Welcome Guest: เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ มี.ค. 29, 2024 6:07 am

หน้าเว็บบอร์ด Wiser Summoner Novel @@ นิยายSMN Epi9 Chapter 17 ความเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย

อ่านนิยาย Summoner Master Episodeต่าง ๆ ได้ที่นี่

Moderator: Jinger Ginger


@@ นิยายSMN Epi9 Chapter 17 ความเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ อังคาร ต.ค. 04, 2011 12:58 am

Chapter 17 ความเปลี่ยนแปลงทีละเล็กทีละน้อย



หลายเดือนผ่านไป กองทัพส่วนหนึ่งที่ไปประจำการอยู่ที่ชายแดนฟีเลเซียได้เดินทางกลับฟูดินัน ตามแผนการณ์หมุนเวียนกำลังพล ที่ปฏิบัติกันเป็นประจำทุกหกเดือน โดยบรรดาขุนพลฟูดินันจะพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันนำทัพกลับมา ซึ่งคราวนี้เป็นคราวของฮารีซันเป็นผู้นำทัพ แน่นอนว่าการกลับมาของเขานำความปลาบปลื้มมาให้ชาวฟูดินันและสมาชิกครอบครัว บันดาราเพียงใด
หลังจากได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่มแล้ว ครอบครัวบันดาราก็นั่งร่วมโต๊ะทานอาหารค่ำและพูดคุยเรื่องสาระทุกข์สุกดิบ กันจนแทนจะลืมเวลา ต่างเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เป็นไปที่ตนได้ประสบพบเจอมา ฮารีซันก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องสนามรบ สถานการณ์ชายแดนปัจจุบัน ปัญหาในกองทัพและระหว่างกองทัพผสม ฝ่ายวูจิน วานาอัน และ อิสฮานก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในฟูดินัน ทั้งเรื่องปัญหาชาวบ้าน ปัญหาโจรป่า เรื่องสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ที่แสนน่ารักอย่างชินชิน และ การก่อตั้งกลุ่มเด็กหนุ่มเพื่อร่วมกันปกป้องฟูดินันของอิสฮาน ซึ่งก็ทำให้ฮารีซันรู้สึกทึ่งและขอบใจอิสฮานที่พยายามปกป้องฟูดินันจากพวก โจรป่า
จนเมื่อเรื่องต่างๆ ที่เป็นการเป็นงานถูกถ่ายทอดให้แก่กันและกันจนหมดแล้ว ครอบครัวบันดาราจึงค่อยคุยเรื่องสัพเพเหระต่าง ๆ เพราะความคิดถึงกันจึงไม่มีใครอยากจะจากวงสนทนานี้ไปแม้เวลาจะล่วงเลยค่อน คืนแล้ว

“จริงสิ พี่ฮารีซันรู้ไหมคะ ว่าเดี๋ยวนี้อิสฮานเป็นที่หมายปองของบรรดาเด็กสาวในฟูดินันแล้วนะ” วานาอันพูดยิ้มกว้าง คล้ายกับจะอวดว่าน้องชายของตนเนื้อหอมและเริ่มมีเสน่ห์

“ฮ้า...จริงน่ะหรือ? พี่ยังรู้สึกว่าเมื่อไม่กี่วันก่อน เจ้ายังเป็นเด็กชายตัวกระเปี๊ยกอยู่เลย นี่เริ่มโตเป็นหนุ่มเนื้อหอมแล้วรึ?” ฮารีซันเบิกตากว้างพูดยิ้มขำด้วยความประหลาดใจ

“ไม่จริงหรอก” อิสฮานกล่าวอย่างขัดเขินพลางลอบมองวานาอันที่กำลังยิ้มแย้มให้กับตน

“นี่เจ้าอายุเท่าไหร่แล้วนี่?” ฮารีซันถามพลางหัวเราะกลั้ว

“ย่างสิบห้า” อิสอานตอบเสียงอุบอิบ

“อย่างนี้ก็ใกล้จะหาคู่ได้แล้วสิเนี่ย” ฮารีซันพูดแซว อิสฮานจึงยิ่งอายเข้าไปใหญ่จึงเริ่มก้มหน้าลง

ทว่า ยังมีอีกคนหนึ่งที่มีอาการผิดปกติ นั่นคือหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ทันทีที่ได้ยินฮารีซันพูดเช่นนั้นวานาอันกลับรู้สึกแปลกๆ เธอหัวเราะไปกับคำพูดของฮารีซันแต่กลับหัวเราะได้ไม่เต็มเสียงเท่าใดนัก หญิงสาวไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเธอเป็นอะไร ระหว่างนั้นฮารีซันยกแก้วน้ำขึ้นดื่มพอดีจึงไม่ได้สังเกตอะไร ทว่าวูจินนั้นเหลือบมองหลานสาวทีเด็กหนุ่มที พลางคิดอะไรบางอย่างในใจก่อนจะเอ่ยขึ้น

“ฮารีซัน คราวนี้เจ้าจะอยู่ที่นี่นานสักเท่าไหร่รึ?” วูจินถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ ทำให้ทั้งวานาอันและอิสฮานเงยหน้าขึ้นมองฮารีซันเพื่อฟังคำตอบโดยอัตโนมัติ ทั้งคู่ต่างโล่งใจที่หลุดออกมาจากสถานการณ์น่ากระอักกระอ่วนเมื่อสักครู่ได้

“ข้าคิดว่าคงอยู่นานสักหน่อยครับท่านปู่ คงจะสัก 3-4 เดือน เพราะหลังจากที่เราโดนโจรป่าลอบโจมตีหลายครั้ง ถึงแม้ว่าจะได้บรรดาเด็กหนุ่มช่วยกันขับไล่ไป แต่ก็คงมีหลายอย่างที่เสียหาย ข้าตั้งใจจะตระเวณไปรอบๆ เขตที่อยู่อาศัยในฟูดินัน เกณฑ์ชาวบ้านให้ช่วยกันเร่งซ่อมแซมและปรับปรุงแนวป้องกันให้แน่นหนาขึ้น และคิดว่าจะฝึกและวางกำลังทหารยามให้มากขึ้นด้วย”

“เอาอิสฮานไปฝึก กับเจ้าด้วยสิ” วูจินพูดเสนอน้ำเสียงเรื่อยๆ แต่ก็ทำเอาทั้งสามออกอาการตาโตขึ้นมาทันที ต่างหันไปมองวูจินกันเป็นตาเดียว “ไหน ๆ เจ้าก็กลับมาแล้ว เอาอิสฮานไปฝึกพวกศิลปะการต่อสู้เสียหน่อย เขามีความตั้งใจริเริ่มที่ดี แต่ยังขาดทักษะและประสบการณ์การต่อสู้ ถ้าได้เจ้าที่ชำนาญและมีประสบการณ์การต่อสู้ช่วยฝึกฝนให้ เขาต้องเก่งกาจยิ่งขึ้นแน่นอน ต่อไปเวลาเจ้าไม่อยู่พวกเราจะได้เบาใจยิ่งขึ้นอย่างไรล่ะ”

“เป็นความคิดที่เข้าท่าดีทีเดียวครับท่านปู่” ฮารีซันพยักหน้าเห็นด้วย “จริงอย่างท่านปู่ว่า ข้าคงจะสบายใจยิ่งขึ้นเวลาไปชายแดน”

อิส ฮานเมื่อได้ยินดังนั้นก็เห็นดีด้วย ถ้าได้ฮารีซันฝึกวิชาการต่อสู้ให้ เขาก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นและสามารถปกป้องทั้งท่านปู่และวานาอันได้ แม้เขาจะไม่ค่อยอยากจะห่างวานาอันสักเท่าไรนักก็ตามที แต่เคยเวลา 3-4เดือนแล้วทำให้เขาเก่งกาจยิ่งขึ้น มันก็คุ้มค่าที่จะแลก

“เจ้าว่าอย่างไร? อยากจะไปฝึกหมัดมวยกับข้าไหม?” ฮารีซันเอ่ยกับอิสฮาน

“ไปครับ” อิสฮานตอบอย่างกระตือรือร้น ทำให้ฮารีซันหัวเราะชอบใจพลางตบไหล่เหมือนพี่น้อง

“ดี เวลาเรามีไม่มาก ข้าคงต้องเขี่ยวเข็ญเจ้าหนักหน่อย อย่าท้อเสียล่ะ”

