที่ได้ลุ้น ว่าเราจะสามารถแก้เกมหรือพลิกสถานการณ์ได้รึเปล่า หรือจะถูกอีกฝ่าย
พลิกกลับซะเอง แบบนี้มันน่าลุ้นออกนี่เนอะ ”
ธนัท กล่าวเสียงร่า ราวกับกำลังจะประกาศว่าตัวเองสามารถพลิกเกมได้แล้ว

“ หึ ก่อนจะพูดแบบนั้น ลองดูความเป็นจริงหน่อยดีกว่ามั้ง ในสนามนายน่ะไม่เหลืออะไรแล้วนะ แถม Shrine ก็เหลือกแค่ 1
ขณะที่ ฉันยังไม่เสีย หมากไปเลยซักตัว แล้วนายจะทำยังไง ถึงจะจัดการฉันได้ ”
เชส แย้ง

“ งั้นก็อย่าพลาดเชียวล่ะ Cost Mp 3 ออกมาเลย โซล กริฟฟิน(Soul Griffin) ”
ธนัท ประกาศพร้อมกับ ร่าย ซีลการ์ดใบสุดท้ายบนมือ ออกไป กริฟฟินสยายปีก สีขาวและดำของมันร่อนลงสู่สนาม
รูปกายภายนอกของมันชวนหวาดหวั่น จิตสังหารของมันรุนแรงเสีย จนแม้แต่ ราชินีแห่งดาบและ
กษัตริย์แห่งสายลม ที่ยึดมั่นในศักด์ศรียังขยาดขาดกลัว ต่อหน้า กริฟฟินแห่งวิญญาณ


[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 3 Mp:3/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 0 , Mystic 2 Mp:5/8 Shrine 7/8 ]

“ ช่วยเอ็นดู เพื่อนๆของข้าใน Shrine เป็นอย่างดีเลยนะ คงต้องตอบแทนกันซักหน่อย ”
กริฟฟินแห่งวิญญาณ พูดขึ้น หากแต่มีเพียง ธนัท และ เกร เท่านั้นที่ได้ยินคำพูดของมัน

“ อย่าเล่นแรงเกินไปก็แล้วกันล่ะ ”
เกร เปรยเสียงแผ่วให้ พอได้ยิน กริฟฟินแห่งวิญญาณแค่ฉีกยิ้มรับเท่านั้นแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

“ เจ้านี่ก็เคยเป็นของ เกร ด้วยเหรอ?...หรือว่าที่เค้ามาวันนี้เพราะรู้ว่าเราจะเรียกมันออกมากันนะ ”
ธนัท คิดที่ผ่านมา แม้เค้าจะพยายามสื่อสารกับ กริฟฟินแห่งวิญญาณซักกี่ครั้ง ก็ไม่เคยมีคำตอบกลับมาเลย
ต่างจาก อสูรอีก 5 ตัวที่เอาแต่หยอกล้อและคุยเล่นกับเค้าแทบจะตลอดเวลา

“ โซลกริฟฟิน จะได้รับพลังเพิ่มจากเพื่อนพ้องที่อยู่ใน Shrine ทำให้ค่า At เพิ่มขึ้นเท่ากับจำนวนเผ่าสัตว์อสูรใน Shrine
ของฉัน ตอนนี้มีอยู่ 6 ใบด้วยกัน และด้วย Ability ของ ดาร์คมิสยูนิคอร์น ทำให้คา At เพิ่มอีก 1 ดังนั้นค่า At
ทั้งหมดของ การ์ดใบนี้จึงเป็น 14 ”
ธนัท อธิบาย กริฟฟินแห่งวิญญาณ จึงแผดเสียงร้องแหลมชวนขนพองสยองเกล้า

“ อะไรกันสามารถเพิ่มค่าพลังขึ้นมาได้ทีเดียวเป็น 14 หน่วยเลยงั้นเหรอ!! ”
เชส ถึงกับตกตะลึงไป กับพลังของ กริฟฟินแห่งวิญญาณ

“ ยังไม่หมด แค่นี้ Cost Mp 3 ให้ Seven Silver ทำงานมันจะทำให้ โซลกริฟฟิน โจมตีได้ 2 ครั้งในหนึ่งรอบ ”
ธนัท กล่าวจบก็ร่ายมิสติกการ์ดออกไป



