Chapter 29 การพบกันอีกครั้งของเพื่อนเก่า
ภายในกระโจมใหญ่สีแดงหม่นที่ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการรบของกองทัพซาโลม กษัตริย์ซาดิน ราชินีเนริมอร์ เบลซ เซจและแบล็ค ไวเซอร์กำลังฟังรายงานความคืบหน้าของกองทัพจากแม่ทัพราโชยู
“ช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทหารของเราสูญหายไปหลายร้อยนายพ่ะย่ะค่ะ นี่ยังไม่นับกองลาดตระเวนที่จู่ ๆ ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยอีก”
“หนีทัพรึ?” ราชินีทรงขมวดคิ้วตรัสถามด้วยความสงสัย
“ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ ทหารทุกนายต่างรู้ถึงความน่ากลัวของพวกหน่วยนักล่าสังหารแห่งซาโลม(Zalom Assassin) ว่าหากใครหาญกล้าหนีทัพย่อมหมายถึงการตายอย่างทรมานราวกับตกนรกทั้งเป็น”
“ทหารเป็นร้อยจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้ยังไงกัน” กษัตริย์เพลิงตรัสอย่างหงุดหงิด
“คิดได้อย่างเดียวคือพวกฟีเลเซียมันแอบส่งคนมาลอบตัดกำลังเรา” เบลซ เซจตั้งข้อสังเกต
“ชิ! ก็ไหนเจ้าบอกว่าพวกมันหยิ่งในศักดิ์ศรี และรักเกียรติยศนักหนาไงล่ะ ถ้ามันส่งใครมาลอบตัดกำลังเราจริง มันก็เหมือนไอ้พวกโจรป่าใส่มงกุฎนั่นแหละ ทำเป็นพูดดีกลบเกลื่อนสันดานโจร หึ หึ” ราชินีเนริมอร์ตรัสดูแคลนพลางจ้อง เบลซ เซจ แสร้งขยับโอษฐ์เหน็บแนมโดยไร้เสียง ‘และเจ้าก็สมควรพิจารณาตัวเองที่วิเคราะห์ศัตรูไม่ได้เรื่อง’
แม้อุปราชเฒ่าจะเห็นว่าราชินีลอบเยาะเย้ยตนแต่ก็ยังควบคุมอาการสงบได้อย่างดี เพราะมีเพียงดวงตาเจ้าเล่ห์เท่านั้นที่หรี่แคบลง
“ยังไงข้าก็ต้องการให้สืบเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็วที่สุด” กษัตริย์ซาดินรับสั่ง
ทันใดนั้นเองเสียงร้องโหยหวนบาดลึกที่ทำให้รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งร่างก็ดังขึ้นก่อนที่วิหคโลกันต์นกปีศาจของแบล็ค ไวเซอร์จะบินโฉบเข้ามาภายในกระโจมแกะเกาะลงบนบ่าของพ่อมดดำ แบล็ค ไวเซอร์ยกมือลูบลำคอและอกของมันอย่างรักใคร่ซึ่งมันก็กรอกตาทั้งสี่ไปมาอย่างชอบใจ พลางส่งเสียงสูง ๆ ต่ำ ๆ ในลำคอและผงกหัวไปมาโดยที่แบล็ค ไวเซอร์ก็แสยะยิ้มอย่างพอใจ
“ฝ่าบาท วิหคโลกันต์เพิ่งแจ้งข่าวดีให้กับเราพ่ะย่ะค่ะ เวลานี้ไอ้เจ้าบิชอปเกรเกอรี่มันเดินทางกลับฟีเลเซียเมืองหลวงไปแล้ว”
“ดี สั่งเคลื่อนทัพทันที!” กษัตริย์เพลิงทรงประกาศก้องอย่างยินดี
******************************
ภายในพระราชวังหลวงแห่งฟีเลเซีย บรรดาเสนาฯ อำมาตย์ แม่ทัพนายกอง รวมทั้งราชินีอลิเซีย และ เจ้าหญิงเรจิน่าต่างก็กระวนกระวายใจรอคอยการกลับมาของบิชอปเกรเกอรี่ เพราะจู่ ๆ ก็ได้รับการแจ้งข่าวจากแนวหน้าว่าท่านบิชอปจะเดินทางกลับฟีเลเซีย แต่จะด้วยสาเหตุใดก็มิได้แจ้งชัด ทุกคนจึงต่างรอคอยการมาของท่านบิชอปอย่างใจจดใจจ่อ
“ทูลฝ่าบาท ท่านบิชอปเกรเกอรี่เดินทางมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ” มหาดเล็กรีบเข้ามารายงาน
“รีบเชิญท่านเข้ามา” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงรับสั่งโดยเร็ว ในพระทัยเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ทันทีที่เกรเกอรี่ก้าวเข้ามาภายในท้องพระโรง ทุกสายตาก็จับจ้องไปยังเขาด้วยความวิตกและสงสัยใคร่รู้ถึงข่าวคราวในแนวหน้า รวมทั้งข่าวลือของท่านบิชอปที่อัญเชิญอัศวินสวรรค์ลงมาทำลายล้างศัตรูก็เป็นที่สนอกสนใจของทุกคนไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว หากไม่ใช่เพราะราชินีและเจ้าหญิงประทับอยู่ภายในท้องพระโรงด้วย ท่านบิชอปคงจะโดนเหล่าเสนาฯและแม่ทัพนายกองล้อมหน้าล้อมหลังพร้อมกับคำถามนับร้อยที่ใช้เวลาทั้งวันก็คงตอบไม่จบเป็นแน่ เมื่อเกรเกอรี่โค้งคำนับสตรีสูงศักดิ์ทั้งสอง เจ้าหญิงเรจิน่าก็ทรงรีบเอ่ยขึ้นทันที
“พวกเราดีใจที่เห็นท่านปลอดภัย ท่านบิชอป เกิดอะไรขึ้นหรือถึงได้เร่งเดินทางกลับเช่นนี้?”