“ครับ” อิสฮานรับเสียงแข็งขัน

“ดี ถ้าเช่นนั้นคืนนี้เตรียมสัมภาระให้พร้อม เราจะไปกันแต่เช้า ข้าอยากสำรวจความเสียหายในเขตต่างๆ ให้เร็วที่สุด”

“ตั้งใจฝึกนะจ๊ะ” วานาอันกล่าวเสียงแฝงความเศร้า รู้สึกใจหายเล็กน้อยเมื่อคิดว่าเธอคงจะเหงาแน่ๆ ช่วงหลายเดือนข้างหน้านี้

“ขอให้เดินทางปลอดภัยทั้งคู่นะ ตั้งใจฝึกล่ะอิสฮาน” วูจินอวยพร

“ครับท่านปู่” อิสฮานตอบรับ ก่อนที่สายตาจะละห้อยมองหญิงสาวด้วยความเศร้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi9 Chapter 17 @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ อังคาร ต.ค. 04, 2011 12:59 am

หลัง จากออกเดินทางไปกับฮารีซัน อิสฮานก็ติดตามฮารีซันไปตามที่ต่างๆ โดยรอบเขตฟูดินัน ได้พบปะพูดคุยกับบรรดาชาวบ้านในท้องที่ต่างๆ รับรู้ถึงปัญหาของชาวบ้านที่อยู่รอบนอก

บางครั้งก็ได้เห็นถึงผลพวงความเสียหายที่เกิดขึ้นเพราะฝีมือของกองทัพซาโลม ทำให้เด็กหนุ่มอดสะท้อนใจไม่ได้
มี หลายครั้งที่ฮารีซันและอิสฮานต้องลงแรงช่วยชาวบ้านสร้างกำแพงและป้อมเพื่อ เฝ้าระวังพวกโจรป่า อิสฮานก็เข้าช่วยด้วยความกระตือรือร้นทุกครั้ง เด็กหนุ่มคิดว่าอย่างน้อยเขาก็จะขอใช้แรงงานของเขาอย่างเต็มที่เพื่อชดเชย ความผิดของชนชาติของเขาที่กระทำต่ออาณาจักรนี้ แม้มันจะเทียบกันไม่ได้แต่นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาจะทำได้ในเวลานี้

วัน แล้ววันเล่าที่คณะของฮารีซันเดินทางไปทั่วฟูดินัน ทำให้บรรดาชาวบ้านที่เป็นอดีตชนเผ่าต่างๆ ต่างก็ให้การเคารพและยอมรับนับถือฮารีซัน เพราะแม้จะได้รับการสถาปนาแต่งตั้งเป็นกษัตริย์แล้ว ฮารีซันก็ยังคงทำตัวเป็นกันเองและช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไม่ถือตัว ในขณะเดียวกัน ด้วยความกระตือรือร้นในการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของ อิสฮาน ก็ทำให้อิสฮานก็ได้รับการชื่นชมนิยมชมชอบจากบรรดาชาวบ้านในฐานะน้องชายของฮา รีซันด้วยเช่นกัน

หลังจากช่วยชาวบ้านในแต่ละวัน เมื่อมีเวลาว่าง ฮารีซันก็จะสอนหมัดมวยให้กับอิสฮาน อิสฮานนั้นตั้งใจเรียนอย่างดีและพยายามฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ แม้จะเหนื่อยและปวดเมื่อยเนื้อตัวแทบขาดใจ เพราะในเวลาที่เขาท้อ อิสฮานก็จะให้กำลังใจตัวเองว่าในอดีตเขาไม่สามารถปกป้องมารดาของตนได้ เวลานี้หากเขาแข็งแกร่งขึ้น เขาก็จะสามารถปกป้องวานาอันได้ เขาจะไม่พลาดเหมือนเมื่อครั้งอดีตอีก เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาก็จะมีแรงฮึดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

วัน หนึ่งหลังจากฝึกซ้อมหมัดมวยกันเสร็จแล้ว อิสฮานที่เหงื่อโทรมกายนั่งพิงโคนต้นไม้หอบหายใจเบาๆ ด้วยความเหน็ดเหนื่อย ฮารีซันที่ดูจะเหนื่อยน้อยกว่าอีกฝ่ายมาก เพราะมีเพียงเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาตามหน้าผากและบางส่วนที่ไหลลงข้างแก้ม ชายหนุ่มยืนพิงต้นไม้ฝั่งตรงข้ามพลางยิ้มอย่างชื่นชม

“ฝีมือเจ้า พัฒนาขึ้นมาก ข้าต้องยอมรับว่าเจ้ามีความพยายาม แต่ก็อย่าฝืนมากล่ะ เดี๋ยวจะล้มป่วยเอา” ฮารีซันพูดพลางยื่นขวดน้ำเดินมาส่งให้ อิสฮานรับมาแล้วก็ดื่มอึกๆ ลงขอไปอย่างรวดเร็ว

“เฮ้... ช้าๆ หน่อย เดี๋ยวก็สำลักตายกันพอดี” ฮารีซันพูดเตือน

เด็กหนุ่มถอยหายใจยาว รู้สึกเหมือนไม่ได้รับความสดชื่นมานาน พลางหันมามองฮารีซันด้วยสายตาแน่วแน่ “คราวหน้า ข้าอยากจะฝึกให้หนักกว่านี้ เวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว ข้าอยากจะแข็งแกร่งกว่านี้”

“บ๊ะ! เจ้านี่...ข้าเพิ่งจะบอกว่าอย่าฝืนมาก เจ้ากลับจะขอฝึกหนักกว่าเดิม” ฮารีซันหัวเราะชอบใจ “นี่ก็พอๆ กับที่ข้าฝึกกับอาจารย์ของข้า ตอนสมัยที่ข้าอายุไล่ๆ กับเจ้าแล้วนะ”

“พอ ๆ กัน?...แปลว่าตอนสมัยที่ท่านอายุเท่าข้า ท่านฝึกหนักกว่านี้หรือ? ถ้างั้นท่านก็ฝึกข้าแบบนั้นบ้างสิ” อิสฮานคะยั้นคะยอ

“ตอนสมัยที่ข้าอายุเท่าเจ้า ข้าฝึกหนักกว่านี้ เพราะข้าฝึกฝนร่างกายของมีความแข็งแกร่งมาตั้งแต่เด็ก แต่เจ้าเพิ่งจะเริ่มฝึกร่างกายไม่เท่าไหร่ เดี๋ยวร่างกายเจ้าจะไม่ไหวเอาล่ะสิ” ฮารีซันแกล้งหยอก เขารู้ว่าอิสฮานมีศักยภาพที่จะสามารถฝึกหนักกว่านี้ได้ เพียงแต่เขาอยากดูความตั้งใจและความแน่วแน่ของเขา

“ข้าจะไม่ทำให้ตัวเองบาดเจ็บหรอก ถ้าข้าไม่ไหวก็จะบอกท่าน ข้าอยากจะแข็งแกร่งกว่านี้” อิสฮานยังคงยืนยันหนักแน่น

“เอ๊า....ก็ได้... พรุ่งนี้เราจะไปปีนเขามือเปล่ากัน ดูสิว่าเจ้าจะมีแรงมากเหมือนความตั้งใจรึเปล่า” ฮารีซันพูดยิ้มๆ เมื่อเห็นความตั้งใจของเด็กหนุ่ม “ทำไมเจ้าถึงอยากแข็งแกร่งถึงขนาดนั้น? ” ฮารีซันอดถามไม่ได้

“ข้าอยากแข็งแกร่งเพื่อปกป้อง พะ....คนสำคัญ” อิสฮานสะดุ้งเกือบเผลอหลุดปากออกไป

“อะฮ้า... นี่เจ้าไปรักชอบใครเขาแล้วรึ?” ฮารีซันกอดอกยิ้มขำตั้งใจฟังอย่างสนอกสนใจ

“ปะ...เปล่า ข้าแค่หมายถึงในอนาคตน่ะ ในอนาคตถ้าข้ามีคนสำคัญ ข้าก็อยากจะแข็งแกร่งเพื่อปกป้องเขา... แล้วท่านล่ะ ท่านฝึกร่างกายให้แข็งแกร่งไม่ใช่เพราะอยากปกป้องใครสักคนหรอกหรือ?” อิสฮานหน้าแดงรีบละล่ำละลักตอบ

พอได้ยินดังนั้น ฮารีซันก็เกิดอาการหน้าแดงขึ้นมาบ้าง เพราะภาพหญิงสาวอันเป็นที่รักผุดขึ้นมาในสมอง “อ๊ะ...เจ้านี่ประมาทไม่ได้เลยแฮะ”

อิสฮานเห็นดังนั้นก็ยิ้มกว้าง แสร้งเลียนเสียงตามที่ฮารีซันล้อตนเมื่อสักครู่ “อะฮ้า...ท่านหน้าแดงกำเลย...ข้ารู้จักนางรึเปล่า?” อิสฮานถามด้วยความสนอกสนใจ ฮารีซันแสร้งกระแอมเฉไฉ “นางอยู่ในหมู่บ้านที่ผ่านๆ มารึเปล่า?”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi9 Chapter 17 @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ อังคาร ต.ค. 04, 2011 1:00 am

“เปล่า”

“อยู่ใกล้ ๆ บ้านเรารึเปล่า?”

