Welcome Guest: เข้าสู่ระบบ | สมัครสมาชิก วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ มี.ค. 29, 2024 8:32 pm

หน้าเว็บบอร์ด Wiser Summoner Novel @@ นิยายSMN Epi8 Chapter 26 เหตุการณ์ประหลาดกลางป่าลึก @@

อ่านนิยาย Summoner Master Episodeต่าง ๆ ได้ที่นี่

Moderator: Jinger Ginger


@@ นิยายSMN Epi8 Chapter 26 เหตุการณ์ประหลาดกลางป่าลึก @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ พฤหัสฯ. ส.ค. 20, 2009 12:20 pm

Chapter 26 เหตุการณ์ประหลาดกลางป่าลึก



กลางตลาดใหญ่ในฟีเลเซียเวลานี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่ออกมาจับจ่ายซื้อของ วันนี้ตลาดดูจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะชาวเมืองต่างก็เริ่มกว้านซื้อสินค้าและอาหารเพื่อกักตุนไว้ใช้หากสงครามขยายวงกว้างขึ้น เด็กส่งสารหลายคนขี่คูกาโร่วิ่งไปตามถนนพร้อมแผ่นพับหอบใหญ่ในกระเป๋าหนังสีน้ำตาล พลางร้องตะโกนเสียงดัง

“ข่าวด่วนครับ ชาวเมืองวอลเนียถูกทหารปีศาจฆ่าล้างเมือง”

“ข่าวด่วนจากเมืองวอลเนียครับ ท่านบิชอปเกรเกอรี่อัญเชิญอัศวินสวรรค์ทำลายกองทัพปีศาจที่เมืองวอลเนียจนราบเป็นหน้ากลองในพริบตา”

บรรดาเด็ก ส่งสารวิ่งไปตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งจะมีป้ายแผ่นไม้ขนาดใหญ่ไว้สำหรับปิดประกาศต่าง ๆ พลางแปะแผ่นพับลงบนป้ายประกาศเหล่านั้น

ชาวเมืองฟีเลเซียต่างรีบไปยืนมุงที่ป้ายประกาศเพื่ออ่านเนื้อหาของข่าวสาร เพราะล้วนก็อยากจะรู้ข่าวคราวของสงคราม และอาจจะได้รับรู้ข่าวญาติพี่น้องของตนที่ไปร่วมรบกับกองทัพ ซึ่งหนึ่งในจำนวนชาวเมืองที่รุมกันอยู่นั้นก็มีสาวนามเดเปเป้รวมอยู่ด้วย เมื่อได้อ่านข่าวต่าง ๆ จนจบแล้วก็รีบตรงดิ่งไปยังร้านขายเครื่องดื่มเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก

“มาแล้วจ๊ะ โดโปโป้” เดเปเป้วิ่งเข้ามาพลางโบกมือเรียกเพื่อนสาวอย่างอารมณ์ดี เสียงพยายามกลั้นหัวเราะดังมาจากโต๊ะโดยรอบ จนทำให้หญิงสาวนามโดโปโป้อายจนหน้าแดง เธอรีบวางเงินจำนวนห้าเดนาริอันพลางลุกขึ้นยืน

“ฉันว่าเรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ เดเปเป้” ทันทีที่โดโปโป้เรียกชื่อเพื่อนสาว เสียงกลั้นหัวเราะก็แทบจะดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง พร้อมกับมีเสียงสำลักน้ำของใครบางคนด้วย โดโปโป้อายจนหน้าแดงไปถึงหูก่อนจะรีบจูงเดเปเป้เดินจ้ำออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว

“พระองค์ทรงตั้งชื่อประหลาด ๆ อีกแล้วนะเพคะ ดูสิ...เขาขำกันใหญ่เลย” โดโปโป้พูดเสียงเบาพลางหันไปมองภายในร้าน และเห็นลูกค้าในร้านหลายคนยังคงหัวเราะกันอยู่

“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย นี่เราช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายความตึงเครียดในภาวะสงครามนะ” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงหัวเราะอย่างร่าเริงขำกับปฏิกิริยาของนางกำนัลคนสนิทพลางเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น

“แล้วพระ....แล้วนั่นเธอกำลังจะไปไหนจ๊ะ” นางกำนัลรีบเปลี่ยนคำพูดเมื่อมีป้าแก่ ๆ เดินสวนมา

