Welcome Guest: เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก วันเวลาปัจจุบัน เสาร์ เม.ย. 27, 2024 8:00 pm

หน้าเว็บบอร์ด ส่วนของผู้เล่น SMN FanCard FanArt & FanFic SMN VR TAG TURN (THE FINAL ACT):Sub-Turn 96.5 Final Act Tile

สำหรับลงรูปแฟนอาร์ตและนิยายแต่งเองของชาวSMNครับ

Re: SMN VR TAG!! :Up Sub-Turn 19 Decisive Battle

โพสต์โดย Wargreamon เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 07, 2010 9:24 pm

Leraje เขียน:ทำไมอ่านแล้วมันรั่วๆแฮะ สงสัยจะรีบจัด

ที่ผมเห็นมี 3 ที่อ่ะนะ

- ตอนที่ธนัธใช้ Hight Priest ยิงใส่ Sixtus Tuba ก็ไม่น่าจะทำให้ Divine 4 ใบนั้นโดนย่างสดขนาดนั้นอะ เพราะจริงๆ Divine 4 ใบนั้นก็ไม่ได้หายไปไหน

- ตอนที่ธนัธใช้ Book of Revolution จั่วการ์ดเกินที่จริงก็ไม่ต้องทิ้งการ์ดที่เกินมา

- ภาพ Soul Griffin ไม่ขึ้นครับ โค้ทผิด

นอกจากสามจุดนี้และพิมพ์ผิดนิดหน่อยก็ยังแจ่มเหมือนเดิมนะครับ แต่รู้สึก Leraje จะดูแย่ไปหน่อยนะ โดนอสูรเทพห้าตัวรุมซ้อมขนาดนั้น ::023::

ในที่สุดก็สู้กันเสร็จ แต่ดูๆแล้วน่าจะมีต่ออีกยาว จะตามอ่านต่อไปครับ



1. เอ่อคือ งง หน่อยๆครับหมายถึง คำอธิบายมันเว่อร์ไป หรือหมยถึงว่า ตอนร่าย ไฮพรีส สวนไป
ค่าคอสที่ต้องคืน Divine 4 ใบยังไม่เกิดเหรอครับ พอดีเรื่องสเตปของ การ์ดผมเองก็ไม่ค่อยแม่นด้วย
ที่ว่ารีบก็รีบจริงๆนั่นล่ะครับ แหะๆพอดีจะรีบขึ้น Season ใหม่ เพราะค้างกับเนือ้เรื่องเดิมๆมานานเกินไปแล้ว
แหมกว่าจะสู้กับ อดัม เสร็จปาเข้าไปตั้งเกือบ 10 กว่าตอน เลยรีบรัดรวบจนดูเหมือนมันจบไวไปหน่อย อะนะครับ แหะๆ

2.อ้าวหรือว่าการ Dis Card มันจะมีช่วงสเตปให้ Dis ด้วยหรอครับ ผมนึกว่า SMN มีการเชคการ์ดบนมือตลอด ไม่มี Disสเตป เหมือนยูกิ เลยเขียนให้ Dis ตอนการ์ดเกินตลอด สงสัยต้องไปศึกษากฏใหม่อีกรอบ

3.โอ้ขอบคุณที่เตือนนะครับแก้ให้เรียบร้อยละครับ แหมก็ว่าอยู่ว่ามันหายไปไหนนึกว่าลืมอัพภาพ แหะๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Wargreamon
0
 
โพสต์: 224
Cash on hand: 250.00

Re: SMN VR TAG!! :Up Sub-Turn 19 Decisive Battle

โพสต์โดย Leraje เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 07, 2010 10:15 pm

Wargreamon เขียน:1. เอ่อคือ งง หน่อยๆครับหมายถึง คำอธิบายมันเว่อร์ไป หรือหมยถึงว่า ตอนร่าย ไฮพรีส สวนไป
ค่าคอสที่ต้องคืน Divine 4 ใบยังไม่เกิดเหรอครับ พอดีเรื่องสเตปของ การ์ดผมเองก็ไม่ค่อยแม่นด้วย
ที่ว่ารีบก็รีบจริงๆนั่นล่ะครับ แหะๆพอดีจะรีบขึ้น Season ใหม่ เพราะค้างกับเนือ้เรื่องเดิมๆมานานเกินไปแล้ว
แหมกว่าจะสู้กับ อดัม เสร็จปาเข้าไปตั้งเกือบ 10 กว่าตอน เลยรีบรัดรวบจนดูเหมือนมันจบไวไปหน่อย อะนะครับ แหะๆ

2.อ้าวหรือว่าการ Dis Card มันจะมีช่วงสเตปให้ Dis ด้วยหรอครับ ผมนึกว่า SMN มีการเชคการ์ดบนมือตลอด ไม่มี Disสเตป เหมือนยูกิ เลยเขียนให้ Dis ตอนการ์ดเกินตลอด สงสัยต้องไปศึกษากฏใหม่อีกรอบ

3.โอ้ขอบคุณที่เตือนนะครับแก้ให้เรียบร้อยละครับ แหมก็ว่าอยู่ว่ามันหายไปไหนนึกว่าลืมอัพภาพ แหะๆ


1.ที่จริงข้อนี้ต้องขอโทษด้วยนะครับ อ่านผิดเองด้วย ตอนแรกนึกว่าพวก 4 ใบที่จะโดนเก็บกลับเข้ากองเป็นคนพุ่งเข้ามาจกตับ Amankris กินซะอีก พอมาอ่านอีกทีมันไม่ใช่แฮะ

แต่พวกที่จะโดนเก็บกลับเข้ากองก็ยังอยู่ในสนามแน่นอนครับ เพราะ Divine 4 ใบนั้นไม่น่าจะถือเป็นค่า Cost ก็คือตอนก่อนช่วง Interfere ยังไม่เกิดผลใดๆ ขึ้นครับ Divine 4 ใบนั้นจะกลับเข้ากองไปหลังจาก Interfere พร้อมๆกับตอนที่ Amankris โดนทำลายครับ

แล้วผมว่าตัวที่เป่าแตรก็น่าจะโดนเผาไปพร้อมๆกับพวกเทวดาสังหารด้วยนะครับ เพราะอยู่ในการ์ดใบเดียวกัน

2. Step Discard เกิดขึ้นตอนหลังจั่วการ์ดครับ เหมือนกับเวลาที่เล่นกับเด็ค Grandecross ที่เขาลง Armored Gargoyle ลาก Dragon Metamorph ลง Shrine เพื่อจั่วการ์ด 5 ใบเพื่อปั๊ม AT ให้ Grandecross ไงครับ ถึงการ์ดเกินก็จะไม่ทิ้งไปจนกว่าจะจั่วการ์ดครั้งต่อไป

::011::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Leraje
0
 
โพสต์: 915
Cash on hand: 1,150.00

Re: SMN VR TAG!! :Up Sub-Turn 19 Decisive Battle

โพสต์โดย Wargreamon เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 07, 2010 11:05 pm

Leraje เขียน:
Wargreamon เขียน:1. เอ่อคือ งง หน่อยๆครับหมายถึง คำอธิบายมันเว่อร์ไป หรือหมยถึงว่า ตอนร่าย ไฮพรีส สวนไป
ค่าคอสที่ต้องคืน Divine 4 ใบยังไม่เกิดเหรอครับ พอดีเรื่องสเตปของ การ์ดผมเองก็ไม่ค่อยแม่นด้วย
ที่ว่ารีบก็รีบจริงๆนั่นล่ะครับ แหะๆพอดีจะรีบขึ้น Season ใหม่ เพราะค้างกับเนือ้เรื่องเดิมๆมานานเกินไปแล้ว
แหมกว่าจะสู้กับ อดัม เสร็จปาเข้าไปตั้งเกือบ 10 กว่าตอน เลยรีบรัดรวบจนดูเหมือนมันจบไวไปหน่อย อะนะครับ แหะๆ

2.อ้าวหรือว่าการ Dis Card มันจะมีช่วงสเตปให้ Dis ด้วยหรอครับ ผมนึกว่า SMN มีการเชคการ์ดบนมือตลอด ไม่มี Disสเตป เหมือนยูกิ เลยเขียนให้ Dis ตอนการ์ดเกินตลอด สงสัยต้องไปศึกษากฏใหม่อีกรอบ

3.โอ้ขอบคุณที่เตือนนะครับแก้ให้เรียบร้อยละครับ แหมก็ว่าอยู่ว่ามันหายไปไหนนึกว่าลืมอัพภาพ แหะๆ


1.ที่จริงข้อนี้ต้องขอโทษด้วยนะครับ อ่านผิดเองด้วย ตอนแรกนึกว่าพวก 4 ใบที่จะโดนเก็บกลับเข้ากองเป็นคนพุ่งเข้ามาจกตับ Amankris กินซะอีก พอมาอ่านอีกทีมันไม่ใช่แฮะ

แต่พวกที่จะโดนเก็บกลับเข้ากองก็ยังอยู่ในสนามแน่นอนครับ เพราะ Divine 4 ใบนั้นไม่น่าจะถือเป็นค่า Cost ก็คือตอนก่อนช่วง Interfere ยังไม่เกิดผลใดๆ ขึ้นครับ Divine 4 ใบนั้นจะกลับเข้ากองไปหลังจาก Interfere พร้อมๆกับตอนที่ Amankris โดนทำลายครับ

แล้วผมว่าตัวที่เป่าแตรก็น่าจะโดนเผาไปพร้อมๆกับพวกเทวดาสังหารด้วยนะครับ เพราะอยู่ในการ์ดใบเดียวกัน

2. Step Discard เกิดขึ้นตอนหลังจั่วการ์ดครับ เหมือนกับเวลาที่เล่นกับเด็ค Grandecross ที่เขาลง Armored Gargoyle ลาก Dragon Metamorph ลง Shrine เพื่อจั่วการ์ด 5 ใบเพื่อปั๊ม AT ให้ Grandecross ไงครับ ถึงการ์ดเกินก็จะไม่ทิ้งไปจนกว่าจะจั่วการ์ดครั้งต่อไป

::011::



1.สรุปแล้วคือสเตปของ แตรที่เอาdivineคืนกองเกิดขึ้นพร้อมๆกับการทำลายซีล สินะครับ พอดีตอนอ่านคำอธิบาย
ไม่ทันสังเกตุคำว่าและ ก็เลยนึกไปว่าการ์ดทำงานสองสเตป คือ คืน divne เข้ากองเป็นสเตปที่ 1 แล้วจึงทำลายซีล
ในอีกสเตป ซึ่งตอนที่คิดเอาไว้คือจะใหใช้ อินเตอร์เฟียสเตป แทรกเข้าแก้ช่วงที่ทำลายอาแมนคริสพอดี
แต่อย่างว่าถ้าทำแบบนั้น ก็กับว่าร่ายการ์ดสำเร็จไปแล้วคงใช้ ไฮพรีส ยิงแก้ไม่ได้อยู่ดี ยังไงก็ไม่ต่างกัน
สรุปคือ ธนัท โกง สินะ สินะ สินะ(ขอ เอคโค่ หน่อย)

2.โอเช ครับพึ่งไปดู Book of Caller ตรงตารางจัดเรียงสเตปมา อยากจะควักลูกตาตัวเองทิ้งจริงๆพับผ่า
ทำไมถึงไม่เคยสังเกตุ ไอ้คำว่า Dis Step หลัง Draw Step เล้ย~~~ เหอๆ

Thank คร้าบ คุณ Leraje สำหรับข้อมูลเรื่องกฏจะได้เอาไปปรับเปลี่ยนใน Season 2 ให้มันถูกหน่อย เบลอมาหลาย
ตอนแล้ว แหะๆ แล้วจะหาบทให้ออกอีกเน้อ(ยังไงมันก็ต้องออกเป็นการ์ดเด็ดประจำสำรับพระรองแล้วนี่)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Wargreamon
0
 
โพสต์: 224
Cash on hand: 250.00

Re: SMN VR TAG!! :Up Sub-Turn 19 Decisive Battle

โพสต์โดย Leraje เมื่อ เสาร์ พ.ค. 08, 2010 10:14 am

ไม่เป็นไรครับ ด้วยความยินดี

/me กำลังคิดถึงนิยายที่โคทาโร่เป็นพระเอก Leraje จะเทพกว่านี้มั้ยน้อ~
ภาพประจำตัวสมาชิก
Leraje
0
 
โพสต์: 915
Cash on hand: 1,150.00

Re: SMN VR TAG!! :Up Sub-Turn 19 Decisive Battle

โพสต์โดย MetalGaruruMoN เมื่อ เสาร์ พ.ค. 08, 2010 6:57 pm

โฮ่ๆ เปิดตัวมาก็ให้ ฉันรุกใส่ ธนัท เลยเรอะเจ้าเกรม่อน!!!!! ::014::
สำหรับฉันมันต้อง เก็บ โคทาคุงก่อนแล้วค่อยตอด ธนัท สิ ให้มันถูกลำดับหน่อย จานหลักต้องกิน ก่อน แล้วค่อยต่อด้วยของหวานหึๆ
ว่าแต่ไอ้ที่เตะกระเด็นออกมาได้เฉยนี่มันอะไรหว่า ::009:: เก็บกดรึ?ช่างหัวมัน

ที่สำคัญเลยคือ ขอสครีมแทนละกันนะ อ่าน 2 ตอนควบในสัปดาห์เดียวตามเรื่องกันแทบจะไม่ทัน แถม Op3 คราวนี้เจ้า
พวกฝ่ายทำ Media มันวางมือโยนงานมาที่ฉันกับ เจ้า วาการุรุ แทนซะอีก เฮ้อ ก็ดีจะได้เลิกเดจาวูกับ กันดั้มซักทีแต่คราวนี้จะไปเดจาวูกับอะไรอีกต้องไปรอดูเอา ตอนหน้าเองเน่อ Op เสร็จแล้วเหลือแต่ Ed คาดว่า อาทิตย์หน้าคงจะเปิดศักราชใหม่ได้ทันพอดี

อ่อ ลืมบอกอะไรไปอย่าง ช่วงนี้พอทีมงานเรารู้ไต๋ใครชื่ออะไร แล้วจับมายัดเผาควบมันทั้งชื่อคนชื่อเมม เลยแหะ
โดยเฉพาะใครบางคนก็ไม่รู้โดนไปแล้วสองดอกนี้เหอๆ ทั้งน้ำทั้งผัก เอ้ย..เนื้อ และคราวนี้ก็มีอีกท่านโดนไปเช่นกัน
ขอบอกชื่อขึ้นหลาใน Op เชียวล่ะ วันนั้นมาก็รีบเปิดเข้าไปดูซะนะ โฮ้โฮะๆๆๆ


ไหนๆก็มาแล้วขออนุญาต สปอยล์ตอนหน้าเล็กน้อย เจ๊ จะได้ดวลด้วยล่ะ เย้ๆ ขอบอกเลยว่าคอมโบเจ๊โหดถึงโหดมาก
ใครจะเหยื่อกัน หนอ อนึ่งคอมโบนี้เป็นคอมโบจริงที่สมัยเจ๊ยังเล่นการ์ดกับเกรม่อนคุง ตอนมัธยมต้นๆถึง

ปลายๆโน่น(พยายามแหลไม่ให้รู้ว่าเล่นมาตั้งแต่ยุคใด)ซึ่งเกรม่อนคุง โดนมันมาเต็มๆแล้ว ถึงกับง่อยกินหึๆๆ
ดูสิว่าความเก๋ากับการ์ดใหม่มาแรงอะไรมันจะแน่กว่ากัน(ว่าไปนั่น สุดท้ายแพ้ชนะมันแล้วแต่ใจคนเขียนอย่างเกรม่อนคุง T_T)
ภาพประจำตัวสมาชิก
MetalGaruruMoN
0
 