“เปล่า”

“นางสวยมากไหม?”

ฮารีซันนิ่งเงียบมองไปไกล เหมือนกำลังมองไปให้ถึงเธอผู้นั้น

“คำ ว่าสวยคงบรรยายตัวตนของนางไม่ได้หรอก เพราะนางงดงาม ร่าเริงสดใส ดูเหมือนบอบบางแต่ก็เข็มแข็ง เมื่ออยู่ใกล้นางหัวใจก็พองโต แค่นางยิ้มให้ก็มีความสุขไปทั้งวันแล้ว”

อิสฮานได้ยินดังนั้นก็นึกถึงภาพวานาอันขึ้นมาทันที เขาก็รู้สึกเช่นนี้เวลาอยู่กับวานาอันเหมือนกัน

“แต่ฐานะของข้าไม่คู่ควรกับนางหรอก” เสียงของฮารีซันสลดลง

“ตอน นี้ท่านเป็นถึงกษัตริย์ของฟูดินัน ตำแหน่งกษัตริย์ของท่านยังไม่คู่ควรกับนางอีกหรือ? ถ้าเช่นนั้นนางดำรงตำแหน่งอะไร กษัตริย์อย่างท่านถึงไม่คู่ควรอีก?” อิสฮานขมวดคิ้วถามด้วยความประหลาดใจอย่างแท้จริง

“....เจ้าหญิงแห่งฟีเลเซีย”

“เจ้าหญิงเรจิน่าหรือ?” อิสฮานจำเจ้าหญิงผมทองอร่ามผู้ร่าเริงสดใสได้อย่างดี “ข้าไม่เข้าใจ...เพราะอะไรถึงไม่คู่ควร?”

“ถ้า เทียบกันแล้ว ถึงข้าจะเป็นกษัตริย์ของฟูดินัน แต่ก็เป็นแค่ชาวป่าชาวดง นางทั้งเพียบพร้อมและสูงศักดิ์ และอยู่ในประเทศที่ใหญ่โตและเจริญรุ่งเรืองกว่าเรามาก ข้าจะไปคู่ควรกับนางได้หรือ?” ฮารีซันพูดปนหัวเราะ แต่ก็เหมือนหัวเราะเยาะในโชคชะตาของตนเสียมากกว่า ในขณะที่อิสฮานเองก็ต้องสะดุ้งอีกเป็นครั้งที่สอง เมื่อคิดถึงว่าตนเองเป็นใครอยู่ในฐานะอะไรเมื่อเทียบกับวานาอัน เขาก็คงต้องอยู่ในสภาพไม่ต่างกับฮารีซัน คิดดังนั้นก็หน้าถอดสี ทว่าฮารีซันก็ไม่ได้สังเกตเห็นเพราะกำลังสะท้อนใจกับความรักของตนเองอยู่

“ดัง นั้น ขอแค่ข้าได้อยู่ข้าง ๆ คอยดูแลปกป้อง แค่ได้ช่วยเหลือนาง ให้นางมีความสุข ไม่ทำให้นางยุ่งยากลำบากใจ สำหรับข้า...แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว”

อิสฮานได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกซาบ ซึ้งในความรักของฮารีซันที่มีต่อเจ้าหญิงเรจิน่า อิสฮานจึงตั้งใจจะเอาฮารีซันเป็นแบบอย่างบ้าง ใช่แล้ว หากแม้ไม่ได้ครองคู่ แค่ขอให้ได้ดูแลปกป้อง แค่นั้นก็เกินพอแล้ว

กว่าที่ฮารีซัน อิสฮาน และ คณะจะออกช่วยชาวบ้านหมู่บ้านต่าง ๆ โดยรอบจนครบก็กินเวลาไปถึง 4 เดือน แต่ก็ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า เพราะนอกจากจะสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่หมู่บ้านชายแดนโดยรอบแล้ว ฮารีซันก็ได้รับการยอมรับนับถือมากขึ้น ทั้งยังสามารถทำให้บรรดาชาวฟูดินันที่มาจากเผ่าต่าง ๆ เต็มใจที่จะอยู่ใต้การปกครองของฟูดินันโดยมีฮารีซันเป็นกษัตริย์ บรรดาชาวป่าที่เคยเห็นดีเห็นงามกับการปลุกปั่นของกลุ่มพวกโจรของฟูมินก็ เริ่มเปลี่ยนใจหันมาเข้าพวกกับฮารีซันมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ดี มิได้มีการเปลี่ยนแปลงเฉพาะสถานการณ์ในฟูดินันเท่านั้น สมาชิกที่ร่วมเดินทางอย่างอิสฮานเองก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน อิสฮานที่ก่อนหน้านี้ยังแลดูเป็นเด็กหนุ่มเสียงยังไม่แตกดี แต่ทว่าการทำงานและการฝึกฝนวิชาหมัดมวยอย่างหนักตลอดช่วงเวลา4เดือนก็ส่งผล ให้ร่างกายของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว เสียงแปร่งพร่าที่ฟังเหมือนเด็กก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง เวลานี้ก็ฟังดูใหญ่ทุ่มน่าฟังมากยิ่งขึ้น ร่างกายที่เคยผอมบางดูเก้งก้าง

เวลานี้ดูกำยำและมองเห็นมัดกล้ามเด่นชัดมากขึ้น แม้แต่ความสูงก็ดูเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นจนเกือบจะสูงทันฮารีซันแล้ว
อิสฮานเองก็ดูพออกพอใจกับรูปลักษณ์ใหม่ของตนในตอนนี้ ไม่ใช่ว่าเขาจะเป็นพวกหลงรูปตนเอง แต่เพราะรูปร่างที่ดูแข็งแกร่งกำยำขึ้นเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเขาแข็งแกร่ง ขึ้นกว่าแต่ก่อน และแน่นอนว่าจะต้องสามารถปกป้องวูจินและวานาอันได้ดีขึ้นกว่าเดิม
ระหว่างที่เดินทางกลับ คณะของฮารีซันก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีตลอดเส้นทาง บรรดาชาวบ้านออกมาปรบมือต้อนรับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มบ่งบอกถึงความยินดีของ ทุก ๆ คน บรรดาหญิงสาวต่างส่งเสียงวี๊ดว๊ายพยายามทำให้ตนเองเป็นที่สนใจ ในภาวะสงครามเช่นนี้บรรดาชายหนุ่มต่างก็เดินทางไปสนามรบกันหมด ดังนั้นบรรดาทหารที่ไปรบในสงครามแล้วกลับมาได้อย่างปลอดภัย ในสายตาของสาว ๆ ก็เหมือนเป็นชายชาตรีเป็นวีรบุรุษที่น่าหมายปอง ยิ่งฮารีซันผู้เป็นถึงกษัตริย์แห่งฟูดินันแล้วในเวลานี้ ซ้ำยังไม่มีคู่ครองก็ยิ่งทำให้การประชันโฉมแย่งกันแสดงความโดดเด่นระหว่าง หญิงสาวยิ่งเข้มข้นยิ่งขึ้น