“ฉันจะรีบกลับบ้าน เพราะมีที่ที่น่าสนใจจะต้องไปสำรวจสักหน่อย เธอก็รีบเดินเข้าสิจ๊ะ” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสอย่างร่าเริงในขณะที่นางกำนัลนั้นเริ่มไม่ไว้ใจกับสถานที่ที่น่าสนใจของเจ้าหญิง

“น่าสนใจที่ว่านะ น่าสนใจในแง่ไหนเพคะ” นางกำนัลเร่งฝีเท้าจนทัน พลางกระซิบเสียงเบา

“เอาเถอะ เราจะอธิบายให้ฟังระหว่างทางแล้วกันจ๊ะ” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสเร็ว ๆ ก่อนจะเลี้ยวไปทางหลังตลาดเพื่อถอดคราบสาวชาวบ้าน กลับไปเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ตามเดิม


ระหว่างทางที่นำไปสู่ป่าทึบบนภูเขา ขบวนเสด็จของเจ้าหญิงเรจิน่าซึ่งประกอบด้วยนางกำนัลคนสนิท และทหารรักษาพระองค์ยี่สิบนายตามเสด็จเพื่อคอยอารักขา นางกำนัลควบม้าเข้าไปใกล้ กล่าวกระซิบเหลือบมองจำนวนทหารที่ติดตามมา

“พระองค์ทรงคิดว่านำทหารรักษาพระองค์มาเพียงเท่านี้จะพอหรือเพคะ” นางกำนัลทูลถาม สีหน้าแสดงความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“ทำไมถึงจะไม่พอล่ะ เราไม่ได้ไปออกรบสักหน่อย อีกอย่างพวกเขาก็ล้วนแล้วแต่ได้ชื่อว่ามีฝีมือดีกันทั้งนั้น แล้วเราเองก็มีฝีมือพอที่จะปกป้องตัวเองได้” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงยิ้ม พลางตรัสกระเซ้า “รวมถึงปกป้องเจ้าได้ด้วยนะ”

“ฝ่าบาทอย่างทรงล้อเล่นสิเพคะ หม่อมฉันมีหน้าที่ปกป้องพระองค์ด้วยชีวิตนะเพคะ แล้วอีกอย่างที่หม่อมฉันทูลก็เพราะว่าเรายังไม่รู้ว่าจะมีอะไรที่กลางป่าทึบนั่น” นางกำนัลยังไม่คลายความวิตก

“ก็จากในข่าวที่ปิดประกาศนั่น ก็แค่มีการระเบิดเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในเวลากลางคืน มีเสียงระเบิดบางครั้งในเวลาช่วงบ่าย ๆ มีเสียงดังแปลก ๆ ที่แหลมลึกจนลั่นป่า ทำให้ชาวบ้านหลายคนไม่กล้าออกไปล่าสัตว์ ดังนั้นเราผู้ซึ่งรับหน้าที่ดูแลความสงบสุขของฟีเลเซียชั่วคราวก็ต้องออกมาสำรวจและให้ความกระจ่างถึงที่มาที่ไปของปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นแก่บรรดาชาวบ้านสิ” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงอธิบายอย่างไม่ทุกข์ร้อน พลางทอดพระเนตรชื่นชมทิวทัศน์โดยรอบ

“ก็นั่นแหละเพคะ ไม่แน่อาจจะเป็นพวกทหารปีศาจของซาโลมแอบมาสร้างขุมกำลังในป่าลึก แล้วพวกมัน...”

“เจ้าวิตกกังวลจนเกินเหตุแล้ว” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงยิ้มขัน ๆ “ทางที่เราไปเนี่ย อยู่คนละฟากกับสนามรบเลยนะ ไม่แน่นะว่าอาจจะเป็นแค่ภูตผีปีศาจที่ออกมาหากินในป่าลึก”

“ภูตผีปีศาจอย่างนั้นรึเพคะ ถ้าเช่นนั้นทำไมพระองค์ไม่เอานักบวชมาด้วยสักองค์สององค์ละเพคะ” นางกำนัลตัวลีบเหลียวซ้ายแลขวาอย่างหวาด ๆ ทำให้เจ้าหญิงเรจิน่าทรงหัวเราะเสียงใส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi8 Chapter 26 เหตุการณ์ประหลาดกลางป่าลึก @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ พฤหัสฯ. ส.ค. 20, 2009 12:26 pm

