Chapter11 กรีฑาทัพ
เมื่อพิธีบวงสรวงจบลง และบรรดาผู้คนต่างพากันพักผ่อนในที่พักของตนจนหมดแล้ว ที่กระท่อมหลังใหญ่ใจกลางเผ่าฟูดินันอันเป็นที่พักอาศัยของครอบครัวบันดารา ซึ่งบัดนี้ดูแน่นขนัดด้วยบรรดาผู้เฒ่าผู้แก่และผู้นำจากเผ่าต่าง ๆ ที่มาร่วมงานบวงสรวง ทุกคนนั่งล้อมกันเป็นวงใหญ่ ต่างก็พากันสงสัยที่วูจินเรียกพวกตนมาประชุมอย่างกะทันหันในยามวิกาลเช่นนี้ วูจินกระซิบเสียงเบากับฮารีซันซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ ตน
“วานาอันล่ะ?”
“หลับแล้วครับท่านปู่”
วูจินยิ้มน้อย ๆ พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ เมื่อผู้เฒ่าคนสุดท้ายเดินเข้ามาร่วมวง วูจินจึงเริ่มกล่าวขึ้น “สหายและพี่น้องทั้งหลาย ข้าต้องขออภัยที่รบกวนเวลาพักผ่อนของพวกท่าน แต่ทั้งนี้ก็เพราะข้ามีข่าวสำคัญจะต้องแจ้งให้พวกท่านทราบโดยเร็วที่สุด”
“เรื่องอะไรรึ? ท่านวูจิน” ผู้เฒ่าคนหนึ่งซึ่งอ่อนเยาว์กว่าวูจินเล็กน้อยพูดขึ้น
“เมื่อเช้านี้มีผู้พบเทพแองโกริออน” ทันใดก็มีเสียงพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ดังกระจายไปทั่วบริเวณห้องนั้น
“ท่านร้องหรือคำราม” หัวหน้าเซนทอร์ดูเหมือนจะตั้งสติได้ก่อน เอ่ยถาม
“ท่านนิ่งเงียบและเดินจากไป” วูจินตอบสีหน้าเรียบเฉย ในขณะที่บรรดาผู้เฒ่าผู้แก่ต่างมีสีหน้าตกใจ บางคนก็ขมวดคิ้วสงสัย ต่างถกเถียงวิเคราะห์สถานการณ์กันไปต่าง ๆ นานา
“มันหมายความว่าอย่างไรครับท่านปู่?” ฮารีซัน ถามอย่างสงสัยใคร่รู้
“นั่นสิท่านผู้เฒ่า หากแองโกริออนร้องหรือคำราม ข้ารู้ว่าหมายถึงอะไร? แต่การนิ่งเงียบแบบนี้ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน” ดามิก้ากล่าวเสริมขึ้น
“เหตุการณ์นี้ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น เมื่อสมัยพวกเจ้ายังเด็กก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเหมือนกัน ครั้งนั้นหลังจากเทพแองโกริออนปรากฎตัวและหายไปอย่างเงียบเชียบ เพียงไม่กี่อาทิตย์หลังจากนั้นก็เกิดสงครามระหว่างเผ่าขึ้น ฟูดินันตกเป็นเป้าหมายสำคัญเพราะความที่เป็นเผ่าใหญ่ที่สุด เราถูกโจมตีอย่างหนักจนในที่สุดชาวบ้านถูกเข่นฆ่าล้มตายมากมาย แม้แต่ปู่ก็ต้องเสียลูกชายที่รัก...พ่อของเจ้าไปก่อนที่น้องของเจ้าจะได้ลืมตาออกมาดูโลกเสียอีก” วูจินพูดด้วยสีหน้าสลดลง
“หมายความว่าจะเกิดสงครามระหว่างเผ่าอีกหรือ?” หัวหน้าเซนทอร์ถามเสียงเครียด
“ไม่น่าจะเป็นไปได้ สิบกว่าปีมานี้เผ่าต่าง ๆ เริ่มรู้จักและเป็นมิตรต่อกันมากกว่าแต่ก่อนมากนัก” ผู้เฒ่าต่างเผ่าคนหนึ่งพูดขึ้น
“แต่ท่านอย่าลืมนะว่ายังมีอีกหลายเผ่าในป่าลึกที่ยังไม่ถูกค้นพบและเป็นที่รู้จัก” ผู้เฒ่าที่นั่งอยู่ตรงข้ามวูจินท้วงขึ้น
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาต้องทำสงครามกับเรานี่” ผู้เฒ่าผู้นั่งใกล้ฮารีซันกล่าวท้วง
“ท่านมีความเห็นว่าอย่างไร? ท่านฮารีซัน” ผู้นำต่างเผ่าคนหนึ่งถามขึ้นเหมือนจะลองหยั่งเชิงหัวหน้าเผ่ารุ่นเยาว์ ฮารีซัน แม้จะยังประหม่ากับตำแหน่งใหม่ที่เพิ่งได้รับ แต่ด้วยศักดิ์ศรีของตำแหน่งหัวหน้าเผ่า หัวหน้าเผ่าหนุ่มจึงนั่งตัวตรงตรึกตรองครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้น