ด้านอิสฮานเองก็ได้รับความสนใจไม่ น้อยเช่นกัน เขาสังเกตเห็นว่าบรรดาหญิงสาวแอบลอบมองเขาอย่างเอียงอาย บางคนที่เขาหันไปมองแล้วเผอิญสบตากัน หญิงสาวก็จะหน้าแดงและหลบสายตา อิสฮานแอบอมยิ้มน้อย ๆ แม้จะขัดเขินแต่ก็อดภูมิใจไม่ได้ ประสบการณ์การเดินทางร่วมไปกับคณะของฮารีซันที่มีแต่ชายหนุ่มทำให้อิสฮานได้ เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในมุมมองและความคิดแบบชายหนุ่มมากขึ้น ไม่เหมือนกับการหยอกล้อกันไปมาตามประสาที่เด็กชายทำกัน อิสฮานเริ่มเข้าใจว่าความรักการชอบพอกันแบบหญิงชายนั้นแตกต่างจากความรักกัน ฉันเพื่อนพี่น้อง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi9 Chapter 17 @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ อังคาร ต.ค. 04, 2011 1:01 am

เมื่อสมัยที่ยังอยู่ซาโลม เขาแทบไม่รู้จักความรักระหว่างหญิงชายเลย คู่ที่ใกล้ชิดที่สุดสำหรับเขาคือเสด็จพ่อและเสด็จแม่ แต่ทั้งสองก็แทบจะเรียกได้ว่าหมางเมินกันด้วยซ้ำ เขาจึงไม่เข้าใจความรักเช่นนี้นัก การได้เห็นการเกี้ยวพาราสีของนายทหารบางคนในคณะกับหญิงสาวบางหมู่บ้าน รวมไปถึงการพูดคุยถึงเรื่องหญิงอันเป็นที่รักของบรรดานายทหารและแม้แต่ตัวฮา รีซันเอง ทำให้อิสฮานได้เรียนรู้ความรักในอีกรูปแบบมากขึ้น เขาเริ่มเข้าใจว่าการลอบชำเลืองมองหรือส่งยิ้มเอียงอายมาให้เขานั้น เป็นเพราะหญิงสาวเหล่านั้นรู้สึกนิยมชมชอบในตัวเขา คงเพราะรูปร่างที่ดูเป็นหนุ่มแน่นขึ้น อิสฮานยิ้มอีกครั้ง เขาอยากรู้ว่าวานาอันเมื่อเห็นเขาคราวนี้จะมีปฏิกริยาอย่างไร เขาอยากจะให้วานาอันรู้สึกชื่นชมเขาเช่นเดียวกับหญิงสาวเหล่านี้บ้าง
ทันทีที่กลับมาถึง วูจินก็ออกมาต้อนรับด้วยความยินดี สวมกอดหลานทั้งสองพลางถามสาระทุกข์สุกดิบกันด้วยความคิดถึง

“เป็นอย่างไรบ้าง? ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม?” วูจินถามระหว่างต้อนทั้งสองเข้าบ้าน

“เรียบร้อยดีครับท่านปู่ หมู่บ้านคงปลอดภัยขึ้นมากหลังจากนี้” ฮารีซันพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ

“อืม... ดีแล้ว ได้ยินอย่างนั้นปู่ก็เบาใจ” วูจินกล่าวพลางหันมาทางอิสฮานอย่างยินดี “แล้วเจ้าหล่ะ? ท่าทางจะฝึกหนักทีเดียว ดูสิ ร่างกายดูบึกบึนขึ้นเยอะเลย สูงขึ้นด้วย...นี่เจ้าสูงกว่าปู่แล้วนะเนี่ย ไป ๆ ขึ้นบ้านหาน้ำหาท่ากินกัน เดินทางกลับมาเหนื่อย ๆ ”

“ครับท่านปู่” อิสฮานรับคำด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่สายตากลับกวาดไปทั่ว

“น้องไปไหนเสียละครับท่านปู่?” ฮารีซันเอ่ยถามขึ้นก่อนที่อิสฮานจะทันอ้าปาก

“คง อยู่ในห้องอบยานั่นหล่ะ เพราะเห็นว่าถ้าเจ้ากลับมาถึงแล้วจะอยู่อีกไม่กี่วันก็จะเดินทางไปสนามรบต่อ วานาอันก็เลยเร่งอบยาสมุนไพรให้ทัน จะได้ให้เจ้าเอาไปใช้ที่นู่น” วูจินกล่าวพลางก้าวขึ้นบันไดอย่างช้า ๆ

เมื่อทุกคนเข้ามาภายในตัวบ้านแล้ว อิสฮานก็อดรนทนต่อไปไม่ไหวจึงรีบเอ่ยขึ้น

“ท่านปู่ ข้าขอตัวไปหาพี่วานาอันนะครับ”

“อืม... ไปเถอะ” วูจินอนุญาต พลางหันไปคุยกับฮารีซันเรื่องสถานการณ์ต่าง ๆ รอบเขตชายแดนฟูดินันต่อ อิสฮานได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้างรีบวิ่งออกไปทันที ฮารีซันเห็นดังนั้นก็หัวเราะร่วนพลางส่ายหน้า

“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ เจ้าหนูนี่ ติดวานาอันแจไม่เปลี่ยนเลย”

วูจินได้ยินดังนั้นก็ส่ายหน้ายิ้ม ๆ พลางพึมพำอะไรบางอย่างคล้ายกับจะพูดกับตัวเอง

“ท่านปู่พูดว่าอะไรนะครับ” ฮารีซันถามเมื่อได้ยินไม่ค่อยถนัดนัก

“ไม่ มีอะไรหรอก” วูจินยิ้มไม่ใคร่จะเต็มที่นัก เหมือนมีอะไรอยู่ในใจ “วันนี้เจ้ามีธุระอะไรที่ไหนอีกหรือเปล่า?” วูจินถามเพื่อเปลี่ยนบทสนทนา

“ข้า ตั้งใจว่าจะออกไปเยี่ยมชาวบ้าน เพราะแต่แรกข้าตั้งใจว่าจะตรวจตราชายแดนรอบนอกทั้งหมดก่อนอยู่แล้ว แล้วจึงค่อยกลับมาตรวจตราหมู่บ้านชั้นใน คงต้องยุ่งกันอีกสักพักใหญ่”

“จะออกไปเลยรึ? เจ้าเพิ่งกลับมาเองนะ” วูจินพูดด้วยความตกใจ

“ครับท่านปู่ แต่เวลาข้าเหลือน้อยแล้ว ข้าอยากจะให้แน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี”

“อืม อืม... ถ้าเช่นนั้นก็แล้วแต่เจ้าเถิด” วูจินเข้าใจเจตนาของหลานชายที่อยากจะให้ฟูดินันปลอดภัย จนเขาสามารถวางใจจนไม่ต้องค่อยพวักพะวงเมื่อต้องกลับไปที่สนามรบ

ฮา รีซันยิ้มรับ พลางมองหาอิสฮานคล้ายจะชวนไปด้วยกันด้วยความเคยชิน เพราะตลอด4เดือนที่ผ่านมา อิสฮานเป็นลูกมือในการซ่อมแซมบูรณะแนวป้องกันที่ไม่เลวเลยทีเดียว

แต่ เมื่อเห็นว่าเขาคงจะออกไปนอกตัวบ้านแล้วจึงเปลี่ยนใจ ชายหนุ่มโครงศีรษะเล็กน้อย พลางคิดว่าปล่อยให้อิสฮานพักผ่อนสักวันแล้วค่อยชวนไปพรุ่งนี้แล้วกัน

“ข้าไปก่อนนะครับท่านปู่”

“อืม ไปเถอะ ระวังตัวด้วยล่ะ” วูจินกล่าวอวยพรก่อนจะลุกขึ้นตามไปส่ง

“ไม่ เป็นไรหรอกครับท่านปู่ ท่านปู่เข้าไปดูยาเถอะ ในสนามรบ ใคร ๆ ก็เรียกหาแต่ยาของท่าน ข้ารับปากทุกคนว่ากลับไปเที่ยวนี้จะเอายาของท่านปู่กลับไปด้วยเป็นสองเท่า เชียวล่ะ”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” วูจินหัวเราะชอบใจ “ข้าจะดีใจมากกว่าถ้าพวกเจ้าจะไม่ต้องใช้ยาของข้า”