“เจ้านี่ชอบตื่นตระหนกวิตกกังวลจนเกินเหตุจริง ๆ เลย เราล้อเจ้าเล่นต่างหากล่ะ” เจ้าหญิงเรจิน่าแอบทำหน้าทะเล้นใส่นางกำนัล “มาเถอะ นี่ก็ใกล้จะถึงจุดที่มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นแล้ว พวกเราผูกม้าไว้แถวนี้แล้วลงเดินสำรวจรอบ ๆ กันดีกว่า” เมื่อกล่าวจบ เจ้าหญิงเรจิน่า ก็ให้สัญญาณแก่เหล่าทหารองครักษ์พลางเหวี่ยงตัวลงจากหลังม้า

“แน่พระทัยรึเพคะ หม่อมฉันว่าเรากลับไปตามทหารหรือนักบวชมาเพิ่มเพื่อความไม่ประมาทจะดีกว่านะเพคะ” นางกำนัลกระซิบ มือยังคงง่วนอยู่กับสายบังเหียนที่เธอพยายามผูกเข้ากับกิ่งไม้

“ไม่‘ดีกว่า’จ๊ะ แบบนี้แหละดีแล้ว วันนี้เราอาจจะเจอหรือไม่เจออะไรเลยก็ได้ ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้วจะกลับไปกลับมาให้เสียเวลาทำไม” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงกระตุกปมที่สายบังเหียนสองสามทีเพื่อให้แน่พระทัยว่าม้าสะบัดไม่หลุด แล้วจึงทรงหยิบดาบออกมาจากฟัก “เอาล่ะ เริ่มสำรวจได้”

นางกำนัลจำใจดึงดาบออกจากฝักเดินตามนายของตนพร้อมกับเหล่าทหารองครักษ์ เจ้าหญิงเรจิน่าและคณะเดินสำรวจมาได้สักพักหนึ่งก็เริ่มพบร่องรอยต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นหลุมขนาดต่าง ๆ เศษดินเศษหินที่แตกกระจายเกลื่อนพื้น ซากหักโค่นของต้นไม้รวมไปถึงรอยไหม้ตามต้นไม้ต่าง ๆ ทุกคนจึงเริ่มระวังตัวกันมากขึ้นพลางเหลียวซ้ายแลขวามองหาสิ่งผิดปรกติ

ปี๊บบบบบบบบบบบบ! ปี๊บบบบบบบบบบบบบบบ!

เสียงที่แหลมจนแสบแก้วหูจู่ ๆ ก็ดังสั่นขึ้นจากทิศทางได้ไม่อาจรู้ได้ ทำให้เจ้าหญิงเรจิน่าและคณะต้องรีบหาที่ซ่อนตัวด้วยความรวดเร็ว โดยเจ้าหญิงเรจิน่าและนางกำนัลหลบอยู่หลังก้อนหินขนาดไม่ใหญ่นักในขณะที่เหล่าทหารองครักษ์คนอื่น ๆ ซุ่มหลบอยู่ตามพุ่มไม้หนาทึบใกล้ ๆ

ปี๊บบบบบ แซกกกกกกก แซกกกกกกกกกกกก ตูมมม!

จู่ ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นไม่ไกลจากที่ซ่อนตัวของพวกเจ้าหญิงเรจิน่านัก ทุกคนต่างมองหน้ากันราวกับจะถามความเห็นกันว่าควรจะทำอย่างไรกันดี โดยมีนางกำนัลจับพระหัตถ์เจ้าหญิงเรจิน่าเขย่าพลางส่ายศีรษะแรง ๆ อย่างหนักแน่น ซึ่งดูเหมือนเจ้าหญิงเรจิน่าจะไม่ทรงสนพระทัยท่าทางของนางเท่าไหร่เมื่อพระองค์เอ่ยขึ้น

“การระเบิดเมื่อครู่ดูท่าจะอยู่ไม่ไกลจากเราเท่าไหร่ ทุกคนระวังตัวมากขึ้นด้วย” เจ้าหญิงเรจิน่ารับสั่งเสียงเบา

“ฝ่าบาท มันไม่ปลอดภัยกับพระองค์เลย ประทับอยู่ที่นี่เถิดเพคะ”นางกำนัลวิงวอน

ปี๊บบบบบ แซกกกกกกก แซกกกกกกกกกกกก ปิ๊บ ปิ๊บ!