“ท่านผู้อาวุโสทั้งหลาย ข้าไม่เห็นถึงเหตุจูงใจที่จะก่อให้เกิดความบาดหมางระหว่างเผ่าขึ้น บัดนี้เผ่าต่าง ๆ ล้วนอยู่กันอย่างสงบสุขไม่ใช่หรือ? ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ อาณาเขตก็ถูกแบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจนไม่มีการล่วงล้ำอาณาเขตซึ่งกันและกัน”
“แล้วท่านจะอธิบายเหตุการณ์นี้อย่างไรเล่า?” หัวหน้าเผ่าคนเดิมยังคงตั้งคำถามต่อ
“จำเป็นด้วยหรือว่าการที่เทพราชสีห์นิ่งเงียบจะต้องหมายถึงสงครามระหว่างเผ่า?” ฮารีซันตอบเหมือนเป็นเชิงถามในที ทุกคนต่างนิ่งเงียบมองหน้ากันไปมาเหมือนจะสามารถค้นหาคำตอบจากใบหน้าของกันและกันได้ ในที่สุดทุกคนก็ดูเหมือนจะมุ่งไปหาท่านผู้เฒ่าแห่งฟูดินันเพื่อให้ไขความกระจ่างนี้ วูจินครุ่นคิดอยู่นาน สีหน้ายังคงฉายแวววิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ข้าขอบอกตามตรงว่าข้าเองก็ยังไม่แน่ใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะตลอดชีวิตของข้า นี่เพิ่งเป็นครั้งที่สองที่เทพราชสีห์นิ่งเงียบเช่นนี้ แต่ข้าสังหรณ์ใจว่าจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้น เหตุการณ์ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าครั้งใด ๆ ” วูจินกล่าวเสียงเครียด
“ท่านแน่ใจรึ? มันอาจจะไม่รุนแรงถึงขนาดนั้นก็ได้ ท่านกล่าวเองว่านี่เพิ่งเป็นครั้งที่สองที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น” หัวหน้าเผ่าอีกคนกล่าวขึ้น
“ลางสังหรณ์ของท่านผู้เฒ่าไม่เคยผิดพลาด” ดามิก้ากล่าวโต้เสียงดัง
“ข...ขะ...ข้าก็มิได้มีเจตนาจะดูถูกหรือว่าร้ายท่านผู้เฒ่า ข้าเพียงแต่คิดว่าเรายังไม่น่าจะปักใจที่จะคิดไปในเรื่องร้ายแรง”หัวหน้าเผ่าคนเดิมกล่าวอย่างเกรง ๆ สาวจากป่าทมิฬ
“เอาเถอะ ๆ ” วูจินโบกมือปราม “ข้าก็หวังไว้เช่นนั้น หวังว่าลางสังหรณ์ครั้งนี้จะผิดพลาด”
คำพูดของวูจินทำให้บังเกิดความเงียบที่น่าอึดอัดไปทั่วห้อง
“เจ้ามีความเห็นว่าอย่างไรล่ะ ฮารีซัน?” วูจินเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ
“ท่านปู่ เพื่อความไม่ประมาท ข้าเห็นว่าทางที่ดีเราควรเตรียมความพร้อมในทุก ๆ ด้านไว้ก่อนจะดีกว่า เผื่อว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเราจะได้แก้ไขได้ทันท่วงที” ฮารีซันตอบเสียงหนักแน่น
วูจินยิ้มน้อย ๆ อย่างพอใจ ในขณะที่คนอื่น ๆ พยักหน้าเห็นด้วย
“ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน และดูเหมือนทุกท่านก็คงเห็นด้วยกับความคิดนี้ ถ้าเช่นนั้นทุกท่านก็คงจะรู้แล้วว่าจะต้องเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง เอาล่ะนี่ก็ดึกมากเหลือเกินแล้ว ข้าคงไม่รั้งตัวทุก ๆ ท่านไว้นานกว่านี้ สำหรับคืนที่แสนยาวนานนี้ขอเชิญทุกท่านไปพักผ่อนให้สบายเถิด” วูจินกล่าวขึ้นก่อนที่ทุก ๆ คนจะลุกขึ้นแยกย้ายกันไปพักผ่อนในที่พักของตนอย่างเงียบ ๆ