“อ้าว... ทำไมล่ะครับท่านปู่” ฮารีซันถามด้วยความประหลาดใจจริง ๆ

“เอ๊า...” วูจินแสร้งทำเสียงตกใจเมื่อเห็นหลานชายทำหน้างง “ก็พวกเจ้าต้องใช้ยาของปู่เพราะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นถ้ายาของข้าไม่ได้ถูกใช้ ก็แปลว่าไม่มีใครบาดเจ็บยังไงล่ะ”

“อ้อ!” ฮารีซันยิ้มกว้างเมื่อเข้าใจความหมายของวูจิน

“หึหึ เอาล่ะ ไปได้แล้ว เดี๋ยวจะมืดค่ำเสียก่อน” วูจินส่ายหน้าไหว ๆ

“ครับท่านปู่” ฮารีซันตอบรับก่อนจะเดินออกจากประตูไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi9 Chapter 17 @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ อังคาร ต.ค. 04, 2011 1:02 am

วู จินโบกมือไล่อย่างเอ็นดู มองส่งหลานชายที่เดินออกไปพ้นตัวบ้าน จนเมื่อฮารีซันเดินลับไปแล้ว จึงค่อยถอนหายใจออกมาแรง ๆ “เฮ้อ... สองเท่า... สงครามคงดูท่าจะไม่จบลงง่าย ๆ สินะ” วูจินกล่าวด้วยใบหน้าเคร่งเครียดขึ้น พลางตรงไปที่ประตูหลังบ้าน “คงต้องปรุงยาเพิ่มอีกสักหน่อย”

“พี่วานาอัน”

อิส ฮานเปิดประตูห้องอบสมุนไพรด้วยความตื่นเต้น ภาพด้านหลังของวานาอันในชุดแขนยาวมีผ้าขาวโพกคลุมผม กำลังออกแรงบดรากไม้อย่างขมักเขม่น ท่ามกลางไอน้ำจากเตาอบสมุนไพร ทำให้บรรยากาศภายในห้องนั้นแสนจะอบอุ่น วานาอันเงยหน้าขึ้นหันมาทางต้นเสียงก่อนจะยิ้มละไม ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวแลดูอ่อนหวานยิ่งนัก

“กลับมาแล้วเหรอ” วานาอันยิ้มกว้าง ผุดลุกขึ้น ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความยินดี

ทันที ที่ได้พบวานาอันอีกครั้ง อิสฮานนั้นหัวใจเต้นตูมตามอย่างไม่ทราบสาเหตุ พลางถามตัวเองในใจว่าการที่ไม่พบหน้าวานาอัน4เดือน ทำให้หัวใจของเขาลิงโลดได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ ความตื่นเต้นที่เกิดขึ้นทำให้อิสฮานสมองตื้อ มีหลายสิ่งหลายอย่างอยากจะพูด อยากจะเล่าให้หญิงสาวฟัง ทั้งเรื่องน่าประทับใจ เรื่องสถานที่สวยๆ ที่ตนไปเจอมา ทั้งเรื่องการฝึกหมัด มวย กับฮารีซัน แต่เรื่องที่ภูมิใจที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องที่ฮารีซันยอมรับว่าเขาแข็งแรง ขึ้นและวางใจให้เขาปกป้องดูแลครอบครัวบันดารา หลักฐานก็คือร่างกายที่เริ่มกำยำขึ้นของเขา ซึ่งบ่งบอกว่าเขาผ่านการฝึกที่ยากลำบากมาเพียงไร

“พี่วานาอัน ดูนี่นะ” อิสฮานพูดอวดด้วยความภูมิใจ พลางถอดเสื้อของตนออก แต่ครั้นเห็นว่ารอยยิ้มของวานาอันเลือนหายไปจากใบหน้า หญิงสาวยืนนิ่ง มองดูเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่พูดอะไรสักคำ นอกจากใบหน้าที่แดงก่ำจากไอน้ำ ก็ทำให้อิสฮานพยายามเกร็งกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เพื่ออวดมัดกล้ามที่ดูใหญ่แน่นเห็นเป็นรูปร่างชัดเจน แตกต่างจากรูปร่างผอมบางอย่างเด็กหนุ่มเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด

ด้าน วานาอันที่ยืนนิ่งเฉย จ้องเขม็งไปยังอิสฮานไม่พูดไม่จานั้น ที่จริงแล้วหญิงสาวกำลังตกใจจนทำอะไรไม่ถูก รู้สึกกระอักกระอ่วนแปลกๆ อยู่ในใจ ภาพที่เธอเห็นตรงหน้าไม่ใช่เด็กชายตัวเล็กที่ตามติดเธอเหมือนน้องชาย แต่กลับกลายเป็นหนุ่มน้อยที่หน้าตาหล่อเหลา มีรูปร่างที่แข็งแกร่งดูเป็นชายหนุ่ม และแม้แต่เสียงที่เรียกชื่อเธอก็ไม่ใช่เสียงเล็กๆที่เธอคุ้นเคย แต่เป็นเสียงทุ้มต่ำที่แปลกหู และเมื่อเขาเริ่มวางท่าทางเพื่ออวดร่างกายที่มีมัดกล้ามของตน ยิ้มและจ้องมองมายังเธอ เธอก็รู้สึกใจเต้นแรง และรู้สึกตัวว่าเธอต้องเงยหน้าเล็กน้อย เพื่อมองรอยยิ้มนั้น จากแต่เดิมที่เธอต้องก้มลงมองหน้าเขามาตลอด วานาอันรู้สึกเหมือนว่าผู้ที่อยู่ต่อหน้าเธอ คือชายหนุ่มที่เธอเพิ่งได้พบเขาเป็นครั้งแรก เมื่อรวบรวมความคิดได้ เธอก็รู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าซึ่งคงเพราะไอน้ำจากเตาอบ แต่ใจที่เต้นแรงขึ้นมานี้ต่างหาก ที่ยังหาสาเหตุไม่ได้ เธอไม่รู้จะทำตัวอย่างไร จะวางสีหน้าอย่างไร หรือควรพูดอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ จึงได้แต่เงียบและรีบหันหน้าไปมองเตาอบสมุนไพร โดยทำอะไรไม่ถูก

ฝ่าย อิสฮานก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ ระหว่างเดินทางกลับเขาจินตนาการและคาดหวังที่จะเห็นปฏิกิริยาต่างๆ จากวานาอัน ดังเช่นที่เขาได้รับจากบรรดาชาวบ้านและสาวรุ่นที่เห็นเขาจากตามหมู่บ้าน ต่างๆ แต่การยืนนิ่งไม่มีปฏิกิริยาใดๆนั้นเหนือความคาดหมายของเขา จนเขาเองก็รู้สึกประดักประเดิดเช่นกัน

“ทำอะไรหน่ะ!?” เสียงของวูจินทำเอาทั้งสองสะดุ้งหันไปมองเป็นตาเดียว สีหน้าของวูจินเคร่งเครียดขึ้นอย่างที่ทั้งสองไม่ค่อยจะได้เห็นนัก

“เจ้าถอดเสื้อทำไมอิสฮาน?” วูจินถาม แม้น้ำเสียงจะเบาลง แต่ก็ยังแฝงแววตำหนิ

“ข้าอยากอวดให้พี่วานาอันดู ว่าข้าแข็งแกร่งขึ้น...” อิสฮานพูดเสียงค่อยๆ เบาลง เขาไม่แน่ใจว่าทำผิดอะไร

“ใส่ เสื้อซะ” วูจินสั่งเสียงเรียบมองอิสฮานใส่เสื้อจนเสร็จ วูจินมีสีหน้าอ่อนลงก่อนจะเริ่มพูดสั่งสอน “ต่อแต่นี้เจ้าจะเที่ยวถอดเสื้ออวดหญิงสาวแบบนี้อีกไม่ได้ เจ้าโตเป็นหนุ่มแล้วไม่ใช่เด็กๆ เหมือนเมื่อก่อน การที่ถอดเสื้ออวดรูปร่างให้หญิงสาวดูในห้องตามลำพังสองต่อสองเช่นนี้ ต่อให้เป็นพี่น้องก็ไม่ควรทำ เข้าใจไหม?” วูจินพูดอบรมอิสฮานก่อนจะหันมาทางวานาอัน “วานาอัน เจ้าก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว เจ้าโตเป็นสาวจนจะเข้าพิธีแสดงตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้

เจ้า ต้องเรียนรู้ว่าอะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม สิ่งใดควรและสิ่งใดไม่ควร รวมทั้งจะต้องวางตัวอย่างไร? ทีหน้าทีหลังให้รู้จักระมัดระวังตัวให้มากกว่านี้เข้าใจไหม?”