“ทูลฝ่าบาท ที่กระหม่อมเดินทางกลับมาไม่ใช่เพราะเกิดเหตุร้ายในกองทัพหรอกพ่ะย่ะค่ะ แต่เป็นเพราะกระหม่อมถูกก่อกวนด้วยศาสตร์มืด ถึงแม้ว่าในครั้งนี้กระหม่อมจะสามารถเอาตัวรอดมาได้ แต่ก็ไม่แน่ว่าครั้งหน้าพวกมันจะมาไม้ไหนอีก จึงจำเป็นต้องกลับมาหาวิธีป้องกันอำนาจมืดอย่างถาวรซึ่งกระหม่อมเชื่อว่าน่าจะมีบันทึกอยู่ที่หอสมุดของอารามหลวงพ่ะย่ะค่ะ”
ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น อำนาจมืดชนิดไหนกันที่ร้ายกาจถึงขนาดบิชอปที่ปราดเปรื่องอย่างบิชอปเกรเกอรี่ยังถูกเล่นงานจนต้องกลับมาค้นคว้าเพิ่มเติม ความสงสัยเรื่องอัศวินสวรรค์จึงแทบจะถูกลืมไปในทันที
“พวกซาโลมใช้ศาสตร์มืดด้วยอย่างนั้นรึ?” ราชินีอลิเซียตรัสถาม แวววิตกกังวลปรากฏอย่างแจ่มชัดในแววเนตร เจ้าหญิงเรจิน่าทรงรู้ดีว่าพระมารดาของตนเป็นห่วงกษัตริย์ซิกมันด์เช่นเดียวกับพระองค์ ศาสตร์มืดในฟีเลเซียและแทบจะทั้งทวีปเมอรีเซียนั้นเป็นวิชาต้องห้ามเพราะความชั่วร้ายของอำนาจมืด ทั้งความร้ายกาจป่าเถื่อนของผู้ใช้ และ ความทรมานอย่างแสนสาหัสของเหยื่อที่ตกเป็นเป้าหมายล้วนแล้วแต่ขัดต่อความดีงามทั้งปวงของพระเจ้า
“พ่ะย่ะค่ะ แต่ขอฝ่าบาทอย่าทรงวิตกกังวลเลย ผู้ที่ใช้ศาสตร์มืดในระดับสูงเช่นนี้มีไม่มาก ลำพังการที่จะใช้พลังเวทย์ในการสร้างกองทัพปีศาจจำนวนมากก็ต้องใช้เวลาในการฟื้นพลังอยู่ไม่ใช่น้อย พวกมันไม่น่าจะใช้วิธีแบบเดียวกันได้ในเวลาอันสั้น กระหม่อมจะรีบหาวิธีจัดการให้ได้เร็วที่สุด แล้วจะรีบกลับไปอารักขากษัตริย์ซิกมันด์ทันที”
ราชินีอลิเซียทรงพยักพระพักตร์อย่างพอพระทัยในคำมั่นของบิชอป เจ้าหญิงเรจิน่าจึงตรัสขึ้น
“ระหว่างที่ท่านค้นคว้าอยู่ที่นี่ หากท่านต้องการความช่วยเหลือใด ๆ ก็บอกเรามาได้ทันที เราจะอำนวยความสะดวกให้ท่านอย่างเต็มที่”