เสียงประหลาดนั่นดังขึ้นอีกครั้ง และทันใดนั้นเองด้วยความไม่คาดฝัน จู่ ๆ ทุกคนก็ได้ยินเสียงใครสักคนร้องดังลั่นป่า

“อ๊ากกกกกกก....กกกกกกกก........กกกกก................อ๊ากกกกกกกก.....กกกกกกกกกก” เสียงร้องดังขาดเป็นห้วง ๆ จากป่าด้านหน้า ทำให้ทุกคนต้องลอบโผล่หน้าแอบดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ฉับพลันนั้นเองใครคนหนึ่งจู่ ๆ ก็พุ่งเข้าชนนางกำนัลจนล้มกลิ้ง นางกำนัลกรีดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจสุดขีดประสานกับเสียงร้องของชายแปลกหน้าที่ดังแข่งกับเสียงของเธอ เหล่าองครักษ์ต่างพุ่งตัวออกมาแทบจะพร้อมกันเพื่ออารักขาเจ้าหญิงและรีบตรงเข้าไปกระชากเจ้าคนแปลกหน้าออกจากร่างของนางกำนัล ทันทีที่นางกำนัลเป็นอิสระก็รีบตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนขวางหน้าเจ้าหญิงแม้ตัวเองจะยังหน้าตาซีดเผือดตื่นตระหนกด้วยความตกใจ ในขณะที่ชายแปลกหน้ายังคงร้องเสียงหลงอยู่นั่นเอง ที่กางเกงของเขามีรอยไหม้ไฟที่ยังมีควันสีจาง ๆ โชยออกมา นายทหารเขย่าร่างของเขาแรง ๆ พลางสั่งให้เงียบ ทว่าพวกเขากลับได้ยินเสียงดังก๊องแก๊งเหมือนโลหะกระทบกันดังออกมาจากตัวของชายแปลกหน้า ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นก่อนจะตะโกนร้องเสียงหลงอีกครั้ง ทว่าในครั้งนี้เหล่าทหารที่เห็นใบหน้าของเขากลับต้องสะดุ้งตกใจจนรีบปล่อยมือออกจากคอเสื้อของชายแปลกหน้าคนนั้นทันทีพร้อมกับหันปลายดาบใส่เขาด้วยสัญชาตญาณ

“อ๊า.............ช่วยด้วย......แก๊ก......ข้าศึกบุก..บุก...บุก.....ท...ทิ...ทิโม...ธี...ธี...ธ..แก๊ก.....ช่วยด้วย..ด้วย.....แก๊ก.....อ๊ากกกกก”เจ้าหญิงเรจิน่าและนางกำนัลจำได้ทันทีว่านี่คือเจ้าหุ่นกระป๋องทินทอนนั่นเอง

“ทินทอน ทินทอน” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงพยายามเรียกชื่อแข่งกับเสียงร้องของเจ้าหุ่น

“ท..ทิ..ทิโมธี ทิโม...โม....โม....โมธี.....แก๊ก แก๊ก ...ช่วยด้วย..ช่วย....ช่วย...ช่วยด้วย แก๊ก” เจ้าหุ่นยังคงหลับหูหลับตาร้องเสียงขาด ๆ หาย ๆ เพราะทั้งตกใจและเครื่องรวน

“ทินทอน!” เสียงชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นก่อนที่ร่างของเขาจะวิ่งฝ่าพุ่มไม้หนาเข้ามาด้วยความเร็วและชนกับทหารนายหนึ่งอย่างจังจนล้มกลิ้งไปกันพื้นทั้งคู่

“แค่ก ๆ ๆ ” ทิโมธีไอไล่ความจุกก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับมองเหล่าทหารด้วยความประหลาดใจ โดยมีทินทอนถลาเข้ามาตะเกียดตะกายเกาะเกี่ยวคอจนเกือบจะล้มคะมำไปอีกรอบ

“ทิโม...ธี....แก๊ก....ข้าศึก....ศึก....บุกแล้ว.... แก๊ก...หนี...หนี.....หนีเร็ว...แก๊ก....” ทินทอนพูดอย่างไม่ลืมหูลืมตา

“ทินทอนดูดี ๆ สิ พวกเขาเป็นทหารฟีเลเซียต่างหาก ไม่ใช่ข้าศึกที่ไหนสักหน่อย”ทิโมธีต้องใช้เวลาพักหนึ่งจึงจะทำให้ทินทอนหยุดร้องโวยวายได้

“ทหาร.....หาร.....แก๊ก....ฟีเล...เล...เซีย...เหรอ....แก๊ก” ทินทอนลืมตาขึ้นมองไปรอบ ๆ โดยมีสายตาทั้งประหลาดใจและระแวดระวังจากบรรดาทหารจ้องกลับมา