“ครับ/ค่ะ” ทั้งสองรับคำด้วยใบหน้าแดงก่ำ ต่างคนต่างอายและต่างก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างลึกๆภายในใจจากคำพูดของวูจิน

“เอาหล่ะ ถ้าเข้าใจแล้วก็ไปได้หรือจะอยู่ช่วยปู่ปรุงยาต่อก็ตามแต่พวกเจ้า”
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi9 Chapter 17 @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ อังคาร ต.ค. 04, 2011 1:02 am

“ข้า จะอยู่ช่วยครับ/หลานจะอยู่ช่วยท่านปู่ค่ะ” ทั้งสองพูดแทบจะทันที ทำเอาวูจินยิ้มขำ เพราะไม่รู้ว่าอยากจะช่วยจริงๆ หรืออยากเอาใจเพราะสำนึกผิดกันแน่

“หึ หึ ดีละ! ถ้าเช่นนั้นก็มาช่วยกันหั่นใบอิกดราซิลเพิ่ม เพราะดูท่ายาที่เราเตรียมไว้ให้ฮารีซันนำไปสนามรบจะไม่พอ”

“ครับ/ค่ะ” ทั้งสองขานรับด้วยความกระตือรือร้น

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังก้มหน้าก้มตาเตรียมสมุนไพร จู่ๆ อิสฮานก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จึงเอ่ยถามขึ้น

“จริงสิท่านปู่ เมื่อกี้ท่านปู่พูดว่า พี่วานาอันจะเข้าพิธีประกาศตัว มันคือพิธีอะไรหรือครับ?”

“อ้อ พิธีประกาศตัวน่ะรึ?” วูจินพูดโดยที่ยังคงง่วนอยู่กับการชั่งตวงสมุนไพรบนตาชั่ง “ก็เป็นพิธีสำหรับหญิงสาวที่จะต้องผ่านเพื่อประกาศตัวให้ทุกคนในเผ่ารู้ว่า หญิงสาวเหล่านั้นพร้อมจะออกเรือนแล้ว หนุ่มๆ ที่กำลังหาคู่ก็จะได้รู้ว่าหญิงสาวคนใดพร้อมจะมีคู่แล้ว จะได้เริ่มมองหาคู่ชีวิตเพื่อสร้างครอบครัวใหม่ ซึ่งที่จริงวานาอันควรจะได้เข้าพิธีตั้งแต่อายุสิบห้า แต่เพราะสงครามและความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้พิธีถูกระงับไว้มาตั้งสามปี เนื่องจากเป็นพิธีเล็กๆ สำหรับเด็กสาวในเผ่าฟูดินันเท่านั้น เราเลือกจัดเฉพาะงานใหญ่ ๆ ที่สำคัญ ๆ ทว่าปีนี้บรรดาผู้อาวุโสอยากให้จัดพิธีเพราะสถานการณ์ต่างๆ เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ทั้งเราได้สถาปนาเป็นอาณาจักรและได้รวมเผ่าต่าง ๆ เข้าด้วยกันทำให้มีประชากรเพิ่มมากขึ้น บรรดาผู้ชายก็ไม่รู้ว่าหญิงสาวคนใดพร้อมที่จะออกเรือน การผ่านพิธีประกาศตัวก็จะช่วยให้บรรดาหญิงสาวและชายหนุ่มมีโอกาสในการสาน ความสัมพันธ์เพื่อสร้างครอบครัวใหม่ได้ง่ายขึ้น”

อิสฮานพยักหน้า หงึกๆ เมื่อได้ฟังคำอธิบาย ทว่าในใจนั้นกลับดิ่งวูบไปถึงตาตุ่ม เขาคิดว่าสักวันหนึ่งวานาอันคงจะมีคู่ แต่ไม่คิดว่าจะรวดเร็วเช่นนี้ อิสฮานเหลือบไปมองหญิงสาวที่อยู่อีกฟากหนึ่งของห้อง มือของเธอยังคงถือไม้พายเคี่ยวคนยาในหม้อ แต่ดูเหมือนจิตใจของเธอจะไม่ได้อยู่กับการคนยาสักเท่าใดนัก ดูคล้ายกับว่าเธอกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ


s


สอง เดือนหลังจากที่ฮารีซันออกเดินทางไปสนามรบ ก็ถึงพิธีประกาศตัวของหญิงสาวในฟูดินัน ในปีนี้บรรดาสาวรุ่นจากหมู่บ้านต่างๆ ต่างมาชุมนุมกันมากมาย คงเพราะนอกจากจะรวมบรรดาสาวรุ่นจากทั่วสารทิศแล้ว ยังรวมเอาบรรดาหญิงสาวที่ไม่ได้ผ่านพิธีตลอดสามปีเข้าไว้ด้วย จึงกลายเป็นงานที่ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว จากแต่เดิมที่เคยจัดกันในที่ประชุมเผ่า กลับกลายเป็นว่าต้องจัดกันที่ลานกว้างในป่าซึ่งถูกตระเตรียมที่ทางและสร้าง เป็นกระโจมขนาดใหญ่ เพื่อรองรับบรรดาหญิงสาวจำนวนมากในปีนี้
อิส ฮานนั่งรอวานาอันอยู่หน้าห้องของเธอด้วยอาการกระสับกระส่ายระคนตื่นเต้น ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา เขาเห็นบรรดาสาวรุ่นที่เตรียมจะเข้าพิธี ต่างเตรียมตัวกันยกใหญ่ ทั้งเสื้อผ้าอาภรณ์ที่จะใช้เข้าพิธี ทั้งเครื่องประดับ เครื่องประทินโฉมที่บรรดาพ่อแม่ต่างพยายามสรรหามาให้ ทำให้บรรดาพ่อค้าเร่พากันยิ้มแก้มปริ ที่สามารถขายสินค้าได้มากมาย ยิ่งเป็นสินค้าที่มาจากต่างแดนยิ่งราคาสูงและเป็นที่ต้องการมากเป็นพิเศษ

ท่าน ปู่วูจินบอกเขาว่า เดิมทีพิธีประกาศตัวก็ไม่ต้องเตรียมอะไรมากมายเช่นนี้ เพียงแค่เปลี่ยนการแต่งตัวจากชุดแบบเด็กๆ มาเป็นชุดที่ดูเป็นสาวมากขึ้น แต่งองค์ทรงเครื่องอีกนิดหน่อยเท่านั้น และก็เข้าพิธีโดยมีบรรดาผู้เฒ่าหญิงของเผ่ามาร่วมชุมนุมเพื่อให้การอบรมสั่ง สอนการครองเรือน การเป็นภรรยาที่ดีต้องมีหน้าที่ปฏิบัติเช่นไร แต่คงเพราะพิธีห่างหายไปถึงสามปี บรรดาพ่อแม่ก็คงอยากจะให้ลูกของตนดูโดดเด่นที่สุด เพื่อให้มีสิทธิ์เลือกคู่ครองที่ดูดีมีฐานะมั่นคงได้มากขึ้น รวมทั้งบรรดาสาวๆ เองก็คงจะคิดเช่นนั้นด้วย เพราะหากหาคู่ไม่ได้ก็จะถูกมองว่าอาจเป็นผู้หญิงที่บกพร่องในด้านการบ้านการ เรือน หรืออาจเป็นผู้หญิงอัปลักษณ์ จึงไม่สามารถหาคู่ได้ การผ่านพิธีก็เหมือนเป็นการบอกกราย ๆ ว่าหญิงสาวที่ดีควรเริ่มมองหาคู่เพื่อสร้างครอบครัวใหม่ได้แล้ว ดังนั้นพิธีประกาศตัวในปีนี้จึงดูจะมีการประชันโฉมกันอย่างไม่โจ่งแจ้งแต่ก็ รู้สึกได้ถึงการแข่งขันกันอย่างดุเดือดระหว่างหญิงสาว