โพสต์: 75
Cash on hand: 50.00

Re: SMN VR TAG!! :Up Sub-Turn 19 Decisive Battle

โพสต์โดย Konflyctus MX เมื่อ เสาร์ พ.ค. 08, 2010 7:26 pm

Cocka-C เขียน:โฮ่ๆ เปิดตัวมาก็ให้ ฉันรุกใส่ ธนัท เลยเรอะเจ้าเกรม่อน!!!!! ::014::
สำหรับฉันมันต้อง เก็บ โคทาคุงก่อนแล้วค่อยตอด ธนัท สิ ให้มันถูกลำดับหน่อย จานหลักต้องกิน ก่อน แล้วค่อยต่อด้วยของหวานหึๆ
ว่าแต่ไอ้ที่เตะกระเด็นออกมาได้เฉยนี่มันอะไรหว่า ::009:: เก็บกดรึ?ช่างหัวมัน

ที่สำคัญเลยคือ ขอสครีมแทนละกันนะ อ่าน 2 ตอนควบในสัปดาห์เดียวตามเรื่องกันแทบจะไม่ทัน แถม Op3 คราวนี้เจ้า
พวกฝ่ายทำ Media มันวางมือโยนงานมาที่ฉันกับ เจ้า วาการุรุ แทนซะอีก เฮ้อ ก็ดีจะได้เลิกเดจาวูกับ กันดั้มซักทีแต่คราวนี้จะไปเดจาวูกับอะไรอีกต้องไปรอดูเอา ตอนหน้าเองเน่อ Op เสร็จแล้วเหลือแต่ Ed คาดว่า อาทิตย์หน้าคงจะเปิดศักราชใหม่ได้ทันพอดี

อ่อ ลืมบอกอะไรไปอย่าง ช่วงนี้พอทีมงานเรารู้ไต๋ใครชื่ออะไร แล้วจับมายัดเผาควบมันทั้งชื่อคนชื่อเมม เลยแหะ
โดยเฉพาะใครบางคนก็ไม่รู้โดนไปแล้วสองดอกนี้เหอๆ ทั้งน้ำทั้งผัก เอ้ย..เนื้อ และคราวนี้ก็มีอีกท่านโดนไปเช่นกัน
ขอบอกชื่อขึ้นหลาใน Op เชียวล่ะ วันนั้นมาก็รีบเปิดเข้าไปดูซะนะ โฮ้โฮะๆๆๆ


ไหนๆก็มาแล้วขออนุญาต สปอยล์ตอนหน้าเล็กน้อย เจ๊ จะได้ดวลด้วยล่ะ เย้ๆ ขอบอกเลยว่าคอมโบเจ๊โหดถึงโหดมาก
ใครจะเหยื่อกัน หนอ อนึ่งคอมโบนี้เป็นคอมโบจริงที่สมัยเจ๊ยังเล่นการ์ดกับเกรม่อนคุง ตอนมัธยมต้นๆถึง

ปลายๆโน่น(พยายามแหลไม่ให้รู้ว่าเล่นมาตั้งแต่ยุคใด)ซึ่งเกรม่อนคุง โดนมันมาเต็มๆแล้ว ถึงกับง่อยกินหึๆๆ
ดูสิว่าความเก๋ากับการ์ดใหม่มาแรงอะไรมันจะแน่กว่ากัน(ว่าไปนั่น สุดท้ายแพ้ชนะมันแล้วแต่ใจคนเขียนอย่างเกรม่อนคุง T_T)


เหอๆๆ ความปรารถนาของท่านพี่การุรุ คือ การได้ดวลกับนายโคทาโร่สินะ สินะ สินะครับ 555+

แถมหลุดอะไรมาอีกละเนี่ย ตอนหน้าที่เข้ามาอ่านคงมีเหวอแน่ๆ
Konflyctus MX
0
 
โพสต์: 201
Cash on hand: 250.00
ที่อยู่: ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้

Re: SMN VR TAG!! :Up Sub-Turn 19 Decisive Battle

โพสต์โดย boy เมื่อ เสาร์ พ.ค. 08, 2010 11:37 pm

โฮกกกกกกกกก
อ่าน 2 ตอนรวด~
กลับมาประเทศไทยร้อนเหลือหลาย ::023::

ท่าน Cocka-C รุกแล้ว!! -//โดนตบข้อหาไม่ใช่ประเด็น
ชอบตอนปะทะเด๊คเทวดาครับ
แก้ Step กันมันส์ดี
ลุ้นตัวโก่งเลย 555
ภาพประจำตัวสมาชิก
boy
0
 
โพสต์: 2105
Cash on hand: 3,250.00
ที่อยู่: Golden Land

Sub-Turn 20 Contact Growth(สายสัมพันธ์แห่งการเติบโต)

โพสต์โดย Wargreamon เมื่อ เสาร์ พ.ค. 15, 2010 7:18 pm

Sub-Turn 20 Contact Growth(สายสัมพันธ์แห่งการเติบโต)



“ ฉันจะเป็นผู้มอบพลังของมิติให้กับนายเอง เรียกฉันว่า เกร ก็แล้วกัน.... ”
คำพูดของ เด็กหนุ่มผู้ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างปุบปับ นั้นสร้างความฉงนให้กับ ทั้ง ธนัท และ ลูเซีย เป็นอันมาก

“ น..นายเป็นใครกันเนี่ย ”
ธนัท พูด สิ่งที่เค้าคิดได้ตอนนี้คือถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจ และมันก็มีอยู่เยอะเสียด้วย

“ เอาเป็นว่าที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ ไม่ต้องไปสนใจก็ได้ รีบไปทดสอบกันเลยดีกว่า ”
เกร พูดจบก็ กระชากแขน ดึงเข้าหาตัวก่อนจะแขนซ้ายซึ่งสวม Note เอาไว้แล้วขึ้นมาและที่มือข้างนั้น
ถือเอาการ์ดหน้าตาแปลกๆไว้ด้วย

/Dimension Walk!!/
เสียงดังกังวานขึ้นจากปลอกแขนซ็อนกันพอดีกับที่การ์ดที่ถือ อยู่เรืองแสงตามไปด้วย
ร่างของเค้ากับ ธนัท ค่อยจางลงไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็ว

“ เหวอ!! นี่มันอะไรกันเนี่ย ”
ธนัท ตกใจจนทำอะไรแทบไม่ถูกเช่นเดียวกับ ลูเซีย ที่ยืนอึกอึง มองทั้งสองค่อยๆหายไป

“ การุรุ ฝากรับแขกทีล่ะ.. ”
เกร พูดทิ้งไว้ก่อนที่ทั้งเค้าและ ธนัท จะหายไปจากที่แห่งนั้นอย่างไร้ร่องรอย โดยเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นนี้ผู้คนรอบๆไม่มีใคร
รู้สึกหรือเห็น ทั้งสองคนที่หายตัวไปจากตรงนั้นเลยแม้แต่น้อย ลูเซีย เองตอนนี้เธอก็ได้อึ้งจนพูดไม่ออก

“ เฮ่อ ช่วยไม่ได้ ในเมื่อเป็นคำสั่งฉันก็ขัดใจไม่ได้สินะ ”
เด็กหนุ่มที่ถูก เกร เรียกว่า การุรุ บ่นพึมพำไปเรื่อย โดยไม่สนเลยว่าตอนนี้ ลูเซีย กำลังรู้สึกยังไง
เค้าหยิบเอา Note ซึ่งตอนนี้อยู่ในรูปแบบ จี้ห้อยคอซึ่งเก็บไว้ที่กระเป๋าเสื้อ ออกมา ถือ

/Get Set/
เสียงดังกังวานขึ้น จาก Note ของเค้าก่อนที่มันจะเปลี่ยนรูปร่างเป็น ปลอกแขนสวมใส่เข้าไว้เสร็จสรรพ

“ นี่หล่อน ที่นี่ไม่เวทีประกวดนางงามนะยะ รีบ เซ็ทเข้าสิ ฉันอยากดวลเต็มแก่แล้ว ”
เค้า พูดแดกดันใส่เธอให้หันมาสนใจทางนี้เสียบ้าง เพราะหลังจกธนัท หายไปต่อหน้าต่อตาเธอก็ยัง ยืนค้างแข็งทื่อเป็นหินอยู่แบบนั้น

“ นี่!! ”
เค้า เรียกเธออีกครั้งโดยเรียกให้ดังกว่าตอนแรก จนในที่สุด เธอก็รู้สึกตัวและหันกลับมาแต่ยังไม่ทันจะได้อ้าปากถาม
เค้าแทรกขึ้นมาก่อน

“ ไม่ต้องมาถามอะไรฉันเลย เดี๋ยวสองคนนั่นก็กลับมาเอง ที่สำคัญก็คือถ้าให้รออย่างเดียวมันคงจะน่าเบื่อแย่
ไหนๆก็มาที่โลกนี้แล้ว ฉันอยากจะลองดวลจริงๆแบบนี้มาตั้งนานแล้ว อิๆ ”

การุรุ พูดเหมือนกับรู้ว่าเธอจะถามอะไรและกำลังต้องการอะไร แต่เค้าดูไม่สนใจที่จะตอบคำถามของเธอเลยแม้แต่น้อย
กลับ เอาแต่อยากจะดวลอยู่ท่าเดียว

“ ก็ได้ ฉันไม่รู้หรอกนะว่า พวกนายคิดจะทำอะไร แต่ถ้าฉันชนะ คืนตัว ธนัท มาด้วยล่ะ ” /Get Set/
ลูเซีย กล่าวพร้อมกันนั้น ไมโครโฟน Note ของเธอที่ห้อยคออยู่ก็ทำการเปลี่ยนรูปแบบเป็นปลอกแขนสวมให้กับ
เธอทันที

“ Let’s Duel!!!! ”
สิ้นคำจากทั้งสอง การดวลก็เริ่มขึ้นในที่สุด

[Lucia Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2 Mp:5/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]

............................................................
....................................................................................

ด้าน ธนัท นั้นตอนนี้ เค้าถูกพามายังที่ประหลาดๆ รอบตัวของค้านั้นมีแต่ความว่างเปล่า ที่ไม่มีอะไร
อยู่เลยนอกจากแสงสว่างที่เจิดจ้าไปทั่วทั้งบริเวณ จะมีก็เพียงแต่เค้ากับ เกร เท่านั้น

“ เอาล่ะมาเริ่มที่แบบทดสอบแรกกันเลย สำหรับนาย DNA-Changer กับ N.O.W. อะไรสำคัญที่สุด ”
เกร ถามขึ้นมาโดยไม่รีรอที่จะฟัง คำถามของ ธนัท ที่จะตามออกมาในอีกไม่ช้าแน่

“ อะไรของนายน่ะ พาฉันมาที่แปลกๆแล้วยังมาถามอะไรฉันอีก ถ้าจะให้ตอบก็บอกมาก่อนสิว่านายคิดจะทำอะไรกับฉัน! ”
ธนัท ไม่ยอมเล่นตามเกมของอีกฝ่ายด้วย

“ ถ้านายไม่ตอบเราก็ไม่ได้ออกจากที่นี่หรอกนะ ”
เกร ย้อนคำกลับไปแทนที่จะตอบคำถามเค้า นั่นทำให้เลือกทางเลือกไม่มากเท่าไหร่

“ พูดมาเถอะน่า ฉันไม่ได้คิดร้ายหรอก ขอแค่ตอบมาตามที่นายคิด ก็พอฉันแค่อยากจะรู้เท่านั้น ”
เกร พูดเพื่อใหเเค้า ใจเย็นลงและยอมตอบคำถาม

“ ก็ได้...แค่ตอบก็พอใช่ไหม.. ”
ธนัท พูด เกรแค่พยักหน้ารับเฉยๆ และรอให้เค้าตอบ

{เมื่อก่อนตอนที่นายยังเป็น N.O.W. ในตอนนั้นายเองก็ยังเข้ากับ DNA-Changer คนอื่นได้โดยไม่แม้
แต่จะกลัวเกรงเลย หรือแม้แต่ตอนนี้ที่ตัวเองก็กลายเป็นคนประเภทเดียวกับพวกนั้นไปแล้ว ดังนั้นสิ่งที่
สำคัญสำหรับนายก็คง จะเป็น ดี…..}
ระหว่างที่รอคำตอบ เกร ก็ผประเมินค่าในตัว ธนัท ไปด้วยและคิดคำตอบที่เค้าจะต้องตอบเอาไว้แล้วออกมา
ทว่าคำตอบที่ ธนัท ตอบกลับมานั้น

“ ไม่มีอะไรสำคัญทั้งนั้นน่ะแหละ ”
ธนัท พูด คำตอบที่เปล่งออกมานี้ทำให้ เกร ถึงกับต้องจ้องตาเขม็งมาที่เค้า

“ ไม่มี....หมายความว่านายไม่สนหัวใครเลยรึไง ”
เกร เปรยหลังจากทวนถึงคำตอบที่คาดไม่ถึงของเค้า




“ เปล่า.....มันไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแต่ใครจะเป็น N.O.W.หรือใครจะเป็น DNA-Changer ก็ไม่เห็น
จะสำคัญ เพราะทุกคนต่างก็มีความนึกคิดมีความรู้สึก ทุกคนต่างก็เป็นมนุษย์เหมือนๆกันเพราะงั้นต่อ
ให้ใครเป็นเผ่าพันธ์ไหนหรือตัวอะไรฉันก็ไม่สนทั้งนั้นน่ะแหล่ะ ”

ธนัท ให้ความขยายของคำตอบนั้นเพิ่ม

{ไม่แน่บางทีเจ้านี่อาจจะทำได้ดีกว่าที่เราคิดไว้ก็ได้}
เกร ยังคงได้แต่ยืนคิดอยู่นิ่ง หลังจากฟังคำตอบของ เค้าแล้ว

“ นี่ตกลง นายจะพาฉันออกไปจากที่ได้ยังเนี่ย ”
ธนัท เรียกร้องสัญญาจาก เกร หลังจากที่ยอมตอบคำถามของเค้าแล้วทว่า สิ่งที่ปรากฏขึ้นกลับเป็น
สำรับการ์ด ซึ่งมีทั้งกอง ซีลและมิสติก ประกบติดกัน หล่นลงมาบนมือของเค้า

“ นั่นเป็นค่าตอบแทนสำหรับคำตอบของนายเมื่อตะกี้ ”
เกร กล่าวก่อนจะล้วงมือลงไปในคอเสื้อเพื่อจะหยิบเอาอะไรออกมา
ด้าน ธนัท ก็ได้แต่ยกสำรับขึ้นมาดูอย่าง งงๆ

“ เดี๋ยวสิไม่เห็นเหมือนที่ตกลงกันไว้เลยนี่ ไหนนายบอกว่า ถ้าตอบคำถามแล้วจะพาฉันออกไน่ะ ”
ธนัท แย้งเมื่อสิ่งที่ได้รับมาไม่เป็นไปตามที่ตกลงไว้

“ ฉันบอกนายตั้งกะเมื่อไหร่ ว่าถ้าตอบแล้วจะพาออกไปน่ะ......ฮาร์ฟ (Harp) สแตนบายน์ ” /Get Set/
เกร พูด ก่อนจะสั่งให้ Note ที่ล้วงขึ้นมาจากคอเสื้อ เปลี่ยนไปอยู่ในโหมด ดวล และมันก็รับคำก่อนจะเปลี่ยนเป็น
ปลอกแขนสวมใส่ให้เค้า

“ ถ้าอยากจะออกไปล่ะก็ใช้สำรับนั่นมาดวลกับฉันให้ชนะสิ ”
เกร กล่าวก่อนจะ เสียบสำรับของตนเข้าไปในปลอกแขน