[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 3 Mp:3/8 Shrine 0/8 ]
[Thanat Status; Hand: Seal 0 , Mystic 1 Mp:2/8 Shrine 7/8 ]

“ Cost mp 2 ลุยเข้าไปเลย โซลกริฟฟิน Double Soul Tornado!! ”
สิ้นคำ กริฟฟินแห่งวิญญาณ ก็โจนทะยานขึ้นไป และสยายปีกหมุนตัวด้วยความเร็ว
จนกลายเป็นพายุหมุนสีดำขาวตัดกันไปตลอดสาย พัดถล่มใส่ ราชินีแห่งดาบ และ กษัตริย์ แห่งสายลม
จนพ่ายแพ้แตกสลายไปในที่สุด

[Chess Status; Hand: Seal 3 , Mystic 3 Mp:3/8 Shrine 9/8 ]Lose
[Thanat Status; Hand: Seal 0 , Mystic 1 Mp:0/8 Shrine 7/8 ]Win


การดวลสิ้นสุดลง โดยชัยชนะตกเป็น ของธนัท ไปอีกเช่นเคย

“ Gotcha!! เป็นการดวลที่สนุกมาก ”
ธนัท เปรยพร้อมกับทำท่าชี้นิ้วประจำเหมือนทุกที

“ สนกุสเหนิก ตรงไหนกัน…น่าเบื่อที่สุด ”
เชส แกล้งสบถกลบเกลื่อน และเก็บความรู้สึกของตัวเองไว้เหมือนเดิม ก่อนจะหันไปหา บาร์น ที่หลบอยู่หลัง ลูเซีย

“ ตามสัญญา ฉันขอโทษที่ผลักนาย…แค่นี้พอใจแล้วใช่ไหม ”
เชส กล่าวแบบขอไปที ก่อนจะเดินออกจากโรงอาหารไปอย่างเงียบๆ ซึ่งตอนนี้ฝนก็ได้หยุดตกลงแล้ว

“ เฮ้อ~~ ปากแข็งชะมัด ก็เห็นๆอยู่ว่าตะกี้สนุกออกนอกหน้าเลยนี่ ”
ธนัท บ่นเสียงงอนกับความใจแข็งของ เชส

“ แต่อย่างน้อยเค้าก็ยอมขอโทษแล้วนี่ ทั้งที่ไม่ได้สัญญาอะไรกันก่อนดวลเลยซักหน่อย ก็ถือว่า เราชนะแล้วล่ะนะ ”
โคทาโร่ กล่าวแม้ผลสรุปจะออกมาไม่ต่างไปจากเดิมเท่าไหร่นัก แต่พวกเขาก็สามารถเข้าใกล้จิตใจของ เชส ไปได้อีกนิด

“ เอ่อ ธนัท บาร์น …คือว่า ฉันขอโทษนะที่เอาแต่ใช้อารมณ์แบบนี้น่ะ ”
มิส กล่าว หลังจากที่ได้มองดูการดวลโดยตลอดมา ทำให้เขาสำนึกวาตนได้ทำอะไรลงไป
จึงได้กล่าวขอโทษกับ ทั้งสอง บาร์น ที่หลบอยู่ เดินเข้ามาหาเค้าและพูดขึ้น

“ ไม่เป็นไรหรอก ผักเข้าใจว่า มิส ทำไปเพื่อปกป้องผัก แต่ว่าถ้า มิส ต้องทะเลาะกับใครเพราะผัก
ผักเองก็คงไม่ยกโทษให้ตัวเองแน่ ”

“ เอาล่ะไหนๆฝนก็หยุดแล้วเรากลับกันเถอะนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย แถมเริ่มหิวแล้วสิ ”
ลูเซีย เสนอทุกคนต่างเห็นด้วยและเตรียมตัวเก็บของเพื่อกลับบ้าน

“ เออนี่ แล้ว พี่คนนั้นไปไหนซะแล้วล่ะ? ”
มิส ถามขึ้นทว่า ไม่มีใครรู้ว่า เกร หายไปไหนหรือตั้งแต่เมื่อไหร่