แน่นอนว่า สำหรับอิสฮานแล้ว เขาไม่เห็นว่าหญิงสาวคนใดในฟูดินันจะสวยสู้วานาอันได้ แต่การรอคอยอยู่หน้าห้องแบบนี้ก็ทำให้เขาอดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ ไม่รู้ว่าวานาอันจะแต่งตัวอย่างไร จะดูแตกต่างจากเดิมมากไหม แต่ที่แน่ ๆ เขามั่นใจว่าจะต้องดูสวยงามมากแน่นอน อิสฮานพยายามหาอะไรทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตนเองก่อนจะคิดฟุ้งซ่านไปไกล จึงหันไปมองชินชินที่กำลังนั่งบนโต๊ะอาหารพลางเคี้ยวดอกไม้สีแดงซึ่งวานา อันเตรียมไว้ให้เป็นอาหารว่างตุ้ย ๆ อยู่

“ดูท่าเจ้าไม่ตื่นเต้นอะไร กับพิธีวันนี้เลยนะ ดูสิ...นั่งกินสบายใจเฉิบเลย” อิสฮานแสร้งพูดเหน็บด้วยความหมั่นไส้ในท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวของชินชิน ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะพูดเช่นนั้นก็ดูเหมือนยังไม่สามารถเรียกความสนใจจากชิน ชินที่กำลังตั้งอกตั้งใจจัดการกับของว่างสีแดงได้ อิสฮานยิ้มอย่างชอบใจเมื่อมองชินชินใช้ปากกัดดึงกลีบดอกไม้ทีละกลีบกิน เขาสังเกตว่าชินชินมีวิธีการกินที่หลากหลาย เหมือนเด็กๆ ที่ชอบสร้างสรรค์วิธีการกินสารพัดเพื่อเล่นกับอาหารของตน บางทีก็กินทีละกลีบแบบนี้ บางทีก็กัดกร้วมทีเดียวทั้งดอก บางทีก็กินจากก้านไล่ขึ้นมาถึงปลายดอกจนดอกไม้มาจุกอยู่ที่ปาก บางทีก็เลือกกินเฉพาะสีไล่ทีละสีจนหมด สร้างความเพลิดเพลินให้คนที่เฝ้าดูไม่น้อยทีเดียว

แกร๊ก !

เสียงกลอน ประตูห้องวานาอันดังขึ้น ทำให้ทั้งคู่หันไปมองเป็นตาเดียว ประตูค่อยๆ แง้มออก เผยให้เห็นวานาอันในชุดเกาะอกสีเขียว ผ้านุ่งยาวคร่อมเข่า ห่มคลุมไหล่บางด้วยผ้าคลุมลวดลายงดงาม สวมหมวกใบเล็กประดับขนนกยาวบนศีรษะ มีกำไลเข้าชุดกันกับผ้าคลุมรัดต้นแขนทั้งสองข้าง ผมดำขลับเป็นเงางามยาวสยายล้อมกรอบใบหน้าหมดจด ช่วยขับให้ผิวหน้าดูผุดผ่อง ริมฝีปากแดงอมชมพูแย้มยิ้มอย่างขัดเขิน

“เป็นอย่างไรบ้าง? ดูตลกไหม?” วานาอันถามอายๆ

“ไม่...ไม่ เลย พี่วานาอันดูสวยมาก” อิสฮานพูดได้เพียงเท่านั้น เพราะได้แต่ยืนตะลึงจ้องมองภาพเบื้องหน้า ดวงใจของเขาเต้นแรงขึ้นอย่างไม่ทันรู้ตัว อยากจะพูดชมความงามของวานาอันมากกว่านี้ แต่สมองก็ตื้อจนคิดคำพูดไม่ออก เพราะแค่คำว่าสวยคงไม่พอบรรยายความงามของหญิงสาว เธอไม่จำเป็นต้องแต่งองค์อะไรให้มากมายก็ดูสวยอยู่แล้ว ทั้งรูปร่างสะโอดสะองค์ กริยาแช่มช้อย ใบหน้างดงามหมดจด แก้มนวลสีชมพูระเรื่อ และริมฝีปากที่แตะแต้มรอยยิ้มอยู่เสมอ เพียงแค่นี้ก็ทำให้ใครๆ หลงรักได้ไม่ยาก แม้แต่ชินชินเองก็ดูจะชอบอกชอบใจ เพราะเขาบนหัวสว่างวาบหลายครั้ง พลางบินสำรวจรอบๆ วานาอันอย่างดีอกดีใจ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi9 Chapter 17 @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ อังคาร ต.ค. 04, 2011 1:04 am

“โอ้ โห วันนี้หลานปู่ดูสวยจริงๆ” วูจินซึ่งเพิ่งกลับจากไปดูการเตรียมงาน ยิ้มกว้างเอ่ยชมอย่างชอบใจ ทำเอาหญิงสาวหน้าแดงด้วยความเขินอาย

“หลานไม่ได้แต่งมากเกินไปใช่ไหมคะ?” วานาอันถามอายๆ

“โอ้ ถ้าเทียบกับพวกสาวๆ ข้างนอกนั่น เจ้าดูจะแต่งน้อยที่สุดเลยเชียวล่ะ” วูจินกล่าวด้วยความขบขัน

“ถ้า อย่างนั้น หลานควรจะแต่งเพิ่มไหมคะ?” วานาอันรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะเธอไม่รู้ว่าควรจะแต่งตัวมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากเธอไม่มีพ่อแม่มาค่อยช่วยแต่งตัวหาเครื่องประดับให้เหมือนหญิงสาว คนอื่น ๆ จริงอยู่ที่เธอไม่เคยรู้สึกว่าการไม่มีพ่อและแม่นั้นจะทำให้เธอรู้สึกขาด ความรักความอบอุ่น

แต่ในเวลาเช่นนี้เธออยากมีแม่มาคอยให้คำแนะนำกับ เธอดังเช่นหญิงสาวคนอื่น ๆ เมื่อไม่มีแม่มาคอยแนะนำ เธอจึงทำได้แต่เพียงนำชุดของแม่ที่เคยใช้ในพิธีมาปรับแก้ให้เข้ากับเธอเท่า นั้น

“เท่านี้พี่วานาอันก็ดูสวยมากแล้ว ผู้หญิงพวกนั้นต่างหากที่แต่งมากเกินไป” อิสฮานรีบพูดขึ้นทันที เมื่อเห็นว่าวานาอันมีสีหน้ากังวล ซึ่งดูไม่เหมาะกับเธอเลย

“อืม...อิส ฮานพูดถูกแล้วหลานรัก” วูจินซึ่งรับรู้ได้ว่าหลานสาวคิดอย่างไร จึงกล่าวปลอบโยนและให้กำลังใจ “ยิ่งแต่งมากแทนที่จะโดดเด่น กลับไม่โดดเด่น เพราะทุกคนแต่งมากๆ เหมือนกันหมด อะไรที่มากเกินไปก็ใช่ว่าจะดี แต่แต่งน้อยไปก็ไม่ได้ แต่งพอดีๆ นี่แหละดีที่สุด พี่ชายเจ้าต้องเสียดายแน่ ๆ ที่ไม่ได้เห็นเจ้าในวันนี้” วูจินพูดพลางพยักหน้าหงึกๆ ทำให้วานาอันยิ้มได้

“เอ้า ไปได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่ทันพิธี” วูจินขะยั้นขะยอหลานสาว

“ค่ะ ท่านปู่” วานาอันยิ้มกว้าง รับรู้ได้ถึงความรักความห่วงใยของคนทั้งสอง

“ท่านปู่ ข้าไปส่งพี่วานาอันนะครับ”

“อืม ไปเถอะ” วูจินโบกมือ

“ชิน ชิน อยู่ที่นี่เป็นเพื่อนท่านปู่นะจ๊ะ แล้วอย่าซนรบกวนท่านปู่ล่ะ” วานาอันหันไปบอกกับชินชิน ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะเข้าใจ เพราะมันกระพือปีกก่อนจะบินไปนั่งข้างๆ ไม้เท้าของวูจิน