“ ต...แต่ฉันไม่มี Note นะ! ”
ธนัท แย้งขึ้นมาเพราะตอนนี้ ตั้งแต่ คอรัส พังไปครั้งนั้น เค้าก็ยังไม่ได้หา Note อันอื่นมาเลย อีกทั้ง คอรัส
ที่ซ่อมไว้ก็ยังเป็นแค่หุ่นยนต์นก ที่ทำได้แค่บินไปมา กับ เกาะอยู่บนหัวเค้าแค่นั้น ที่สำคัญคือวันนี้เค้าก็ไม่ได้พกมันมาด้วย

“ ถ้าเรื่องนั้นล่ะก็ พวกเราไปเอามันมาให้แล้วล่ะ ”
เกร พูดก่อนที่ คอรัส ซึ่งตอนนี้เป็นหุ่นยนต์นก จะบินเข้าไปหา ธนัท ยื่น นิ้วออกไปให้มันเกาะเอาไว้

“ พวกเราดัดแปลงให้ นกของนายกลายเป็น Note เรียบร้อยแล้วแต่ความสามารถของ
มันจะสูงกว่าของทั่วๆไปนิดหน่อยแต่วิธีใช้ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ลองสั่งให้มัน สแตนบายน์ดูสิ ”

เกร พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ คอรัส ตอนนี้มันเปลี่ยนไปมากหากฟังจากที่เค้าพูดแต่ ในสายาตาของ
ธนัท ก็ยังคงเห็นมันเป็น หุ่นยนต์นกที่ โคทาโร่ เอา ข้อมูลของ คอรัส ใส่ลงไปชั่วคราวเท่านั้น
แต่ก็ไม่มีอะไรจะเสีย เค้าจึงทำตามที่ เกร บอก

“ คอรัส สแตนบายน์ ” /Get Set Twin Drive Mode!!/
สิ้นคำ ร่างหุนยนต์ของ คอรัส ก็เรืองแสงขึ้นและเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตัวเอง ปีกทั้งสองข้างประกบกันเป็น
ฝาครอบช่องเสียบสำรับ ก่อนที่ส่วนอื่นๆจะเปลี่ยนตามด้วยและในที่สุดจากนกตัวเล็กๆ มันก็กลายเป็นปลอกแขน
จักรกล ที่มีฝาครอบภายนอกเป็นลายสีดำ และฟันเฟือง ไดนาเมซ ถึง 2 อัน ถูกสวมครอบไว้ด้วยกระเปราะแก้ว
ใสๆ

“ สุดยอดเลย นี่นายใช่คอรัส ของฉันจริงๆเหรอเนี่ย ”
/Idiot! ,You forgotting my /(เจ้างั่ง!, นายลืมฉันไปแล้วรึไงกัน)

ธนัท ที่อดถามด้วยความสงสัยไม่ได้ กลับถูก Note ของตัวเอง สวนใส่ทันควัน แต่นั่นก็ทำให้เค้ามั่นใจว่านี่
คือ คอรัส Note ของเค้าจริงๆ

“ ใช่นายจริงๆด้วย…. ”
ธนัท เปรยเสียงของเค้าสะอื้นหน่อยๆแม้จะพยายาทำเป็นใจแข็งยังไง แต่ความปลื้มปิติ ที่คู่หูของตัวเองกลับมา
ดวลกับเค้าได้แบบนี้มันก็เป็นอะไรที่น่าดีใจสำหรับเค้าไม่ใช่น้อย

/You is Weakness,Damn it!/(นายยังอ่อนหัดเหมือนเดิมเลย,ให้ตายสิ)
คอรัส เปล่งเสียงออกมา แม้จะเป็นเครื่องจักรแต่การที่ได้อยู่ร่วมกันมาและตัวมันเองก็เป็น
วิญญาณประดิษฐ์ที่เกิดจากพลังเวทย์ด้วย ก็พอจะมีความรู้สึกอยู่บ้าง และนั่นทำให้มันตอบกลับออกไปแบบนั้น

“ ดีล่ะ ถ้างั้นเราก็มาดวลฉลองที่ได้กลับดวลอีกครั้งเลยก็แล้วกัน ”
ธนัท ใช้แขนเสื้อปาดน้ำตาออกก่อนจะเสียบสำรับเข้าไปในช่องปลอกแขน ด้วยความเริงร่า

“ Let’s Duel!! ”
ทั้งสองประกาศเริ่มการดวลขึ้นในทันที

[Grea Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2 Mp:5/7 Shrine 0/6 ]
[Thanat Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]

“ ฉันเป็นฝ่ายบุก ก่อน Cost mp 3 เรียกให้ โกไลอ้อน (Golion) โดโรรูส มาสค์ ฟิช(Dolorous) และ ไวด์เลโอกริฟ(Wild Leogriff) ออกมาที่ Df Line ”
เกร เริ่มเกมพร้อมกับ ส่ง อสูร สามใบบนมือ ออกมา ประกอบ ด้วยสัตว์ประหลาดสี่เท้าขนปุกปุยและมีหางที่ปุกปุยเหมือนแมว สีน้ำตาลดิน ปลาประหลาดที่มีลายบนหัวเหมือนกับสวมหน้ากาก และ อสูรผสมผสานระหว่าง สิงโต กับ กริฟฟิน

รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

[Grea Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2 Mp:2/7 Shrine 0/6 ]
[Thanat Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]


“ แล้ว Cost Mp ที่เหลือ อยู่ 2 เพื่อให้ ป่าทมิฬ(Black Wood) ทำงาน ตราบเท่าที่การ์ดใบนี้อยู่บนพื้นที่ อสูรทุกใบใน
Df Line จะป้องกันจาก การโจมตี ฉันขอหมดรอบแค่นี้ ”
เกร ประกาศพร้อมร่าย มิสติกบนมือ ออกมาทันทีที่ การ์ดสำแดงอำนาจของมันก็ทำให้เกิด ผืนป่า ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ขึ้นมาบนสนามทั้งฝ่ายเค้า และ ฝ่าย ธนัท ด้วยผืนป่า สูงจนบดบัง อสูรที่อยู่ในอแนวรับของเค้า หมดทุกตัว

รูปภาพ

[Grea Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 1 Mp:0/7 Shrine 0/6 ]
[Thanat Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]

“ รอบของฉัน... ”
ธนัท ประกาศรอบของตน แต่ถึงอย่างนั้นพอได้มองดูการ์ดบนมือของตนแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะะต้องทำอย่างไรดี
เพราะนี่ไม่ใช่สำรับที่เค้ารู้จัก อย่างสำรับของตัวเอง หรือของ เคียวที่เป็นเพื่อนมันเป็นสำรับที่พึ่ง
ได้มาและยังไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

{ การ์ดพวกนี้ก็ใช่ว่าเราไม่รู้จักหรอกนะ แต่เท่าที่ดูแล้วมันไม่น่าไปด้วยกันได้เลย Seal แต่ละใบบนมือเรา
นอกจาก ธาตุ จะไม่สมดุลแล้วยังมั่วอีกตังหาก แถม เผ่าพันธุ์ก็ยังมีถึงสอง เผ่าสัตว์อสูร(Beast) แล้ว
ก็เผ่ามังกร(Dragon) สองเผ่านี้มัน เข้ากันซะที่ไหน}

ธนัท คิดตอนนี้เพียงแค่ดูการ์ดบนมือเค้าก็อยากจะกุมขมับเสียแล้ว เพราะธาตุของ ซีลการ์ดแต่ละใบ ทั้ง น้ำ ไฟ และความมืด
อีกทั้ง ยังเป็นเผ่า สัตว์อสูร เสีย 3 ใบและ เผ่ามังกรอีก 2 ใบ

“ เป็นอะไรไป ทำหน้ายังกับจะบอกว่าบอกว่า เล่นไม่ได้งั้นแหละ นั่นน่ะเป็นสำรับที่เกิดจากความคิดของนายนะ ”
เกร พูด เมื่อเห็นว่า ธนัท ยังคงยืนคิดอยู่นาน

“ เอ๋? ความคิด...ของฉันเหรอ ”
ธนัท ทวนคำอย่างฉงน กับคำพูดของ เกร

“ ใช่ นายเป็นคนพูดเองนี่ว่า ต่อให้แตกต่างกันแค่ไหน ก็ไม่เห็นสำคัญ เพราะงั้นนั่นแหละคือตัวตนที่แท้
จริงของนายที่สำรับแสดงออกมา ”
เกร อธิบาย ถึงต้นกำเนิดของสำรับ ที่ ธนัท ใช้อยู่ให้ฟัง

“ แต่ถึงยังงั้นก็เถอะแบบนี้น่ะมันจะมั่วเกินขอบเขตไปหน่อยแล้ว สำรับแบบนี้ใครมันจะไปเล่นได้กันล่ะ ”
ธนัท แย้งแม้จะคำพูดของ เกร จะฟังดูเข้าเค้ากับที่พูด แต่ถึงยังงั้นตอนนี้ตัวเค้าก็รู้สึกไม่ต่างกับถูกจับมัดมือชก
แต่ถึงจะแย้งไปยังไง เกร ก็ไม่ยอม รับฟังคำแก้ตัวต่างๆนานาของเค้าอยู่ดี

“ ฮึ่ม...Coat Mp 3 ให้ อัลบิโน กริฟฟอน(Albino Gryphon) ออกมาที่ At line ”
ธนัท ประกาศพร้อมกับ เลือกหยิบเอา ซีลการ์ดร่ายออกไป อสูรกริฟฟอนเผือกสีขาว ปลอดปรากฏขึ้นบนสนามของเค้าในทันที

รูปภาพ

“ ครั้งนี้ฉันได้ออกคนแรกเลยเหรอเนี่ย ”
กริฟฟอน เผือก พูดเสียงร่า ขณะที่ ธนัท ได้แต่อึ้งกับ การที่ได้เสียงของมัน

“ น....นี่แกพูดได้ด้วยเหรอ ”
ธนัท อุทานพลางชี้หน้ามันมือไม้สั่นขึ้นลงไปด้วย อาการตกใจสุดขีด

“ พูดอะไรของนายน่ะ ฉันจะพูดไม่ได้รึไง ก็ฉันอยากพูดนี่ ”
กริฟฟอนเผือก หันมาถาม และมองหน้าเค้าอย่างไม่พอใจ

“ ป...เปล่าฉันไม่ได้หมายความว่ายังงั้น แต่เออ...คือช่างมันเถอะเอาเป็นว่า เล่นต่อเลยก็ได้ ”
ธนัท พยายามจะอธิบายแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไงและไม่รู้ว่าจะถามยังไงด้วย จึงจำใจเล่นต่อทันที

“ ด้วยผลของ อัลบิโน กริฟฟอน จะทำให้ ค่าร่ายของ Seal เผ่าสัตว์อสูร บนมือของ
ฉันมีค่าร่ายลดลง 1 ช่วยทีนะ Albino Calling ”
ธนัท อธิบายพลังพิเศษของ กริฟฟอนเผือก ก่อนที่มันจะคำราม เพื่อให้พลังของมัน สำแดงเดช
การ์ดซีลบนของ ธนัท ที่ได้รับอานิสงค์ก็เกิดรัศมีแสงสีน้ำเงินขึ้นอาบล้อมไว้

“ Cost Mp1 อัญเชิญ เซเบอร์ ฮอร์น ฮาวน์ (Saber Horn Hound) ออกมาที่ Df Line ”
สิ้นคำ อสูร หมาเขาดาบสีแดงเพลิง ก็กระโจนออกจาก ป่ารกทึบด้านหลังที่เกิดจากผลของ การ์ดป่าทมิฬ

รูปภาพ

“ แง่ง ฉันได้ที่ 2 เหรอเนี่ย เอาเต้อะ ยังไงก็ได้ออกมาแล้วนี่นะ ว่าแต่คราวนี้เราเป็นศัตรูของนายงั้นสิ...เกร ”
หมาเขา ดาบเปรยก่อนจะหันไปพูดกับ อีกฝ่ายซึ่ง เกร ก็ยิ้มเล็กๆตอบกลับไปเพียงแค่นั้นก็ดูราวกับั้งสองจะเข้าใจกันได้
เพียงแค่การแสดงออกเล็กๆน้อยๆเท่านั้น

{อะไรกัน แค่นั่นก็เข้าใจแล้วงั้นเหรอ หรือว่า อสูรพวกนี้เคยเป็นของเค้ามาก่อน}
ธนัท คิดสายตาจ้องไม่กระพริบ กับสิ่งเกิดขึ้น

“ หน้านายนี่มันเป็นป้ายโฆษนาข้อความรึไงกันนะ ”
เกร พูดแดกดันเค้าขึ้นมา จนทำให้ต้องหันผึงกลับไปทันที

“ ทำหน้าแบบนั้น กำลังสงสัยอยู่ล่ะสิว่า อสูรที่นายเรียกมาเคยเป็นของฉันรึเปล่า...ขอตอบเลยว่าใช่ แต่แค่เผ่า
สัตว์อสูร 6 ใบเท่านั้นนะนอกนั้นน่ะเป็นการ์ดที่คัดเลือกขึ้นมาจากการประเมินคำตอบของนาย แน่นอน 6 ใบ
ที่ว่านั่นก็นับรวมอยู่ด้วย ”
เกร ตอบคำถามที่คาใจเค้าโดยที่ยังไม่ทันได้ถามเลยแม้แต่น้อย ราวกับทุกการกระทำและคำพูดของเค้า
ชายผู้นี้รู้ตื้นลึกหนาบางมาตั้งแต่แรกแล้ว

“ Cost Mp อีก 2 อัญเชิญ แบล็กไนท์ กริฟฟิน (Black Night Griffin) ออกมาที่ At Line ”
ธนัท ประกาศพร้อมกับ อัญเชิญ อสูรกริฟฟินราตรีดำ ขึ้นมาบนพื้นที่

รูปภาพ

“ ตาฉันแล้วสินะ ไม่ยอมแพ้นายแน่ เกร!! ”
กริฟฟินราตรีดำ ประกาศอย่างขึงขัง

{นี่ก็อีกตัวสินะ}“ ฉัน Cost mp ที่เหลืออยู่ แล้วเรียกให้ ซาลามันเดอรี่ ดอล(Salamandery Doll)ออกมาที่ Df Line ”
ธนัท คิด ก่อนจะประกาศร่าย ซีล ออกมาอีกใบ คราวนี้ เป็น อสูร ตุ๊กตามังกรซาลามันเดอร่า ตัวเขื่อง

รูปภาพ

“ ฉันขอหมดรอบแค่นี้ ”
สิ้นคำของ ธนัท ป่ารกบนสนามจึงค่อยๆยุบตัวหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ ก่อนจะกลายเป็นละอองแสง รวมตัวกลับ
เป็นแผ่นการ์ด ร่อนคืนสู่ช่อง Shrine ของ เกร

“ เมื่อจบรอบของนาย จะครบ 1 Turn ทำให้ ผลของป่าทมิฬ หมดไป ”
เกร อธิบาย ก่อนจะย้ายมือไปแตะที่การ์ดใบบนสุดของ สำรับ ซีล

“ รอบของ ฉันจั่วไพ่ ”
เกร ประกาศพร้อมกับ จับการ์ดซีลขึ้นมา อีก 2 ใบ

[Grea Status; Hand:Seal 4 ,Mystic 1 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Thanat Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]

“ หึ ในที่สุดก็มาแล้วสินะ ”
เกร พึมพำกับตัวเองหลังจากดูการ์ดที่จับขึ้นมา ก่อนจะเอาไปรวมกับชุดการ์ดบนมือ

“ Cost Mp 6 ให้ Skill ของ อสูรทั้งสามตัวในสนามของฉันทำงาน พวกมันจะใช้ตัวเองเป็นเครื่องสังเวย
เพื่ออัญเชิญ อสูร ตัวใหม่ตามธาตุสังกัดออกมาได้ ให้ทั้งสามตัวเป็นเครื่องสังเวย ”
เกร ประกาศให้อสูรทั้งหมดของเค้า ทำการสังเวยตัวเองเพื่อแลกเปลี่ยนกับการอัญเชิญ อสูรตัวใหม่จากบนมือ ออกมา