……………………..
…………………………………

ณ ดาดฟ้าของอาคารเรียน สายลมเย็นหลังฝนพัดโกรก ผ่านใบหน้าของเด็กหนุ่ม เกร กำลังยืนรับลม
อยู่อย่างเงียบๆ ผ้าพันคอสีแดง บิดพริ้วลู่ไปกับแรงลม จนเมื่อลมสงบ ผ้าพันคอจึงย้อยลงราบไปกับแผ่นหลังของเขา
ในตอนนั้นเอง เงาลึกลับก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง

“ ดยุค (Duke) เองเหรอ? ”
เกร เปรยเสียงเรียบโดยไม่หันไปมอง

“ มีการตอบกลับจาก ดูนาส(Dynas) กับ โอเมกา(Omega)ขอรับ ”
เงานั้นตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

“ รายงานมาสิ ”
เกร สั่งเงานั้นเข้าทำเสียงกระซิบกระซาบเบาที่หูของเขา ดวงตาของ เกร เบิกกว้างขึ้นนิดหน่อย
ราวกับได้ยินเรื่องน่าตกใจ

“ ฝากกลับไปบอก รอยัลไนท์(Royal Knight) ทุกคนด้วย…จากนี้ไปอย่าเพิ่งเคลื่อนไหวจนกว่าฉันจะสั่ง ”
เงานั้นฟังคำสั่งจนจบก่อนจะหายวับไปในทันที

“ ใกล้ได้เวลาแล้วสินะ ”
เกร กล่าวพร้อมกับ หยิบเอาการ์ดจากกระเป๋าขึ้นมาดู ตัวหนังสือที่เขียนเอาไว้บนการ์ดเป็นอักขระประหลาด
สีทอง อักขรเหล่านั้นเรืองแสงได้



……………………..
…………………………………………….

…………………………………………..
………………….

Next Sub-Turn
ธนัท:ช่วงนี้เนี่ย พี่ริน มาขอดูสำรับของฉันบ่อยเหลือเกิน หลังกินข้าวบ้างล่ะหลังอาบน้ำเสร็จบ้างล่ะ
ก่อนไปโรงเรียนแล้วก็ก่อนเข้านอนด้วยไม่รู้ว่าทำไมถึงได้อยากดูนักหนา
มิส:โห ดูบ่อยขนาดนั้น นี่ถ้าให้สำรับไปเลย คงจะเอาไปขึ้นหิ้งเลยมั้งเนี่ย
โคทาโร่:อ๊า!!! แย่แล้ว พี่ริน กับ พี่ศรี ทะเลาะกันซะแล้ว
มิส+ธนัท: เอ๋!!!
ศรี:ถ้าเธอยังยึดติดกับอดีตอยู่อีกล่ะก็พี่จะเป็นคนตัดมันเอง
ริน:พี่คะ..ทำต้องบังคับกันแบบนี้ด้วย ไม่ว่ายัง ฉันก็ตัดใจลืมเค้าไม่ได้หรอก
มิส:ตอนต่อไป Sub-Turn 28 ThaliwilyaVs.Valkyrie ศึกระหว่างพี่น้อง ทาลิวิลย่าและวอลคีรี่
นี่มัน… Crisis Valkyrier เหรอ
ธนัท:ทำไมพี่ต้องมาทะเลาะกันด้วยล่ะครับ พอซะทีเถอะ

Card Pop!!

Soul Griffin

Type: beast Mp: 3 / 2 Lv: 3 Rarity: rare
At: 7 Df: 6 Sp: 4 Element: dark
+[Dark] Scary Wing At 9 Mp 3
Ability:
Soul Griffin +At ตามจำนวน [Beast] ใน Shrine เรา

เหอๆ เพิ่งฟื้นจาก สอบกลางภาค ไม่ได้เขียนเป็นสัปดาห์นี่ก็ทำเอามือตกหลงๆลืมๆไปเหมือนกันแฮะ แถมตอนนี้เป็นตอนที่
ตัวเองก็ออกด้วย เลยเขียนอะไรไม่ค่อยถูกหนักกว่าเดิมอีก - -+ เอาเถอะเข้าเรื่องที่จะพูดเลยดีกว่า Sub-Turn นี้พยายามจะ
ไม่ให้มีการ์ดที่ทำเองโผล่ออกมาเลยซักใบ เพราะดูมันชักจะเริ่มเว่อร์ๆแล้ว สุดท้ายก็ไม่แคล้วตกม้าตาย ตัวเองเอามาโชว์เอง
ฮ่วย!