“พวกเราไปนะคะ ท่านปู่” วานาอันกล่าวลาก่อนจะเดินออกจากประตูไปพร้อมอิสฮาน

ระหว่างทางที่เดินกันไป อิสฮานก็เห็นด้วยกับวูจินที่กล่าวว่าแต่งมากไปก็ใช่ว่าจะดี เพราะตลอดทางเขาได้เห้นหญิงสาวหลายคนที่มีเครื่องประดับราคาแพงหรือขนาดใหญ่ ประดับ แต่ก็ดูมากเกินไปจนเกินคำว่าสวย และแน่นอนว่าการที่ทุกคนแต่งมาก ๆ ทำให้วานาอันที่แต่งเรียบ ๆ ไม่หวือหวามากกลับดูโดดเด่น เขารู้เพราะใคร ๆ ต่างก็มองมายังบุคคลทั้งสองกันเป็นตาเดียว
วานาอันนั่นไม่ค่อยชอบ ที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาอยู่แล้ว จึงเดินก้มหน้าเล็กน้อย สายตาหลุบต่ำ ทั้งยังไม่ค่อยชินกับชุดที่ใส่จึงค่อย ๆ เดินช้า ๆ ทำให้แลดูเป็นผู้หญิงที่นอกจากจะดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าหญิงแห่งฟูดินันแล้ว ยังมีรูปโฉมงดงามทั้งยังมีกริยามารยาทอ่อนช้อย จนใคร ๆ ต่างก็ถอนสายตาไปจากเธอไม่ได้ โดยเฉพาะบรรดาหนุ่ม ๆ ในเผ่า ซึ่งมองดูวานาอันกันจนตาละห้อย พร้อมส่งแววตาริษยาใส่อิสฮานที่ได้เดินคู่กับเธอ แน่นอนว่าวานาอันไม่ได้สังเกตเห็น แต่อิสฮานซึ่งคอยมองดูปฏิกริยาของผู้คนโดยรอบอยู่ตลอดจึงเห็นทุกอย่าง เขาอดรู้สึกภูมิใจไม่ได้ที่ได้เดินเคียงข้างหญิงสาว และขณะเดียวกันก็รู้สึกไม่ชอบใจเมื่อเห็นสายตาของบรรดาหนุ่ม ๆ ที่มองวานาอัน

เป็นเวลาบ่ายแล้ว เมื่อทั้งสองเดินตามเส้นทางลัดเลาะป่าที่ถูกจัดเตรียมไว้จนมาถึงกระโจมขนาดใหญ่ซึ่งจะใช้เป็นที่ประกอบพิ
ธี เสียงพูดคุยดังเจี๊ยวจ๊าวจนป่าโดยรอบดูคึกคัก จากบรรดาผู้ติดตามหญิงสาวทั้งหลาย บ้างก็เป็นญาติพี่น้อง บ้างก็เป็นพ่อแม่ บ้างก็เป็นชายหนุ่มที่หมายปองสาว ๆ ที่ตามกันมาส่ง

บรรดาหญิงสาว ค่อย ๆ ทยอยเดินเข้าไปในกระโจมพิธี วานาอันมองไปทางประตูกระโจม พลางเงยหน้าขึ้นมองต้นไม้ที่ทั้งคู่ยืนหลบแดดอยู่ ต้นไม้นั้นแผ่กิ่งก้านหนาแน่นให้ร่มเงาได้อย่างดี

“อิสฮาน รอตรงนี้นะ ก่อนพลบค่ำก็คงเสร็จแล้ว”

“อืม” อิสฮานยิ้มตอบ

วานาอันยิ้มรับก่อนจะเดินเข้าไปในกระโจม โดยมีสายตาของอิสฮานมองส่งจะเธอลับตาไป
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi9 Chapter 17 @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ อังคาร ต.ค. 04, 2011 1:05 am

เวลา ผ่านไปหลายชั่วยามแต่พิธีก็ดูท่าจะไม่จบลงเสียที คงเป็นเพราะมีจำนวนหญิงสาวมากกว่าทุกปี ทั้งประเพณีแต่ละเผ่าก่อนที่จะมารวมกันเป็นฟูดินันก็แตกต่างกัน การอบรมสั่งสอนเรื่องต่าง ๆ จึงมีมากมาย ยิ่งบรรดาผู้เฒ่าหญิงจากเผ่าต่าง ๆ ก็มีหลายคน พิธีจึงยาวนานกว่าที่วานาอันเคยรับรู้เมื่อสมัยยังเด็ก วานาอันได้ยินเสียงตีระฆังบอกเวลาอยู่หลายครั้ง แต่ชั่วโมงหลัง ๆ เธอก็เริ่มนับไม่ถูกว่าเป็นเวลาอะไรกันแน่ แต่ที่เธอรู้คือดวงอาทิตย์คงตกไปนานแล้ว เสียงแมลงตอนกลางคืนเริ่มส่งเสียงร้องกันระงม

บรรดาหญิงสาวที่ผ่าน พิธีจะได้รับตะเกียงคนละอันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าได้ผ่านพิธีแล้ว ซึ่งเอาไว้ใช้แขวนที่ในบ้านหลังใหม่ที่จะอยู่กับคู่ชีวิตในอนาคต โดยเป็นสัญลักษณ์ว่าหญิงสาวที่ผ่านการอบรมแล้วจะเป็นแสงสว่างของบ้านนั้น ๆ ซึ่งต้องทยอยเข้าไปรับทีละคนแล้วค่อยออกไปจากกระโจมเพื่อกลับบ้านของตน

กว่า จะถึงคิวของวานาอัน เวลาก็ล่วงเลยไปมากแล้ว วานาอันรับตะเกียงมาถือไว้ด้วยความรู้สึกตื่นเต้น ไม่รู้ว่าเพราะพิธีอันยาวนานหรือเพราะมนต์คลังของตะเกียงที่ทำให้เธอรู้สึก ว่าตนเองเติบโตขึ้นเป็นสาวเต็มตัว ก่อนเข้ามาในกระโจมเธอยังรู้สึกว่าเธอยังเป็นเด็กสาวอยู่เลย หญิงสาวค่อย ๆ เดินออกมาจากซุ้มประตูและมองเห็นว่าภายนอกนั้นมืดแล้ว มีเพียงแสงดาวเท่านั้นที่ช่วยส่องให้เห็นผืนป่า แต่แล้วเมื่อสายตาชินกับแสงสลัวของหมู่ดาว ดวงใจของเธอก็ต้องกระตุกแกว่งไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ ที่ใต้ต้นไม้

“พี่วานาอัน”

เสียงทุ่มต่ำของเขาทำให้วานาอันหัวใจพองโตอย่างไม่ทราบสาเหตุ

“อิส ฮาน?” วานาอันเอ่ยเสียงเบา แม้จะตกใจที่เห็นอิสฮานยังคงรออยู่ แต่ความดีใจก็พรั่งพรูบานอยู่ในอก “ยืนรออยู่ตรงนี้มาตลอดเวลาหรือ? มันนานหลายชั่วยามมากเลยนะ”

“ก็บอกให้รอ ข้าก็รอ” อิสฮานตอบ

วานาอันไม่รู้ว่าอิสฮานตอบด้วยสีหน้าอย่างไรเพราะความมืดสลัว แต่เธอสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริงของเขา ไม่มีความโกรธ ไม่มีอารณ์หงุดหงิดใด ๆ เขาตั้งใจจะรออยู่เช่นนี้จนกว่าเธอจะมา วานาอันคิดดังนั้นก็รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันใด

“ขอบใจนะจ๊ะ” วานาอันตอบพลางยิ้มเอียงอาย เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำมจึงรู้สึกขัดเขินเช่นนี้ จึงได้แต่ขอบคุณความมืดที่ทำให้เธอสามารถซ่อนใบหน้าขัดเขินนี้ได้ “เรากลับกันเถอะจ๊ะ”

“อืม” อิสฮานตอบพลางออกก้าวเดินไปพร้อมกัน “พี่วานาอัน...”

“หืม”

“ถ้าเกิดว่าข้าต้องไปทำธุระนาน ๆ แล้วข้าบอกให้พี่รอบ้าง พี่จะรอข้าหรือเปล่า?” อิสฮานเอ่ยถาม

“รอสิ” วานาอันตอบเสียงเบา ก้มหน้ามองทางเดินด้วยความขัดเขิน โดยที่ไม่รู้เลยว่าคำตอบนั้นทำให้หัวใจของคนฟังนั้นพองโตขึ้นเพียงใด และคงไม่มีทางรู้ว่ามีรอยยิ้มกว้างฉาบบนใบหน้าของเขาตลอดทั้งคืนนั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)


ย้อนกลับไปยัง Summoner Novel

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 7 ท่าน

cron