“ เรียกอสูรใหม่สามตัวงั้นเหรอ!!....เดี๋ยวก่อนนะ ธาตุของ อสูรสามตัวนั่นมัน ธาตุดิน น้ำ และ ลมนี่หรือว่า ”
ธนัท อุทาน แต่แล้วเค้าก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าสิ่ง เกร ได้ตระเตรียมเอาไว้ให้เค้า คือคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจอย่างสุดๆ

“ ออกมาเลย จอมอสูร บีทฮีมอท(Behemoth) เขี้ยวนที เลวีอาทาน(Leviathan) เจ้าฟ้า ซิส(Ziz) ”
สิ้นคำ ฝันร้ายเมื่อวันวานของเค้า ก็กลับมาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าอีกครั้ง

รูปภาพ
รูปภาพ
รูปภาพ

[Grea Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 1 Mp:1/7 Shrine 3/6 ]
[Thanat Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]

...................................
......................................................
ทางด้าน ลูเซีย ตอนนี้การดวลก็ได้ผ่านไป จนถึงรอบแรกของ การุรุแล้ว ในสนามของเธอมี ซิโมเน่ กับ เดวิด
ที่ At Line ทั้ง 2 ตัว

รูปภาพ
รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 5 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]

“ My Turn ”
การุรุ ประกาศรอบพร้อมกับหยิบเอาการ์ดซีล บนมือร่ายออกมาทันที

“ Cost Mp 3 ให้มังกรลาวา อูเรนโด้(Urendo, the Lava Dragon) ออกมาพร้อม โจมตี ที่ At Line ”
ทันทีที่ ผนึกถูกปลดออก ก็มีลาวาล้นท่วมออกมาจากพื้นของชั้นอาคารที่เป็นสนาม ก่อนที่ อสูร มังกรเพลิงซึ่ง
มีเกล็ดกายอันร้อนระอุจนควันโชย พุ่งทะยานออกมาจาก กองลาวาที่ผุดขึ้น

รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 4 ,Mystic 2 Mp:4/7 Shrine 0/6 ]

“ Ability ของ อูเรนโด้ ทำงาน เผ่ามังกร ธาตุไฟ บนมือของฉันจะลดค่าร่ายลง 1 หน่วย ดังนั้นฉันจึงไม่ต้อง
จ่ายค่า Cost ของ ซาลามันเดอรี่ดอล ที่มีแค่ 1 ฉันขอเรียกออกมาที่ Df line 4 ใบเลย ”
สิ้นคำ การ์ด ซีล ทั้งหมดบนมือของ การุรุ ก็ถูก ร่ายออกมา ตุ๊กตามังกรแดง 4 ตัวถูกอัญเชิญขึ้นมาอยู่แนวหลัง
ของ อูเรนโด้

“ จากนั้น Cost mp 3 ให้ Love And Peace ทำงานผลของการ์ดใบนี้ ในช่วง 2 Turn จะไม่สามารถสั่งโจมตีกันได้
แล้วหมดรอบ Turn End ”
การุรุ ประกาศพร้อมกับร่ายมิสติกบนมือ ออกมาปรากฏภาพการ์ดของ มิสติกใบที่ร่ายขึ้นมาบนสนามฝั่งเค้าทันที

รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 1 Mp:1/7 Shrine 0/6 ]

“ รอบของฉันจั่วไพ่ !! ”
ลูเซีย ประกาศพร้อมกับ จับการ์ดซีลและมิสติกขึ้นมาอย่างละใบ

[Lucia Status; Hand:Seal 4 ,Mystic 3 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 1 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]

“ Cost Mp 3 ให้ อลิส กับ แมนดี้ ออกมาที่ Df Line ”
ลูเซีย ประกาศพร้อมกับ โยนซีลการ์ด2ใบบนมือร่ายออกไป อสูรที่ถูกอัญเชิญขึ้นมาคือ
แม่มดน้อย และ นักบวชหญิง แห่งเดลิเวอร์แบนด์ แมนดี้ กับ อลิส ทั้งสองออกมายืนอยู่ข้าง เดวิด
ที่อยู่ในแนวเดียวกับพวกเธอ

รูปภาพ
รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 3 Mp:4/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 1 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]

“ และในตอนนี้ Ability ของ แมนดี้ กับ อลิส ก็ทำงาน ให้ ผลของ อลิส ไปเกิดกับ ซิโมเน่ และให้ผลของแมนดี้
ไปเกิด กับ เดวิด ดังนั้น ในรอบนี้ ซิโมเน่ จะไม่ได้รับผลจาก Mystic Card ส่วน เดวิด จะไม่ได้รับผล
จาก Curse และ Df +2 เป็นเวลา 1 Turn ”

ลูเซีย อธิบายไปพร้อมๆกับ ที่ อลิส และ แมนดี้ ร่ายเวทย์สนับสนุน ให้กับ เดวิด และ ซิโมเน่ ไปพร้อมกัน

“ แต่ถึงจะ Cancel Mystic ยังไงก็ต้านทานกับผลจาก Love and Peace ไม่ได้หรอกนะ
เพราะการ์ดใบนี้มีผลกับตัวผู้เล่นไม่ใช่ที่ ตัวอสูร ”
การุรุ แทรกขึ้นมาบอกกับเธอ

“ เรื่องนั้นน่ะ ฉันรู้อยู่แล้วไม่ต้องมาบอกหรอก Cost Mp 2 ให้ เรซ่า ออกมาที่ At Line แล้วหมดรอบ ”
ลูเซีย เถียงคำกลับ ก่อนจะ หยิบซีล อีกใบร่ายออกมา เรซ่า มือสังหารหญิงซาโลม แห่ง เดลิเวอร์แบนด์
ผู้มีกรงเล็บเหล็กเพลิงอันแหลมคม ถูกอัญเชิญ ออกมา ข้างเคียง ซิโมเน่ เพื่อเสริมการป้องกันให้แน่นหนาขึ้น

สำหรับสำรับของเธอที่เน้นรูปแบบการบุกทะลวงโจมตีเข้าไปแล้วการถูกสกัดการโจมตีซึ่งเป็นไม้เด็ดของเธอไว้
นั้นก็แทบจะปิดตายการเล่นผสานทั้งหมดไปเลยทีเดียว

รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 3 Mp:2/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 1 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]


“ My Turn Draw!! ”(รอบของฉันจั่วไพ่!!)
การุรุ ประกาศรอบของตนก่อนจะจับ ซีล ขึ้นมาเพิ่มอีก 2 ใบ

[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 3 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 1 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]

“ Cost Mp 1 ให้ Draw of Soul ทำงานจากบนมือ ทิ้ง อูเรนโด้ ไปที่ Shrine และเพราะในสนามของฉันมี อูเรนโด้ อยู่
เลยทำให้ฉันได้จั่วการ์ด ขึ้นมาได้แค่ 2 ใบเพราะ ค่าร่ายถูกลดลงไป ”
การุรุ อธิบายพร้อมกับ ร่าย มิสติกบนมือ ออกมาปรากฏร่างของผู้ใช้วิญญาณ เซอร์เซส ขึ้นมาในสนาม
และเมื่อส่งการ์ดซีลบนมือ เก็บใส่ช่อง Shrine ของปลอกแขน ไปแล้ว ผู้ใช้วิญญาณก็ทำการร่ายคาถาสร้างหมอกควันสีดำขึ้นมาหมุนวนรอบร่างของตนก่อนจะสลายตัวไป และทำให้ เค้าได้ จับการ์ดเพิ่ม และจับซีลการ์ดขึ้นมา 2 ใบ

รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 3 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 1 Mp:6/7 Shrine 2/6 ]

“ เท่านี้คอมโบ ก็ครบแล้ว ฮิๆ... ”
เค้าพึมพำกับตัวเอง เบาๆก่อนจะหยิบเอา ซีลการ์ดสองใบบนมือ ออกมาเตรียมร่าย

“ ให้ ซาลามันเดอรี่ดอล ทั้ง 4 ตัวเป็นวัตถุดิบในการ Growth แล้ว Cost mp 4 อัญเชิญ
จ้าวมังกร ซิลเมเนี่ยน(Silmenion, the Great Dragon) ออกมาที่ Df line 2 ใบ ”
การุรุ ประกาศพร้อมกับ ร่ายซีลการ์ดออกไป ทันทีที่ผนึกการ์ดแตกออก ก็บันดาลให้เกิดพายุเปลวอัคคีและสายน้ำ
หมุนวนก่อตัวขึ้นไปชนเพดานของชั้นโดยดูดเอา ตุ๊กตามังกรทั้ง 4 ตัวเข้าไปด้วย ก่อนจะสลายตัวออก
และปรากฏร่างของ มังกรประหลาดไม่มีแขนแต่มีปีก 2 ข้าง

และมีระยางยาวยื่นออกมา3-4 แฉกจากใต้ปีกทั้งสองและที่แผงคอ สีของเกล็ดบนร่างกาย
เป็นสีฟ้าน้ำทะเล ปนกับ สีแดงเพลิงลาวา บ้างก็ผสมกันจนกลายเป็นสีม่วงคล้ำ

รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 3 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 1 Mp:2/7 Shrine 2/6 ]

“ Cost Mp 2 แล้วให้ Mystic สวมใส่(Ps) อโฟรไดท์(Aphrodite) ติดตั้งให้กับ อูเรนโด้ แล้วหมดรอบ Turn End ”
สิ้นคำและเมื่อ มิสติกการ์ดถูกร่ายออกไป ก็ปรากฏ โฉมหน้าของเทพีผู้งดงามขึ้นมาในสนาม ก่อนที่เธอจะหายเข้าไป
ในร่างของ มังกรลาวา

รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 3 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 0 Mp:0/7 Shrine 2/6 ]

“ รอบของฉันจั่วไพ่!! ”
ลูเซีย ประกาศก่อนจะจับการ์ดซีลและมิสติกขึ้นมาอย่างละใบ

[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 0 Mp:7/7 Shrine 2/6 ]

{อโฟรไดท์ เป็น Mystic ที่จะมอบความสามารถในการสร้าง Charm Curse ได้นับว่าเป็นตัวปัญหาเลยทีเดียว
ถ้าไม่รีบจัดการล่ะก็มีหวังได้วุ่นแน่ แต่ในรอบนี้ผลของ Love and Peace ยังทำงานอยู่ต้องหาจังหวะบุกในรอบต่อไป}
ลูเซีย ประเมินสถานการณ์ในตอนนี้ เธอถูกวางหมาก กดดันให้ต้องรอรับ การบุกในครั้งต่อไปเท่านั้น

“ Cost mp 4 อัญเชิญ เอลล่า และ ซานดร้า ออกมาที่ Df Line ”
ลูเซีย ร่ายซีลการ์ดบนมือทั้งหมดออกไป อัญเชิญ พาลาดินสาวและนักเต้นน้อย แห่งเดลิเวอร์แบนด์ขึ้นมาเสริมกำลังตั้งรับให้เหนียวแน่นขึ้น นับรวมในตอนนี้แล้วเธอมี เดลิเวอร์แบนด์ในสนามถึง 7 คน ด้วยกันในตอนนี้

รูปภาพ
รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 4 Mp:3/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 0 Mp:7/7 Shrine 2/6 ]

“ Ability ของเอลล่า ทำงานฉันจะได้จั่วการ์ดใบหนึ่ง หมดรอบแค่นี้ ”
ลูเซีย ปะรกาศให้ผลพิเศษของ พาลาดินสาวทำงาน ก่อนจะจับ ซีลการ์ด ขึ้นมา มันเป็นซีลการ์ด ยูนิคอร์น
สีขาวปรอด เปเก้ ลากูน ยูนิคอร์น เธอจัดมันรวมกับไพ่บนมือก่อนจะประกาศหมดรอบ

รูปภาพ

“ My Turn and Draw!! ”
การุรุ จับมิสติกการ์ดขึ้นมา 2 ใบ

[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 2/6 ]

“ และในตอนนี้ ผลของ Love and Peace ก็หมดลง ต่อด้วย Ability ของ เดวิด ทำงานเมื่อ
ถึง Sub-Turn ป้องกันของฉันและมี ธาตุแสง หรือ เดลิเวอร์แบนด์ใบอื่นในสนาม จะเลือกให้
อสูรตัวหนึ่งทำการต่อสู้ไม่ได้จนหมดรอบ ฉันเลือกให้ เดวิด รับผลนี้เอง ”
ลูเซีย กล่าวจบ ภาพการ์ด Love and Peace ก็แตกสลายไป ก่อนที่ เดวิด จะเริ่มขับร้องบทเพลงขึ้นมา

“ ให้ ผลของตัวเองเล่นงานตัวเองแบบนี้ คิดจะป้องกันไม่ให้ เจ้าตัวถูก Charm Curse แล้วไปเล่นงานกันเองสินะ ”
การุรุ เปรยถาม แผนในการวางหมากครั้งนี้

“ At Line ของฉันมี อสูรที่มีพลังสูงๆทั้งนั้น ยังไงนายก็ตั้งใจจะใช้ Charm Curse ให้ตีกันเองอยู่แล้ว
เพราะงั้นฉันก็ต้องป้องกัน ส่วนสำคัญๆเอาไว้บ้างสิ แล้วก็อีกอย่าง ตอนนี้นายแค่ เสีย อสูรไปอีก 2 ตัวก็แพ้แล้ว
ถึงรอบนี้นายจะพยายามยังไง ก็ทำให้ อสูรของฉันถูกทำลายได้แค่ 2 ตัวเท่านั้นแหละน่ารอบต่อไป ด้วยทัพ
เดลิเวอร์แบนด์ของฉํนจะบดขยี้ให้ราบคาบเลย ”

ลูเซีย ตอบเสียงมั่น ชัยชนะอยู่ไม่ไกลเลยสำหรับเธอในตอนนี้ ทว่า

“ มันก็จริงของ เธอเพราะงั้นฉันเอง ก็ต้องขอป้องกันเอาไว้ก่อนล่ะ Cost Mp 2 ให้ ป่าทมิฬ(Black Wood)
ทำงานจากบนมือผลจากการ์ดใบนี้จะทำให้ อสูร ทุกใบใน Df Line ป้องกันจากการโจมตี ”
การุรุ ประกาศพร้อมกับ ร่ายมิสติกบนมือ ออกมาพริบตาผืนป่าก็ยกตัวสูงขึ้นจากพื้นบดบังทัศนียภาพ
ในสนามของทั้งสองฝ่าย

[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 1 Mp:5/7 Shrine 2/6 ]

“ อะไรกันนี่คิดจะเปลี่ยนมาตั้งรับอีกแล้วงั้นเหรอ? ”
ลูเซีย พูดข่มทว่า อีกฝ่ายกลับไม่มีสีหน้าที่บ่งบอกเลยว่ากำลังถอย

“ ใครว่าฉันถอยกันล่ะ กำลังจะบุกต่างหากคอยดูไปเถอะตอนนี้การเล่นผสานของสำรับจ้าวมังกร(Great Drgon)
กำลังจะสมบูรณ์แล้ว Cost Mp 1 ให้ Draw of Soul อีกทำงาน ต้องทิ้ง Seal ไปใบ 1 แลกกับการ์ดจั่วการ์ดขึ้นมาเท่ากับค่าร่ายของ Seal ใบนั้น ฉันขอทิ้ง จ้าวมังกร เทาเลนอส(Taulenos, the Great Dragon) ไปที่ Shrine แล้วจั่วการ์ดขึ้นมา ใบ 1 ”

เค้า เปรยก่อนจะร่ายมิสติกการ์ดออกมา ผู้ใช้วิญญาณปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับที่ เค้าทิ้ง ซีลการ์ด
และจับมิสติกการ์ดใบใหม่ขึ้นมาจาก กอง

รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 1 Mp:4/7 Shrine 4/6 ]