ช่วงวันแม่ ที่ผ่านมาก็เป็นหยุดยาวตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียน CVSE แต่ก็ยังทำไม่ได้ เพราะ Op ยังทำไปไม่ถึงไหนเลย
แถมตอนนี้กำลังกลับมาบ้า ดิจิม่อนอีกรอบ ถึงกับนั่งขุด ภาค Tamers กับ Frontier ขึ้นมาดูมาราธอนยาวหลังสอบ
เสร็จกันเลยก็ว่าได้ ทำให้เราได้รู้เพิ่มอีกอย่างว่า ภาค Tamers สนุกกว่าที่คิด โดยเฉพาะช่วงหลังๆที่ พวกตัวเอก

รวมร่างกับดิจิม่อนแล้ว เนื้อเรื่องมันขึ้นไปอีกโขเลย คาดว่าถ้ายังเป็น ดิจิม่อนริทึ่ม อยู่แบบนี้ อีกเดี๋ยว
ดรานิตี้ ฮีโร่ ของจูได อาจจะมี Growth แบบ Matrix Evolution ขึ้นมานะเนี่ย เฮ้อ~~~~
(คนรวมร่างกับการ์ดเอ็งจะเขียนจริงเรอะ เดี๋ยวเละหรอก จะว่าไปมันเละอยู่แล้วนี่หว่า)

ปล.ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยรักษาสุขภาพกันด้วย (ที่ศรีราชาฝนตกทุกวัน เลย เหอๆ T_T อยากกลับกรุงเทพฯ)

[boy]

ดวลเร็วดีแฮะ - -
อ่า อักขระยึกยือแบบนั้น คงเทียบได้กับการ์ดเทพราห์ในยูกิโอสินะครับ

[MetalGaruruMoN]

ตอนนี้ รู้สึกจะจิ้น Y เพิ่มได้อีกคู่แฮะ มิสคุง กับ บาร์นคุง แหมปกป้องกันดีจังเลยนะ
ว่าแต่บนการ์ดนั่นมันเขียนว่าอะไรง่า แอบไปทำเองตอนไหนเนี่ย ไหงเจ๊ไม่เห็นรู้เรื่องเลย

ดวลเร็วดีแฮะ - -
อ่า อักขระยึกยือแบบนั้น คงเทียบได้กับการ์ดเทพราห์ในยูกิโอสินะครับ

ดวลเร็วไม่ใช่เรื่องแปลกฮ่ะ เพราะตอนนี้มันไม่มีอะไรจะเขียนต่างหาก เหอๆ เลยมาแบบ ไวไว ไปแบบ มาม่า
เหอๆ

[nagamooro]

ถ้าเป็นผมเล่นจะไม่เอาเรจิน่าออลครั้งแรก

แต่เอาซิกมันตบ2ครั้งก็กวาดสนามได้แล้ว แถมเหลือmpอีก5 ตีขึ้นมือชนะสบายๆ

[MetalGaruruMoN]

ถ้าเป็นผมเล่นจะไม่เอาเรจิน่าออลครั้งแรก

แต่เอาซิกมันตบ2ครั้งก็กวาดสนามได้แล้ว แถมเหลือmpอีก5 ตีขึ้นมือชนะสบายๆ

ที่จริงถ้าวัดตามตรรกะแล้ว ก็ควรจะเอา ซิกมันด์ตบจริงๆนั่นล่ะนะ แต่ทว่า ตอนซิกมันด์สู้กับ อิมซาร์น ดาบตบสองทีมันหลุดไปแล้ว
เจ้าตัวเลยเอา เรจิน่า คอม ออลแทนน่ะ(เหตุผลหลักๆคือ สำรับ ธนัท มันสู้ ซิกมันด์ลำบากน่ะนะเหอๆ)

[nagamooro]

ก็เอาเรจิน่าคอมซิกมันต์ออล เหลือเชาเชาหรือทันเดอริคไว้ตีขึ้นมือก็ได้