“ ให้ อูเรนโด้ ถอยลงมาอยู่ที่ Df Line จากนั้น Cost Mp 1 ให้ อูเรนโด้ ใช้ Skill ที่ได้รับจาก อโฟรไดท์
สร้าง Charm Curse ให้กับ เดวิด ทำให้การควบคุมของ เดวิด กลายเป็นของฉัน ”
สิ้นคำ มังกรลาวา จึงถอยลงไปหลบในร่มเงาของป่า ไม่นานรังสี ซึ่งเย้ายวนชวนให้เคลิบเคลิ้มตาม ก็
แผ่ซ่านออกมา รังสีนั้น ทำให้ เดวิด ที่ถูกเพ่งเล็ง ตกอยู่ใต้อำนาจการควบคุม นั้นทันที และออกเดินไปยัง สนามแนวหน้า
โดยที่ไม่อาจห้ามตัวเองได้

[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 1 Mp 3/7 Shrine 4/6 ]

“ เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?! เงื่อนไขการใช้ Skill จาก อโฟรไดท์ อสูรที่จะใช้ต้องอยู่ที่ At Line เท่านั้นนี่แล้วยัง
Mp Cost ในการใช้ Skill ที่เหลือแค่ 1 อีก นี่มันเรื่องอะไรกัน ”
ลูเซีย โผลงตาด้วยความประหลาดใจ

“ ขอชมนะว่าเธอรู้จักความสามารถของ อโฟฟรไดท์ อย่างละเอียดยิบถึงจนาดที่ไม่ยอมใช้ Skillของ อลิส ที่จะทำให้ เดวิด ยกเลิก Curse ได้ แต่ก็ไม่ทำ ”
เค้า พูดและมองไปที่ อลิส ที่อยู่ในสนามของเธอ

“ เพราะผลที่เกิดจาก Skill ที่ได้รับจาก อโฟรไดท์ จะไม่สามารถยกเลิกได้ ”
ลูเซีย เปรยตามที่เธอรู้ ผลจากการ์ด อโฟรไดท์ นั้นเธอรู้เกี่ยวกับมันทั้งหมด แต่คำถามต่างๆก็ยังไม่หายไป

“ งั้นจะบอกให้ก็ได้ ว่าเมื่อกี้ฉันทำได้ยังไง นั่นเพราะจาก Draw of Soul เมื่อกี้ฉันทิ้ง เทาเลนอส ไปไว้ที่ Shrine
และผลของมันก็ทำงาน เมื่อ เทาเลนอส อยู่ใน Shrine ไฟ ทุกใบในสนาม สามารถใช้ Skill ได้โดย

ไม่ต้องสนเรื่อง Line เงื่อนไข และ ซิลเมเนี่ยน ที่ทำการ Growth แล้ว จะช่วยลดค่า Mp Cost ในการใช้ Skill
ของเผ่ามังกร ธาตุไฟ ลง 1 ในสนามของฉันมีอยู่ 2 ใบดังนั้น ค่า Cost จึงลดลงจาก 3 เหลือ 1และ Seal
ที่ใช้ Skill จาก อโฟรไดท์ ก็คือ อูเรนโด้ ที่เป็น ธาตุ ไฟ คงเข้าใจแล้วสินะ ”

การุรุ อธิบายการเล่นผสานทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากตอลดเวลาตั้งแต่ที่เริ่ม ดวล เค้าก็ค่อยๆทยอยวางหมากไปทีละน้อยและในขณะเดียวกันก็ล่อให้เธอ ติดกับไปด้วย ตอนนี้ สถานการณ์จึงพลิกผันไปอย่างรวดเร็ว

“ Cost Mp 2 ให้ Mystic อุปกรณ์ (Relic) คัมภีร์ตราเจ็ดผนึก(Seven Seals Scroll)ติดตั้งให้กับ ป่าทมิฬ การ์ดใบนี้จะ
ทำให้ Mystic ที่ติดมันไว้ไม่นับ Turn ต่อ ”
สิ้นคำมิสติการ์ดใบสุดท้ายก็ถูกร่ายออกมา ก่อนจะปรากฏ ม้วนคัมภีร์ขอบกระดาบคลิบด้วยทองคำและผนึกไว้อย่างหนาแน่นด้วยตราผนึกทอง 7 ชั้น คลื่นพลังจากป่าทมิฬ ถูกม้วนคัมภีร์ ดูดซับเข้ามาเก็บไว้ทั้งหมด ทำให้ม้วนคัมภีร์
เรืองรองไปด้วยรัศมี แสงสีเขียวทึบของพลังแห่งพงไพร

รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 0 Mp 1/7 Shrine 4/6 ]

“ ยังไม่หมดแค่นั้นหรอกนะ Cost mp 1 ให้ Skill จาก อโฟรไดท์ ทำงาน Charm Curse บนอสูร ตัวหนึ่งจะ
ไม่มีการนับ Turn อีกต่อไป Ethernal Charming ”
สิ้นคำ รังสีควบคุมที่ห่อหุ้มร่างของ เดวิด อยู่ก็เข้มข้นขึ้นจนกลายเป็นสีแดงเห็นเด่นชัดขึ้นมา
สภาพของ เดวิด แปรเปลี่ยนไปจนแตกต่างกับก่อนหน้านี้ สายตาที่จ้องกลับมายังพรรคพวกในสนามคือ
แววตาที่แสดงความเป็นศัตรู อย่างชัดเจน

“ Turn End ”
เค้าประกาศพร้อมกับ ผายมือส่งรอบการเล่นให้กับเธอ

“ รอบของฉัน จั่วไพ่!! ”
ลูเซีย ประกาศพร้อมกับ จับซีลการ์ดขึ้นมาอีก 2 ใบ ตอนนี้การ์ดบนมือของเธอไม่มีใบไหนที่จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์
นี้ได้เลย ซ้ำการบุกที่เป็นทีเด็ดของเธอก็ยังงถูกปิดผนึกไว้โดยสมบูรณ์

[Lucia Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 0 Mp 7/7 Shrine 4/6 ]

“ Cost Mp 3 อัญเชิญ เปเก้ ลากูน ยูนิคอร์น ออกมาที่ Df Line 3 ใบ ”
ลูเซีย ประกาศก่อนจะอัญเชิญ ยูนิคอร์น ขนสีขาวปรอดขึ้นมายังสนามแนวหลังด้วยกันถึง 3 ตัว

[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 4 Mp:4/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 0 Mp 7/7 Shrine 4/6 ]

“ หมดรอบแค่นี้ ”
ลูเซีย ประกาศจบนรอบของเธอทันที เพราะไม่สามารถที่จะกระทำการใดต่อไปได้อีก ทันทีที่รอบการเล่นเปลี่ยน
อีกครั้ง ผืนป่าที่ผุดขึ้นมากยุบตัวลงพร้อมๆกับ การ์ด ป่าทมิฬ ถูกส่งไปยังช่อง Shrine

“ My Turn and Draw!! และในตอนนี้ผลของ คัมภีร์ตราเจ็ดผนึก ก็หมดลง ”
การุรุ ประกาศพร้อมกับจับการ์ด ซีลขึ้นมา 2 ใบ และ ม้วนคัมภีร์ก็คลายออกและคืนพลังทั้งหมดให้กับ ป่า
ก่อนม้วนคัมภีร์จะสลายตัวไป

“ ในรอบนี้ ผลของเดวิด ทำงานฉันเลือกให้ เดวิด ไม่สามารถทำการโจมตีได้เหมือนเดิม ”
ลูเซีย ประกาศให้ความสามารถของ เดวิด ทำงานโดยยังคงเล็งผลนั้นไว้ที่ตัว เดวิด เองเช่นเคย

“ Cost Mp 1 ให้ ไข่มังกรในห้องทดลอง ออกมาที่ Df Line ”
การุรุ ประกาศพร้อมกับ โยนการ์ดผนึกซีลออกไป ทันทีที่ ผนึกแตกออก ก็ปรากฏ หลอดทดลอง
ซึ่งเต็มไปด้วย สายไฟที่เชื่อต่อ ระโยงระยางจากฐานของหลอดทดลองออกมา ในหลอดนั้นมี
ไข่มังกรซึ่งหุ้มด้วยคราบมังรลอยตัวอยู่ในน้ำเลี้ยง

รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 0/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 1 Mp 6/7 Shrine 4/6 ]

“ ผลจาก Ability ของ ไข่มังกรในห้องทดลอง ทำงานค่า Cost ในการใช้ Skill ของเผ่ามังกรทั้งหมด
ในสนามจะลดลง 1 เท่านี้ อูเรนโ ก็ไม่ต้องจ่าย ค่า Cost ในการใช้ Skill แล้ว ให้ Skill ของ อูเรนโด้ ทำงาน
ยึดเอาการควบคุมของ เรซ่า มาซะ แล้ว Cost Mp 1 ให้ เรซ่าโจมตี ไปที่ เอลล่า ”

การุรุ ประกาศจบ อูเรนโด้ ก็แผ่รังสี เย้ายวนไปยัง เรซ่า ที่ยืนอยู่ในแนวหน้า จนเธอเคลิบเคลิ้มไปกับการเย้ายวนนั้น
และกางกรงเล็บหันเข้าใส่ เอลล่า ทันที สองสาวต่างประหัตอาวุธเข้าทำร้ายกันเองจนในที่สุดก็แตกสลายไปด้วยกันทั้งคู่

[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 4/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 0 Mp 5/7 Shrine 4/6 ]

“ Cost Mp 2 ให้ ดาร์คเดสทินี่(Dark Destiny) ออกมาที่ Df Line ด้วยผลของ ดาร์คเดสทินี่ ฉันสามารถเอา Mystic ใน Shrine ขึ้นมาได้ใบหนึ่ง ขอเอา คัมภีร์ตราเจ็ดผนึกกลับขึ้นมาและ Cost Mp อีก 2 ร่ายมันออกมาอีกครั้ง ”
การุรุ อัญเชิญ อสูรแมวขนสีดำทึบขึ้นมาในสนามแนวหลัง และเมื่อมันสยายปีกพังผืดของตัวเองออก ก็มีละอองแสงสีดำ
ร่วงโรยลงสู่พื้นสนาม และ ดึงเอา ม้วนคัมภีร์เจ็ดผนึก กลับขึ้นมาจากพื้นสนาม ขณะเดียวกัน การุรุ ก็รับเอา การ์ดคืนจากช่อง Shrine และร่ายมันออกมาพร้อมๆกัน ม้วนคัมภีร์ทำการดูดซับพลังของป่ามากักเก็บเอาไว้อีกครั้ง ทำให้ช่วงเวลาการคงอยู่ของป่ายืดออกไปอีก

รูปภาพ

[Lucia Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 4/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 0 Mp 1/7 Shrine 4/6 ]

“ Turn End ” {และนี่ก็จะเป็นรอบสุดท้ายของเธอด้วย รอบต่อไป ฉันจะให้ ซิลเมเนี่ยนใช้ Skill รักษา Curse ให้กับ เดวิด
และควบคุม อสูร ตัวอื่นของเธอมาสู้แทน เท่านี้เกมก็จบ}
การุรุ ประกาศหมดรอบของตน พร้อมกับ นึกในใจ รอบต่อไป เกมก็จะจบลงโดยที่เค้าเป็นฝ่ายชนะ
แต่ถึงผลจะออกมาแบบนั้น ก็ไม่ตรงกับที่เจ้าตัวต้องการ สิ่งที่หวังไว้ไม่ใช่ชัยชนะจากการดวลในครั้งนี้

แต่เป็นบางสิ่งที่เค้าจะให้ ลูเซีย แสดงออกมาและในตอนนี้เค้าก็ทำใจแล้วว่า มันคงเป็นไปไม่ได้
เมื่อเห็นสีหน้าที่ คร่ำเครียดของ ลูเซีย เมื่อเจอกับการล้อมกรอบของเค้าเข้าไป

{เพื่อที่จะหยุดความขัดแย้งบนโลกนี้ จะต้องมีพลังแห่งความรัก….แต่ว่าความรักเองก็เป็นตัวที่ทำให้เกิดความแตกแยกด้วย
และตอนนี้ทั้งฉัน กับ เกร ก็คงจะคิดผิด ไม่มีใครสามารถสร้างความรักที่แท้จริงที่จะหยุดความแตกแยกได้โดยไม่สร้างความแตกแยกขึ้นมาอีก}
เค้าเริ่มนึกทวนถึงจุดเริ่มต้นทั้งหมดที่มาทำการดวลกับ เธอในวันนี้ ซึ่งมีจุดประสงค์ร่วมกันกับเพื่อนอีกคน

ขณะเดียวกันนั้น ทางด้าน ธนัท ตอนนี้ตรงหน้าเค้าคืออำนาจที่ยิ่งใหญ่ พลังของ อสูรเทพบรรพกาล
ถึง 3 ตนที่กดดันและปิดโอกาสชนะ ของเค้าจนหมด

{สิ่งที่ทำให้เกิดสงครามก็คืออำนาจ แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่จะหยุดยั้งมันได้ก็คืออำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่า นายจะพิสูจน์ให้ฉันเห็นได้ไหมว่าสามารถก้าวข้ามอำนาจ ไปได้ เพื่อที่จะค้นหาคำตอบเหล่านั้น พวกเราถึงได้สร้างชุดการ์ด นี้ขึ้นมา
ชุดการ์ดที่จะสร้างสรรค์ อำนาจอันยิ่งใหญ่}
เกร คิดขณะที่ ยืนรอให้ ธนัท เริ่มรอบการเล่นของตนเสียที ซึ่งก็ล่าช้ามานานแล้ว ที่ตัว ธนัท ยังไม่แม้แต่จะยื่นมือไปแตะสำรับเพื่อจับการ์ดขึ้นมา

{ชุดการ์ดที่จะสร้างสรรค์ ความรักอย่างไม่มีขีดจำกัด}
ความนึกคิดของ การุรุ ที่ซ้อนทับกันขึ้นมา และจุดประสงค์ของพวกเค้าทั้งสองคน นั้นก็ดูจะไม่เป็นไปตามที่ต้องการซักเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ที่ตรงหน้า ของพวกเค้า บุคคลที่ถูกเลือกมา ได้สูญเสียไฟในการต่อสู้ไปหมดแล้ว
แต่แล้ว ก็ยังมีอยู่อย่างหนึ่งที่ทำให้พวกเค้า ไม่คิดว่าการดวลนี้มันได้จบลงแค่ตรงนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา

สิ่งที่ ธนัท และ ลูเซีย แสดงออกมาจากสำรับเพื่อต่อกร กับพลังของพวกเค้า คือความคลางแคลงใจที่ยังอยู่จนถึงตอนนี้
และมันกำลังจะแสดงตัวตนออกมาในไม่ช้า

“ รอบของฉัน….จั่วไพ่!! ”
เสียงของ ทั้งคู่ดังขึ้นสอดประสานอย่างพร้อมเพรียงแม้จะอยู่กันคนละสถานที่หรือคนละเวลาก็ตาม แต่ในตอนนี้สิ่งที่ฉายแววขึ้นมา ในดวงตาของทั้งคู่ คือไฟแห่งการต่อสู้ที่ถูกปลุกให้ลุกโชน ขึ้นอีกครั้ง ทันทีที่ จับการ์ด ซีล ขึ้นมา ซึ่งทั้งสองคนก็
จับการ์ดเป็น ซีลการ์ด 2 ใบ เหมือนกัน

[Grea Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 1 Mp:7/7 Shrine 3/6 ]
[Thanat Status; Hand:Seal 3 ,Mystic 2 Mp:7/7 Shrine 0/4 ]

[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 4/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 0 Mp 1/7 Shrine 4/6 ]

“ ในที่สุดก็ขึ้นมาแล้ว การ์ดที่จะใช้พลิกสถานการณ์ ในทีเดียว ”
ธนัท ประกาศขึ้นมาทันทีหลังจากดูการ์ดที่จับขึ้นมา

{การ์ดที่จะพลิกสถานการณ์ได้ในทีเดียวหรือ ว่าจะจั่วได้ โกลเด้นเฟอร์ แต่ยังไงซะผลมันก็ไม่เปลี่ยนแปลงในทีเดียวหรอก Mystic Cardใบสุดท้ายบนมือของฉันคือ พลองคาเนเลี่ยน(Carnalian, the Wand of Geraldine) ทำให้ อสูรที่ติดตั้งมันไว้ไม่สามารถสั่งโจมตีได้ ถ้าติดให้กับ มันตอนที่ร่ายออกมาเท่านี้นายก็ไม่มีอะไรจะมาเอาชนะฉันแล้ว}

เกร คิดพร้อมกับมองมิสติกการ์ดบนมือด้วยสายตาที่มั่นใจเต็มร้อยว่า ไม่มีอะไรที่จะทำลายกำแพงของอำนาจที่มี
ชื่อว่าความสมบรูณ์แบนี้ได้อย่างแน่นอน

รูปภาพ

“ Cost Mp 2 อัญเชิญ โกลเด้น เฟอร์ กริฟฟิน(Golden Fur Griffin) ออกมาที่ At Line ”
ธนั ทประกาศ พร้อมกับ อัญเชิญ สุดยอดของ เผ่าสัตว์อสูร กริฟฟินซึ่งมีขนสีทองเป็นมันวาว
ขึ้นมาบนพื้นที่

รูปภาพ

“ โกลเด้น เฟอร์ นั้นจะมีค่า At เพิ่มขึ้นเท่ากับจำนวนเผ่า สัตว์อสูร ในสนามของฉันและลดค่า Df ลงตามนั้นด้วย ”
ธนัท ประกาศความสามารถของ โกลเด้นเฟอร์ ได้ไม่ทันไร เกร ก็ฉวยโอกาส ร่ายมิสติกลงมาแทรกทันที

“ Cost mp 2 ให้ Mystic อุปกรณ์ (Relic) พลองคาร์เนเลี่ยน ทำงานติดตั้งให้กับ โกลเด้น เฟอร์ กริฟฟิน อสูรที่ติดตั้งมันจะไม่สามารถ สั่งโจมตีได้ ”
สิ้นคำ พลองเหล็กไม้ ก็ปรากฏขึ้นบนสนามและบัลดาลให้ พื้นดินสูบกลืน เท้าทั้ง 4 ของ กริฟฟินขนทอง ลงไป
จนขยับไม่ได้

[Grea Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 0 Mp:5/7 Shrine 3/6 ]
[Thanat Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 2 Mp 5/7 Shrine 0/4 ]

“ ยังคงสมบูรณ์แบบในทุกสถานการณ์เลยนะ เกร แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้จะผิดจังหวะไปหน่อยนะ เพราะคนที่จธโจมตีจริงๆน่ะไม่ใช่ฉันหรอก ”
กริฟฟิน ขนทอง เปรยขณะที่จมลงเพราะถูกธรณีสูบอยู่นั้น คำพูดของ มันทำให้ เกร นึกเอะใจขึ้นมา
และเมื่อหันไปดู ธนัท ยังทำการอัญเชิญ อย่างต่อเนื่อง อยู่

“ Cost Mp 1 ให้ ซาลามันเดอรี่ดอล ลงในDf Line อีกตัว ”
สิ้นคำ การ์ดผนึกบนมือก็ถูกร่ายออกมา และปรากฏร่างของตุ๊กตามังกร ขึ้นมาอีกตัว

“ และให้ โกลเด้น เฟอร์ กริฟฟิน กับ ซาลามันเดอรี่ดอล เป็นวัตถุดิบในการ Growth Cost Mp 3 ออกมาเลย
มังกรกริฟอัคคี แมนเซเรก(Mansereg, the Fire Dragogriff) ”
ธนัท ประกาศพร้อมกับร่าย การ์ดผนึกออกไปพร้อมๆกันนั้น กริฟฟินขนทอง ก็ยื้อตัวสุดแรงเพื่อให้หลุดจากพันะนาการของ พลองคาเนเลี่ยน จนในที่สุด พลองก็แตกสลายไป และทำให้เท้าทั้ง 4 ข้างหลุดออกจากหลุมดินสำเร็จ
ก่อนจะสยายปีกเตรียมออกบิน ขณะเดียวกัน ตุ๊กตามังกรที่แนวหลังก็ลุกขึ้นเตรียมพร้อมจะกระโดด

และในทันทีที่ การ์ดผนึกที่ร่ายออกมา ดูดเอาบรรยากาศรอบๆจนเกิดเป็นวังวนอากาศอยู่เหนือสนาม
ทั้งสอง ตัวจึงกระโจนเข้าไปยังวังวนนั้น และ รวมตัวเข้าเป็นหนึ่งเดียว ก่อนที่ร่างซึ่งเกิดจากการ
หลอมรวมเป็นหนึ่ง จะปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางวังวนอากาศที่สลายไปในบัดดล

มังกรเกล็ดสีแดงเพลิงแต่มีรูปลักษณ์เป็นกริฟฟิน กรงเล็บแหลมซึ่งร้อนผ่าวไปด้วยอุณหภูมิของร่างกายซึ่งร้อนจัด
จนเกิดเป็นไอแผ่ซ่านออกมา

รูปภาพ

“ การ Growth แห่งสายสัมพันธ์…Contact Growth งั้นเหรอ… ”
เกร เปรยสายตาจับจ้องไปยังร่างของ แมนเซเรก ไม่กระพริบ

………………….
[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 4 Mp:7/7 Shrine 4/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 0 Mp 7/7 Shrine 4/6 ]

“ ให้ ซานดร้า ทำการ Dancing ไปที่ At Line ทำให้ฉันส่ง เดลิเวอร์แบนด์ บนมือเข้ามาในสนามได้เลย ให้
ไคเลอร์ เดลิเวอร์แบนด์ อาเชอร์ (Deliver Band Archer) ออกมาพร้อมจู่โจมที่ At Line ”
ลูเซีย ประกาศพร้อมกับ อัญชิญ มือธนูสาวแห่งเดลิเวอร์แบนด์ ขึ้นมาบนสนาม

รูปภาพ

“ เมื่อ ไคเลอร์ เข้ามาในสนามและมี ธาตุลมหรือ เดลิเวอร์แบนด์ ใบอื่นในสนาม ให้แสดง Mystic Card ที่มี
ชื่อว่า Bow อยู่ด้วยจากสำรับแล้วเอาขึ้นมาไว้บนมือ ฉันเลือก Goddess Bow แล้วสับจากนั้น
จะได้จั่วการ์ดอีก 1 ใบ แล้ว Cost Mp 2 ติดตั้งมันให้กับ ไคเลอร์ ”

ลูเซีย บรรยายความสามารถของ ไคเลอร์ไปด้วยระหว่างที่ หยิบเอาสำรับออกจากช่องที่ปลอกแขนและคลี่หาการ์ดที่ต้องและแสดงมันก่อนจะเก็บไปรวมกับไพ่บนมือ แล้วจึงสับกองสำรับก่อนจะเสียบกลับไป และจับ ซีลการ์ดเพิ่มมาอีกใบเป็นก
ก่อนจะร่าย มิสติกที่หาขึ้นมาออกไปทันที

รูปภาพ

“ และในจังหวะนี้ Cost mp 2ให้ Skill ของ ไคเลอร์ ทำงาน สังเวย Mystic Card ที่ติดชื่อ Bow แล้วทำลาย Mystic Card ใบหนึ่งในสนาม ฉันขอเลือก ทำลาย ป่าทมิฬ Anti-Spell Shoot!! ”
สิ้นคำ ไคเลอร์ ก็ยกคันธนูขึ้นง้างก่อนจะแผลงศรเวทย์ยิงขึ้นไปในอากาศและกระจายตัวตกลงมาเป็นสายฝน
ชำระพลังมนตราของป่าจนในที่สุด ป่าก็สลายตัวไปในพริบตา พร้อมๆกับ คัมภีร์ที่ผนึกพลังของมันไว้

[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 4 Mp:3/7 Shrine 4/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 0 Mp 7/7 Shrine 4/6 ]

“ ไม่ใช่การเล่นผสานที่ซับซ้อนอะไร แต่ใช้การช่วยเหลือเกื้อกูลกันระหว่าง พรรคพวก
เดลิเวอร์แบนด์ด้วยกัน ทำลายกำแพงแห่งป่าของ เราได้ง่ายดายขนาดนี้เชียว ”
การุรุ เปรยด้วยความประหลาดใจ วินาทีเค้าไม่สนเรื่องแพ้หรือชนะแล้ว เพราะคำตอบที่เค้าต้องการ
มันอยู่ตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว

…………………………….

“ พลังของ แมนเซเรก จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนเผ่ามังกรใบอื่นในสนามตอนนี้มี ซาลามันเดอรี่ดอลใบเดียว
จึงเพิ่มขึ้นมา 1 หน่วย และในตอนนี้เอง ก็มี เผ่าสัตว์ อสูรครบ4 ใบในสนามแล้ว ดังนั้นผลของ
เซเบอร์ฮอร์น ก็ทำงานด้วย ”
ธนัท กล่าวพร้อมกันนั้นค่าพลังของ แมนเซเรก ก็เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นไปตามๆกัน

“ ตาฉันออกโรงแล้วสินะ อ้า~~~~วู้วววว ”
หมาเขาดาบ พูดเสียงร่า ก่อนจะหอนเสียงแหลมเพื่อปลุกขวัญกำลังใจให้กับเหล่า สัตว์อสูรทั้งหมดในสนามของเค้า

“ จะเพิ่มค่าAt ให้กับ เผ่า สัตว์อสูรทุกใบสนามตัวละ 1 หน่วยบวกกับของ แบล็กไนท์อีก 1 ก็เพิ่มอีก 2 หน่วย
ดังนั้นค่า At ของ แมนเซเรกจึงเพิ่มขึ้นเป็น 10 หน่วย ”

ธนัท อธิบายในขณะที่ค่าพลังทั้งหมดถูกคำนวณออกมาจนครบแล้ว มังกรกริฟ ก็พร้อมจะต่อสู้

“ Cost Mp 2 โจมตีได้เลย แมนเซเรก และเมื่อ แมนเซเรก โจมตี ก็จเพิ่มค่า At ให้กับตัวเองอีก 2 หน่วยทำให้ค่าพลังของมันเท่ากับ 12 หน่วย โจมตีไปที่ Ziz เลย Flame Crush!! ”
ธนัท ประกาศ มังกรกริฟ ก็โจนทะยานขึ้นไปพร้อมกับห่อหุ้มร่างด้วยเปลวเพลิงที่ลุกโชนขึ้นมาจากร่างกาย
เพราะเลือดในตัวที่เดือดพล่านขึ้นมาจากเดิมที่อุณหภูมิก็สูงอยู่แล้วจึงเกิดเป็นเกราะอัคคีหุ้มร่างไว้
แมนเซเรก พุ่งเข้าใส่ร่างของ เทพอสูรแห่งนภา อย่างไม่หวั่นเกรง

“ ค่าพลังของ Ziz คือ 11 ถึงจะมากกว่าแค่ หน่วยเดียวแต่นายก็ชนะแล้ว ”
เกร พึมพำขึ้นก่อนที่ร่างของ Ziz ซึ่งลุกโชนด้วยไฟจนล้มหงายลงมาและแตกสลายไปต่อหน้าต่อตา

[Grea Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 0 Mp:5/7 Shrine 8/6 ]Lose
[Thanat Status; Hand:Seal 1 ,Mystic 0 Mp 4/7 Shrine 0/4 ]Win


………………………..

[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 4 Mp:3/7 Shrine 4/6 ]
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 0 Mp 7/7 Shrine 4/6 ]


“ ให้ ซิโมเน่ รวมร่างกับ อลิส แล้ว Cost Mp 3 โจมตีไปที่ อูเรนโด้ Cycle of Nature ”
สิ้นคำ อลิส ก็ตามขึ้นมาสมทบกับ ซิโมเน่ ที่แนวหน้า ก่อนทีที่ทั้งสองจะรวมพลังเวทย์ กันสร้างวังวน
พลังงานขึ้นล้อมกรอบร่าง อูเรนโด้ ก่อนจะกลืนหายเข้าไปในวังวนที่บีบตัวแคบลงในที่สุด

[Lucia Status; Hand:Seal 2 ,Mystic 4 Mp:0/7 Shrine 4/6 ]Win
[Garuru Status; Hand:Seal 0 ,Mystic 0 Mp 7/7 Shrine 4/6 ]Lose

……………………………….

ทันทีที่การดวลจบลง ร่างของ อสูรทุกตนในสนามก็คืนกลับเป็นการ์ดทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้น
เกร ก็ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติ่งแต่อย่างใด จน ธนัท อดคิดไม่ได้ว่า เค้า ช๊อค จนหมดสติไปแล้ว
ทว่า

“ Gotcha!! เป็นการดวลที่สนุกมาก ”
เกร พูดเสียงดัง พลางทำมือชี้สองนิ้วปาดปลายผมด้านหน้าออกไปด้านข้างก่อนจะชี้มาที่เค้า
ทำเอา ธนัท นิ่งอ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออกไปเลย ท่ามกลางความเงียบที่เกิดขึ้นนี้ ทั้งสองไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก
จนกระทั่ง

“ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ ไม่ว่าแพ้หรือชนะ ถ้ามันสนุกก็ทำท่าแบบนี้ด้วยก็แล้วกัน ยินดีด้วยนายผ่านแล้ว ”
เกร พูดป่าวๆก่อนจะวางมือลง โดยไม่สนท่าทีของ ธนัท ที่ยืนฟังอยู่เลย

“ แต่ไหงรู้สึกท่ากับคำพูดมันคุ้นๆนะ ”
ธนัท เปรยเสียงเอือมนิดหน่อย ขณะที่เดินตามเข้าไปหาเค้า

“ แล้วก็นี่รับไปสิ รางวัลสำหรับการทดสอบ ”
เกร ยื่น มิสติการ์ดให้กับเค้าใบหนึ่ง เมื่อรับมาอ่านได้ซักพัก ก็โพล่งขึ้นมาอย่าง งงๆ

“ Synchronize Mystic Card เหรอ? ”
ธนัท เปรยอย่างพิศวงกับมิสติกที่ได้รับมา

“ วิธีใช้ฉันจะอธิบายให้ระหว่างที่กลับ…มาสิ ”
เกร พูดพร้อมกับเรียกให้เค้าเดินตามมา

………………………….
……………………………………………..

“ เอาล่ะทีนี้รีบบอกมาเลยว่า ธนัท อยู่ที่ไหนน่ะ! ”
ลูเซีย วิ่งเข้าไปถามเสียงรีบ แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบ ธนัท กับ เกร ก็มาโผล่อยู่ข้างหลัง การุรุ แล้ว และกำลังคุยอะไรกันอยู่
ทุกอย่างทำเอาเธอ งง ไปหมด

“ ถ้างั้นก็ลากันแค่นี้ล่ะนะ ”
เกร พูดก่อนจะเดินจากออกไป โดยมีการุรุ ที่เดินตามไปด้วยเงียบๆ ทิ้งให้เธอ ยืนงง อยู่คนเดียวในขณะที่
ธนัท ยังรู้สึกคาใจอะไรบางอย่างอยู่เสียมากกว่า ระหว่างนั้นเอง เธอหันไปมอง ธนัท เพื่อจะถามแต่ก็เปลี่ยนใจเมื่อ
เห็นว่าแม้แต่เค้าก็ยังเหม่อ อยู่เลย

“ เอ๊ะ การ์ดใบนี้มัน? ”
ลูเซีย เปรยเมื่อเธอไปสบเข้ากับ การ์ดซีล ใบหนึ่งซึ่งตกอยู่บนพื้น เธอก้มลงไปเก็บอย่างไม่ทันคิดใดๆ
และพลิกมันขึ้นมาดู ด้วยความอยากรู้ ภาพบนการ์ดเป็น ภาพของ อสูรที่เธอรู้สึกคุ้นตามาก่อน
ไม่นานเธอก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่ดวลเพื่อช่วย อิส ให้พ้นจากการควบคุมขึ้นมา

รูปภาพ

“ Feint….การ์ดใบนี้มัน ”
ลูเซีย เปรยเสียงเรียบ มือของเธอเย็นเชียบปานน้ำแข็งขึ้นมาแทบจะทันทีทั้งที่ อากาศภายในอาคาร
ยังไม่ได้เย็นถึงขนาดนั้น แต่ทั่วร่างของ กลับเย็นเฉียบจนเสียวสันหลัง

“ โทษทีนะ ขอการ์ดคืนด้วย ”
เสียงดังแว่วขึ้นมาทำเอาเธอสะดุ้งโหยง หน้าซีดเหมือนเห็นผีไปเลย

“ ทำตกเอาไว้ตอนไหนก็ไม่รู้ ขอบใจนะที่เก็บให้ ”
เกร พูด โดยที่การ์ดในมือของเธอไปอยู่ในมือเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่ เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

“ งั้นเราไปล่ะนะ บาย~~~ ”
การุรุ พูดจบก็ไม่รีรอ ที่จะให้เธอได้ถามอะไร ชิงผลักให้ เกร รีบเดินหนีไปทันที
ธนัท เองก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่หันมามองด้วยความสนใจนิดหน่อย

{นี่หรือว่า เรื่องเมื่อตอนนั้นมันจะไม่ใช่ความฝันจริงๆ….นี่มันยังไงกันแน่}
ลูเซีย คิดวูบหนึ่งที่ความกลัวแล่นผ่านขึ้นไปถึงสมองและทำให้ประสาทรับรู้ของเธอ เป็นอัมพาตไปชั่วขณะ
จนไม่รู้ตัวเลยว่า ทั้งสองคนได้เดินจากหายลับไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้แล้ว

………………………………….
………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………

หลังตะวันคล้อยดิน ความมืดยามราตรีก็มาเยือน แสงไฟนับพันๆล้านดวงในตัวเมือง ทยอยส่องแสง
ต้อนรับค่ำคืนอันแสนยาวนาน

บ้าน ธนัท

“ เฮ้อ~~~ น้ำอุ่นสบายตัวสุดๆเลย เอ้าห้องน้ำว่างแล้วนะ โคทาโร่ ”
ธนัท เปรยเสียงใส พร้อมกับ เรียกให้ โคทาโร่ ที่ยังนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่บน โต๊ะทำการบ้านข้างโต๊ะของเค้า
โดยที่บนโต๊ะนั้น การ์ดในสำรับทั้งหมดของ โคทาโร่ ถูกวางแยกกระจัดกระจายไปทั้งโต๊ะ

“ กำลัง ปรับสำรับอยู่รึไงน่ะ ถึงได้ขมวดคิ้วจนพันกันหมดแล้วแบบเนี้ย ถ้ายังไงให้ฉันช่วยเอาเปล่า ”
ธนัท ถามด้วยความสนใจ พร้อมกับเดินยื่นหน้าเข้าไปดู

“ ว่าไปแล้วสำรับนายเนี่ยมันแปลกๆนะ ”
ธนัท เอ่ย ทำให้เค้าหันมามองด้วยความสงสัย

“ ท…ทำไมเหรอ ”
โคทาโร่ ถาม

“ ก็สำรับ นี้น่ะคีย์หลักโดยส่วนใหญ่แล้วคือ เผ่านักสู้ ที่ถนัดการโจมตีต่อเนื่อง แล้วนั่นก็น่าจะเป็นรูปแบบหลักนี่นา
แต่ไหงตอนนายดวลทีไร ไม่เคยเห็นจะใช้รูปแบบพวกนั้นเลย แถม Seal ที่เลือกมาประกอบสำรับ
มันก็ดูมั่วๆอีกฉันล่ะนับถือนายเลยนะเนี่ยที่เล่นสำรับมั่วๆขนาดนี้แล้วยังเป็นถึง Pawn of Checkmate Five ได้เนี่ย ”

ธนัท พล่ามเอาๆ โดยไม่ทันสังเกตุเลยว่า แต่ละคำพูดนั้นแทงเสียดบาดซะจน เค้าหมอบไปแล้ว

“ ใช่สิ…ฉันมันมั่วซั่วสุดๆเลย เคนก็ไม่ใช่หมาเชิง ฉันนี่มันมั่วจริง~~~จริง~~~…ขอโทษที่เกิดมา ซิกๆ ”
เสียงยานคางหมดหวังในชีวิต อย่างขีดสุด โหยหวนออกมา

“ แว๊ก!!!เดี๋ยวววววว ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างน้านนนนนน~~~ ”
…………………………………………………………………..
กรุณา รอซักครู่
……………………………………………………………
ติ๊ง!
……………..

“ งั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ ”
โคทาโร่ พูดเสียงเนือยๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป

“ เฮ้อ~~ กว่าจะปลอบอยู่ ”
ธนัท ถอนหายใจ ก่อนจะล้มตัวลงบนเตียงคิดทบทวนเรื่องต่างๆที่เจอมาในวันนี้

“ Contact Growth งั้นเหรอ…. ”

………………………………………………………
…………………………………..

{นี่แม้แต่ นายเองก็ยังดูออกเลยเหรอเนี่ย ถึงความไม่เอาแน่เอานอนของ สำรับฉัน….}
โคทาโร่ คิดขณะที่เดินลงบันได ไปชั้นล่าง ก่อนจะเลี้ยวเข้าห้องน้ำที่อยู่เยื้องบันไดไป 2 ห้อง

{ใช่แล้ว……สำรับของเราถูกคั่นกลางไว้ ระหว่าง ปีศาจ กับ มนุษย์ เพราะเลือกไม่ได้ว่าจะลืมความเป็นคนในอีกครึ่งแล้วกลายเป็น DNA-Changer เต็มตัว หรือจะละทิ้งตัวตนแล้วฝืนเป็น คนต่อไป}
ตอนนี้ เค้าปิดประตูห้องจนมิดชิดแล้ว ภายในห้องนอกจากเค้าแล้วก็ไม่มีใครอื่นอีก เค้าเดินตรงไปที่
ชั้นราวพาดผ้า ซึ่งแขวนเสื้อที่ใช้แล้วของทุกคนที่จะเปลี่ยนทิ้งไว้ตรงนี้สำหรับกองไปซักที่เดียว

{เพราะงั้นเราถึงได้ถอดเขี้ยวออกแล้วเอามาแค่พลังอย่างเดียว ถึงอย่างนั้นแล้ว…..}
เค้าคิด พร้อมล้วงมือลงไปในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะหยิบเอาซีลการ์ดที่พกติดมาด้วยก่อนออกจากห้องใบหนึ่งขึ้นมา

“ แล้วทำไมเขี้ยวใหม่มันถึงได้งอก ออกมาอีกกันนะ…… ”
โคทาโร่ เปรยสายตาของเค้านั้นจ้องไม่กระพริบและไม่อาจละไปจาก ภาพบนการ์ดผนึกนั่นได้
การ์ดผนึกที่ซึ่ง ร่างของ เทพอสูรเลราเย่ หลับไหลอยู่
…………..
……………………………………..



………………………………………………………………….
To be Continue
……………………………………………………………………..



ธนัท:ไอ้ท่าที่ เกร ทำวันนี้เนี่ยทำไมฉันถึงได้คุ้นๆยังไงอยู่น้า~~~ไหนลองทำดูดีกว่า Gotcha!!
โคทาโร่:นั่นนายทำบ้าอะไรของนายล่ะเนี่ย - -*
ลูเซีย:เรื่องนั้นมันไม่เห็นจะสำคัญตรงไหน แล้วไหงพอกลับมาบ้านแล้ว ฉันถึงไม่มีบทเลยละเนี่ย !!
ธนัท: นั่นไม่เห็นจะสำคัญตรงไหนเลย อีกอย่างภาคนี้เธอก็ไม่ได้เป็นตัวหลักแล้วนา
ลูเซีย:ว่าไงนะ! นี่นายจะหาเรื่องรึไงเนี่ย
โคทาโร่:โอ๊ย พวกนายเลิกบ้ากันซักทีได้ไหม!! เดี๋ยวเวลาก็หมดกันพอดี ไม่รงไม่รอมันแล้ว
ลูเซีย & ธนัท:อ๊า~~เดี๋ยวสิ !!!
โคทาโร่:ตอนต่อไป Sub-Turn 21 Fang of King (เขี้ยวของราชันย์) ตอนหน้าฉันได้เป็นตัวเอกด้วย อย่าลืมดูกันซะล่ะ
ธนัท:อ้าวแล้วตัวเอกไม่ใช่ฉันเรอะ เดี๋ยวมาเคลียก๊อน!!!
………….จบจ๊ะ………..

Card Pop!!

Mansereg, the Fire Dragogriff

รูปภาพ

Type: beast dragon Mp: 3 / 2 Lv: 3 Rarity: special
At: 7 Df: 6 Sp: 3 Element: fire
+[Fire] Flare Breath At 8 Mp 3
+[Fire][Dark] Feral Flare At 10 Mp 4
Ability:
เมื่อ Mansereg, the Fire Dragogriff โจมตี Mansereg, the Fire Dragogriff At +2 จนจบ Subturn
ขณะที่ Mansereg, the Fire Dragogriff ต่อสู้กับ [Water] Mansereg, the Fire Dragogriff At -2
Growth Condition: [Dragon] ธาตุ [Fire] + [Beast]
Ability Growth:
Mansereg, the Fire Dragogriff +At ตามจำนวน [Dragon] ใบอื่นในสนาม


ช่วงสครีมนะเวลานี้ช่างเงียบเหงาเอย จนแทบไม่มีอะไรจะพูดนอกจาก คำถามต่อไปนี้เพียงคำถามเดียว
คิดไงกับ Generation ใหม่ของ SMN VR TAG TURN บ้าง ทั้ง OP และ ED ใหม่ที่รอบนี้เราปรับให้มันไม่ออกทะเล
จากการ์ดเกินไป หน่อย และการ์ดบอกตัวอย่างตอนต่อไปที่เอิ่ม ค่อนข้างจะคลุมเคลือขึ้น ล่ะมั้งครับ (ฮา)
ช่วงนี้โรงเรียนก็ใกล้จะเปิดกันอีกแล้ว(ม.ผมก็ใกล้เปิดเหมือนกันต้องย้ายของอีกละT_T)
สรุปวันนี้คนเขียนก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว ดวลกับ ธนัท แพ้แบบราบคาบเลย จะเรียกพวก สามอสูร
มาทำไมเนี่ยยังไม่ทันได้ใช้ เยยแพ้แย้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Wargreamon เมื่อ จันทร์ เม.ย. 11, 2011 7:25 pm, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Wargreamon
0
 
โพสต์: 224
Cash on hand: 250.00

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย Leraje เมื่อ เสาร์ พ.ค. 15, 2010 8:47 pm

โอ้ว มาแล้ว อ่านต่อๆ

::011::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Leraje
0
 
โพสต์: 915
Cash on hand: 1,150.00

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย MetalGaruruMoN เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 16, 2010 3:39 pm

บทนี้คนอ่านคุ้มเกินคุ้ม จริงๆ ได้ดูการดวลถึง 2 คู่พร้อมกันในตอนเดียว ว่าแต่ทุกคนคิดไงกะคอมโบ
มังกรน้ำไฟ-ไฟน้ำ ของ เจ๊บ้างเนี่ย สมัย Drago 2 ออกใหม่ๆ เล่นอยู่ขอบอกว่าป่วน เกรม่อนคุง ได้ชะงัด
แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เกรม่อนคุงเล่นบีส อ่า ขยายเสร็จตบไม่เลี้ยงเลย การ์ดถ่วงเกมสมัยนั้นๆ ต้องใช้ ระฆังช่วยยืด

ถ้าระฆังไม่ขึ้นก็ซวยโดนตบตั้งไม่ทัน พอมาสมัยนี้การ์ดหนุนมันเยอะจริงๆ อย่างของ ซอง Revelation เนี่ย
มีคัมภีร์เจ็ดตราช่วยยืด กับเชิงเทียนช่วยหา อีก เสียดายเชิงเทียนไม่ได้ออกในนิยายด้วย เพราะการ์ดบนมือจั่วมาไม่ทัน
::023::

Deck ของเจ๊นี่จุดอ่อนใหญ่สุดคงไม่พ้นเรื่อง การผลาญจำนวนการ์ดบนมือนี่แหละ กว่าจะตั้งได้ต้องรอกันที 3-4 Turn
ที่จริงคอนเซป Deck ไม่ได้ เล่นแนว Charm อย่างเดียวหรอก แต่เล่นแบบป่วนเกม ก๊อป Skill ชาวบ้านเค้ามายิงเล่น
กับ หา Curse ยิงใส่ตัวเองแล้วปั้มพลังด้วยสกิลรักษา แหม่ไปมาๆ กลายรีวิว Deck ตัวเองตั้งกะเมื่อไหร่เนี่ย

หวังว่าจะได้ออกอีกนะสำรับเนี้ย ยังเหลือลูกเล่นอีกเพียบเลย

ปล.ทำ OP กับ Ed กันเอง 2 คน โคตรลำบากเลย พวกฝ่ายทำเฉพาะกิจ มันทำไปได้ไงนิ
ปล.2 ท่า Gotcha ในตำนานนี่มัน.......เอิ่ม ที่จริง เกรม่อนคุง เวลาเล่นพอจบเกมทีไร ทำแบบนี้ทุกทีด้วยสิ
ว่าแล้วมันต้องมาจากเรื่องอะรไซักเรื่องแน่ๆ เหอๆ ธนัท ถ้าแกบ้าจี้ทำตามจริงๆ มนต์วิทยา
คงต้องเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น ดูเอลอคาเดมี่ ซะล่ะมั้ง

โอ้ แจ๊กพ๊อตแตกอีกแล้ว อาจารย์รัตนชา เป็น โครนอส (ด้วงกับ เอนเชี่ยนเกียร์โกเล็มเนี่ยนะ ::003:: )


ปล.3 ดูเหมือนบทจะโคลงเคลงๆ ตอนนี้มีร่างโคลนของ แขกรับเชิญเพิ่มา 2 รายแล้ว เผามังทั้งชื่อจริงชื่อ User เลย
เหอๆ แถมมีรายหนึ่งมาเพิ่มเป็นตัวหลักด้วยสิ (มีแต่ชื่อ User แหละที่ได้เป็นตัวหลัก B.. กับ Kon... ใครกันหนอ เหอๆ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
MetalGaruruMoN
0
 
โพสต์: 75
Cash on hand: 50.00

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย boy เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 16, 2010 6:21 pm

....Gotcha!!
....ED แบบนั้น....ที่เรียงๆการ์ดมานั่น...
Yugioh! GX =A=
ภาพประจำตัวสมาชิก
boy
0
 
โพสต์: 2105
Cash on hand: 3,250.00
ที่อยู่: Golden Land

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย Palmon เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 16, 2010 6:58 pm

boy เขียน:....Gotcha!!
....ED แบบนั้น....ที่เรียงๆการ์ดมานั่น...
Yugioh! GX =A=



อ่า.......ใช่ค่ะ ประมาณนั้นเลย เพราะตอนแรกที่ทำ Op ใช้ไอเดียไปหมดแล้ว เลยไม่รู้จะเอาความคิดไหนมารังสรรค์ แล้วอ่ะค่ะ ::023:: เพราะเดิมทีก็ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านนี้อยู่แล้ว(ไอ้พวกที่ทำได้ก็พึ่งไม่ได้อีก เฮ้อ~~) ก็เลยไหนๆแล้ว
เอา ED ของ GX มารีเวอร์ชั่นเป็น SMN ซะเลย แหะๆ

ปล.จะว่าไปช่วงนี้มุกแซวยูกิ เย้อเยอะ ยิ่งตอนนี้นอกจาก Gotcha ยังมี Contact Growth อีกด้วยเอาเข้าไป
ดราโกกริฟเป็น เนออส เรอะ!! ::036::
Palmon
0
 
โพสต์: 33
Cash on hand: 50.00

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย Konflyctus MX เมื่อ จันทร์ พ.ค. 17, 2010 8:11 am

boy เขียน:....Gotcha!!
....ED แบบนั้น....ที่เรียงๆการ์ดมานั่น...
Yugioh! GX =A=


ท่านพี่กลายเป็นจูไดไปแล้วเรอะ!!!

Cocka-C เขียน:บทนี้คนอ่านคุ้มเกินคุ้ม จริงๆ ได้ดูการดวลถึง 2 คู่พร้อมกันในตอนเดียว ว่าแต่ทุกคนคิดไงกะคอมโบ
มังกรน้ำไฟ-ไฟน้ำ ของ เจ๊บ้างเนี่ย สมัย Drago 2 ออกใหม่ๆ เล่นอยู่ขอบอกว่าป่วน เกรม่อนคุง ได้ชะงัด
แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เกรม่อนคุงเล่นบีส อ่า ขยายเสร็จตบไม่เลี้ยงเลย การ์ดถ่วงเกมสมัยนั้นๆ ต้องใช้ ระฆังช่วยยืด

ถ้าระฆังไม่ขึ้นก็ซวยโดนตบตั้งไม่ทัน พอมาสมัยนี้การ์ดหนุนมันเยอะจริงๆ อย่างของ ซอง Revelation เนี่ย
มีคัมภีร์เจ็ดตราช่วยยืด กับเชิงเทียนช่วยหา อีก เสียดายเชิงเทียนไม่ได้ออกในนิยายด้วย เพราะการ์ดบนมือจั่วมาไม่ทัน
::023::

Deck ของเจ๊นี่จุดอ่อนใหญ่สุดคงไม่พ้นเรื่อง การผลาญจำนวนการ์ดบนมือนี่แหละ กว่าจะตั้งได้ต้องรอกันที 3-4 Turn
ที่จริงคอนเซป Deck ไม่ได้ เล่นแนว Charm อย่างเดียวหรอก แต่เล่นแบบป่วนเกม ก๊อป Skill ชาวบ้านเค้ามายิงเล่น
กับ หา Curse ยิงใส่ตัวเองแล้วปั้มพลังด้วยสกิลรักษา แหม่ไปมาๆ กลายรีวิว Deck ตัวเองตั้งกะเมื่อไหร่เนี่ย

หวังว่าจะได้ออกอีกนะสำรับเนี้ย ยังเหลือลูกเล่นอีกเพียบเลย

ปล.ทำ OP กับ Ed กันเอง 2 คน โคตรลำบากเลย พวกฝ่ายทำเฉพาะกิจ มันทำไปได้ไงนิ
ปล.2 ท่า Gotcha ในตำนานนี่มัน.......เอิ่ม ที่จริง เกรม่อนคุง เวลาเล่นพอจบเกมทีไร ทำแบบนี้ทุกทีด้วยสิ
ว่าแล้วมันต้องมาจากเรื่องอะรไซักเรื่องแน่ๆ เหอๆ ธนัท ถ้าแกบ้าจี้ทำตามจริงๆ มนต์วิทยา
คงต้องเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น ดูเอลอคาเดมี่ ซะล่ะมั้ง

โอ้ แจ๊กพ๊อตแตกอีกแล้ว อาจารย์รัตนชา เป็น โครนอส (ด้วงกับ เอนเชี่ยนเกียร์โกเล็มเนี่ยนะ ::003:: )


ปล.3 ดูเหมือนบทจะโคลงเคลงๆ ตอนนี้มีร่างโคลนของ แขกรับเชิญเพิ่มา 2 รายแล้ว เผามังทั้งชื่อจริงชื่อ User เลย
เหอๆ แถมมีรายหนึ่งมาเพิ่มเป็นตัวหลักด้วยสิ (มีแต่ชื่อ User แหละที่ได้เป็นตัวหลัก B.. กับ Kon... ใครกันหนอ เหอๆ)


แล้วมันใครกันละเน้อ...

ปล. ไปขุดชื่อมาจากไหนกันละนั่น ไม่เคยบอกสักหน่อยว่า MX = Mystalgix หรือ Mystalgikus
Konflyctus MX
0
 
โพสต์: 201
Cash on hand: 250.00
ที่อยู่: ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย Wargreamon เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ค. 20, 2010 12:07 pm

^
^
^
คำพูดของเจ้าการุรุม่อน ถ้าเจมส์ ดู op ใหม่แล้วเจมส์จะเข้าใจ บอกได้แค่นี้แหละเหอๆ (ให้ดูตรงฉากแนะนำตัวละครตัวที่สองผมสีฟ้าๆโพกผ้าคาดหัวสีแดง และมีหนูอยู๋ 6 ตัว)

กะว่าจะบอกแบบนี้แต่สงสัยไม่ทันแล้ว (พึ่งสังเกตเห็นตัวอักษรเนียน) ก็เห็นชื่อข้างล่าง Sig อ่ะ อุแหม่แต่ได้ออกใน op เชียวนา
เหอๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Wargreamon
0
 
โพสต์: 224
Cash on hand: 250.00

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย Konflyctus MX เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ค. 20, 2010 4:42 pm

Wargreamon เขียน:^
^
^
คำพูดของเจ้าการุรุม่อน ถ้าเจมส์ ดู op ใหม่แล้วเจมส์จะเข้าใจ บอกได้แค่นี้แหละเหอๆ (ให้ดูตรงฉากแนะนำตัวละครตัวที่สองผมสีฟ้าๆโพกผ้าคาดหัวสีแดง และมีหนูอยู๋ 6 ตัว)

กะว่าจะบอกแบบนี้แต่สงสัยไม่ทันแล้ว (พึ่งสังเกตเห็นตัวอักษรเนียน) ก็เห็นชื่อข้างล่าง Sig อ่ะ อุแหม่แต่ได้ออกใน op เชียวนา
เหอๆ


ตอนเปิด op ดูแล้ว มีเหวอจริงๆ ด้วยยยยยย

มันจะเด่นเกินหน้าแขกรับเชิญคนอื่นอ๊ะป่าว~
Konflyctus MX
0
 
โพสต์: 201
Cash on hand: 250.00
ที่อยู่: ที่ไหนสักแห่งบนโลกนี้

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย Palmon เมื่อ พฤหัสฯ. พ.ค. 20, 2010 5:43 pm

Konflyctus MX เขียน:
Wargreamon เขียน:^
^
^
คำพูดของเจ้าการุรุม่อน ถ้าเจมส์ ดู op ใหม่แล้วเจมส์จะเข้าใจ บอกได้แค่นี้แหละเหอๆ (ให้ดูตรงฉากแนะนำตัวละครตัวที่สองผมสีฟ้าๆโพกผ้าคาดหัวสีแดง และมีหนูอยู๋ 6 ตัว)

กะว่าจะบอกแบบนี้แต่สงสัยไม่ทันแล้ว (พึ่งสังเกตเห็นตัวอักษรเนียน) ก็เห็นชื่อข้างล่าง Sig อ่ะ อุแหม่แต่ได้ออกใน op เชียวนา
เหอๆ


ตอนเปิด op ดูแล้ว มีเหวอจริงๆ ด้วยยยยยย

มันจะเด่นเกินหน้าแขกรับเชิญคนอื่นอ๊ะป่าว~


คือจริงๆตอนแรก กะว่าจะยัดแขกท่านอื่นลงไปด้วยแต่ปรากฏว่า ตอนทำกับออกแบบตัวละครมันทำไม่ทันน่ะค่ะ T_T
ทำของ มิสคุงเสร็จแค่คนเดียว ของ ผักคุงจริงๆออกแบบเป็น DNA-Changer จิงโจ้เอาไว้แล้วล่ะ แต่ไม่รู้เป็นบ้าอะไร

ตอนการุรุม่อนเซนไป จัดเข้าฉาก ดันลืมเอา ผักคุงยัดลงไปด้วย ส่วนที่ มิสคุงโผล่มาแล้วมีแนะนำตัวร่วมกับ 2 ตัวเอก
เลยกลายเป็นตัวเอกตัวที่สามน่ะมันไม่ใช่หรอกเค่อะ เพียงแต่ เซนไป เค้าทำฉากนั้นสำหรับคู่ที่จับให้วาย
กัน(แน่นอน เค้ามีคู่กันอยู่แล้วดังนั้น มิสคุงคือมือที่สาม แฮ่ๆ)

ส่วนเกรม่อนคุงไม่ได้เข้ามาดูแลตรงส่วนนี้ Op นี้มันเลยออกมารั่วๆอย่างที่เห็น (แต่เจ้าตัวบอกว่าดีกว่าของเก่าสองอันนั้น มันเลียนแบบกันดั้มเกิน จับไปคอสชุดมั่วซั่วไปหมด รอบนี้เลยให้ติดดูเอลดิสใหม่ไปด้วยเลย)

ส่วน Ed พัลม่อนจัง ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ นอกจากจะขอโยนความผิดไปที่การุรุม่อนเซนไป ที่ดันหัวทึบไม่มีสมองออกแบบ!!! ว้ากกก
(เหลือบซ้ายขวา ไม่มีใครอยู่ โอเค ต่อๆ)


ส่วนวาการุรุคุง ที่ปกติจะรับหน้าที่ สแกนการ์ดกับทำฉาก รอบนี้แค่นั่งสแกนการ์ดเองโดยไม่หวังพึ่งการ์ด จากดาต้าเบส
ก็แสกนจนมือหงิกไปข้างเหอๆ ใช้การ์ดเยอะมาก(เปลืองเพราะ Ed เป็นเหตุ)

ดังนั้นขอสรุปที่บ่นมาเลยแล้วกันนะคะ มิสคุง กำลังจะออกมาในอีกไม่กี่ตอนข้างหน้านี่ล่ะค่ะ
Palmon
0
 
โพสต์: 33
Cash on hand: 50.00

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย kira เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 21, 2010 12:24 am

มาเป็นกำลังใจให้ครับ คนแต่งพยายามสุดๆ ถึงผมจะไม่เคยอ่านก็เหอะ ::022:: เดี๊ยวถ้ามีเวลาจะมาอ่านนะครับ

ปล.เล่น ECO เซิฟไรหรอครับ ::022::
ภาพประจำตัวสมาชิก
kira
0
 
โพสต์: 269
Cash on hand: 610.00

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย boy เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 21, 2010 7:21 am

^
^
ถ้ามีเวลาว่างๆหน่อย แนะให้อ่าน(ตั้งแต่ภาคแรก .//โดนตบ) เลยครับ
แล้วคุณจะสัมผัสถึงกลิ่นอายแฟนตาซีแฟนฟิคที่สนุกมากๆเรื่องหนึ่งเลยครับ ::030::

ส่วนผัก....อ่า จิงโจ้ O_o
OMG! ผักจะหน้าตายังไงเนี่ย (ฮา)
ภาพประจำตัวสมาชิก
boy
0
 
โพสต์: 2105
Cash on hand: 3,250.00
ที่อยู่: Golden Land

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย Wargreamon เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 21, 2010 10:07 am

อยู่ ทาโกะยากิ คร้าบ Kira ซัง แต่หลังๆไม่ค่อยได้เข้าไปเล่นนี่สิ เข้าไปส่งเควสเสร็จก็ถอยออกมาเลย เหอๆ

ขอบคุณสำหรับแรงใจนะคร้าบ จะพยายามต่อๆไปให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้ จนกว่าเราจะทำอนิเมชั่นได้(คงจะมีวันนั้นหรอกนะ ::023:: )
ภาพประจำตัวสมาชิก
Wargreamon
0
 
โพสต์: 224
Cash on hand: 250.00

Re: SMN VR TAG TURN!!:Up Sub-Turn 20 Contact Growth

โพสต์โดย Palmon เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 21, 2010 4:25 pm

ช่วงวันก่อนนี้ เพราะช่อง 3 ล่มเลยไม่มีละครให้ดู ระหว่างที่ไม่มีอะไรทำอยู่เลยแวบเปิดไปดู ช่องทรูสปาร์ค ยูกิโอ จีเอกซ์ กำลังฉายพอดี แล้วก็ไปจะ๊เอ๋ เข้ากับตัวละครตัวหนึ่งในเรื่องพอดี ซึ่งรู้สึกว่ามันคล้ายกันมากๆ (อีกแล้ว) กับตัวละครใหม่ของเราบางตัวเนี่ยสิคะ
ว่าแล้วตัวไหนหรือไปดูกันเลยค่ะ





ตัวคาแรกเตอร์ของ มิสคุง(MX)

รูปภาพ

ส่วนนี่ โยฮันคุง จาก จีเอกซ์

รูปภาพ


เทียบกันเอาแล้วคิดว่าไงดีคะเนี่ย แค่คล้ายๆเนอะ เนอะ(พยายามแถสุดขีด ถึงกลัวความจะแตก แต่อยากประจานอ่ะ)
นี่ถ้าบทกำหนดออกมาแล้วมันเป็น 1 ในตัวเอกชาายด้วยอีกคนเท่ากับว่า สมการ ธนัท X โคทาคุง จะมลายสิ้นแล้วกลาย
ธนัท X มิสคุง หรือมันเท่ากับ จูได X โยฮัน นั่นเอง ซึ่งจากสมการดังข้างต้นจึงอนุมานได้ว่า
ธนัท = จูได โดยสมบรูณ์แบบไปแล้ว(นี่ฉันพล่ามอะไรเนี่ย)


ตกลงมันยังเกี่ยวกับ มิสคุง ไหมเนี่ย หรือว่าจะพิสูจน์ว่า จูได เป็น ธนัท เอ้ย ธนัท เป็น จูได กัยหว่า ช่างเห๊อะ
ที่วันนี้ดอดเข้ามาตอบกระทู้ไม่มีอะไรหรอกค่ะ บังเอิญ การุรุ เซนไป ใช้มา

เพราะมีคนถามมาว่า ตอนท้ายๆ op เห็นอะไรคล้าย เอกซ์โซเดีย(Exodia) ซึ่งไอ้ เอกซ์โซเดีย นี่มันคืออะไร พัลม่อน เองก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ แต่เห็น เซนไป บอกว่ามาจาก ยูกิโอ เลยเอาไปค้นดูใน อากู๋(Google) แล้วถึงมารู้ว่า เอกซ์โซเดีย เนี่ย

ตามกฏการ์ดยูกิโอ ถ้ารวมครบ 5 ชิ้นแล้วจะชนะในเกมเลย ซึ่งตรงนี้ พัลม่อนเอง ค่อนข้างแน่ใจแล้วล่ะ ว่าทำไม Season นี้
เกรม่อนคุง ต้องเปลี่ยนชื่อภาคเพิ่มเป็น Turn ด้วย บทกลับตาลปัตรหมดเลย Turn(เปลี่ยน)จริงๆด้วย O_0!

ว่าแล้วก็จะเอาการ์ด ที่เราลงไว้ตอนช่วงท้ายของ op ให้ดูนะคะ แต่คงต้องเพ่งกันหน่อยล่ะค่ะ ไม่มีปัญญาขยายภาพเอง เหอๆ


รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ
Palmon
0
 
โพสต์: 33
Cash on hand: 50.00

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง SMN FanCard FanArt & FanFic

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 26 ท่าน