ทิโมธีกวาดตามองไปรอบ ๆ ประหลาดใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นทหารองครักษ์มากมายในป่าทึบเช่นนี้จนสายตากวาดไปเห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของสตรีทั้งสอง “อ๊ะ!พวกเจ้า....เออ.....แอดชูว์ กับบูลี่ใช่มั๊ย” ทิโมธีกล่าวทักอย่างยินดีเมื่อได้เจอเพื่อนร่วมชมรมผู้คลั่งไคล้สิ่งประดิษฐ์และการทดลองที่มนุษย์มองข้าม ข้างฝ่ายทินทอนก็รีบถอดหมวกออกโค้งราวกับสุภาพบุรุษ

“คุณผู้หญิงทั้งสอง...สอง..แก๊ก.....นั่น...นั่นเอง” ทินทอนกล่าวอย่างกระฉับกระเฉงรีบเดินเข้าไปหา ทว่าบรรดานายทหารรีบก้าวเข้ามาขวางทันที

“บังอาจ!เจ้าพวกไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ท่านผู้นี้คือเจ้าหญิงเรจิน่าแห่งฟีเลเซีย มิใช่หญิงชื่อประหลาดที่เจ้าเรียก” หัวหน้าองครักษ์ประกาศเสียงกร้าว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi8 Chapter 26 เหตุการณ์ประหลาดกลางป่าลึก @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ พฤหัสฯ. ส.ค. 20, 2009 12:27 pm

ทิโมธีมองเจ้าหญิงเรจิน่าและนางกำนัลด้วยความงุนงง ในขณะที่ทินทอนทำท่าเหมือนจะเถียงเหล่าทหาร เจ้าหญิงเรจิน่าจึงรีบตรัสขึ้น “พวกเจ้ากลับไปรอเราที่ที่พวกเราผูกม้าไว้ก่อนแล้วกัน เดี๋ยวเราจะตามไป”

“แต่ฝ่าบาท...” หัวหน้าองครักษ์แย้งขึ้นพลางมองชายหนุ่มที่เนื้อตัวมอมแมมเต็มไปด้วยคราบเขม่าและมีรอยไหม้ไฟตามเสื้อผ้าหลายที่ ก่อนจะเหลือบไปมองหุ่นยนต์ประหลาดที่ดูไม่น่าไว้ใจนั่น

“ไม่เป็นไร ทั้งสองเป็นสหายของเราเอง พวกเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงเราจะออกไปสมบทกับพวกเจ้าแน่นอน” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสสำทับ

“ใช่..แก๊ก..เราเป็น...เป็น....ส....ส....สหาย....หายกัน แก๊ก” ทินทอนยืดอก เชิดหน้าขึ้นพูดอย่างอวด ๆ

“ทิ้งทหารไว้สักจำนวนหนึ่งไหมพ่ะย่ะค่ะ” หัวหน้าองครักษ์เสนออย่างไม่ค่อยวางใจเท่าใดนัก

“ไม่จำเป็น เหลือนางกำนัลไว้คนเดียวก็พอ พวกเจ้าไปได้แล้ว” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจึงทำให้เหล่าองครักษ์ยอมปฏิบัติตามแม้จะไม่ค่อยเต็มใจนัก

เมื่ออยู่กันตามลำพังแล้ว เจ้าหญิงเรจิน่าจึงทรงหันไปตรัสกับทิโมธีด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด

“ขอโทษนะที่ทำให้พวกท่านต้องมาทราบความจริงเรื่องฐานะของพวกเราในลักษณะนี้ เราไม่ได้มีเจตนาจะปกปิดเพื่อความสนุกในการหยอกล้อท่านหรอกนะ เราเพียงแต่ไม่อยากให้ผู้คนแตกตื่นเวลาที่พวกเราออกมาเดินภายนอกปราสาท”

“เออ...อา.....กระหม่อมเข้าใจ” ทิโมธีตอบ สีหน้าเศร้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด “ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าพระองค์ไม่ใช่สมาชิกชมรมผู้คลั่งไคล้สิ่งประดิษฐ์และการทดลองที่มนุษย์มองข้ามด้วยใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?”

“ใช่ เราขอโทษที่ต้องหลอกท่านเรื่องนั้นด้วย” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสขออภัยอีกครั้งเมื่อทรงเห็นว่าทิโมธีก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง เจ้าหญิงเรจิน่าทรงหันไปทางนางกำนัลเหมือนกับจะขอให้ช่วยกันพูดปรับความเข้าใจกับทิโมธี

“ท่านนักประดิษฐ์ เจ้าหญิงไม่ได้ตั้งใจจะหลอกท่านจริง ๆ นะ พระองค์แค่...” นางกำนัลพูดยังไม่ทันจบจู่ ๆ ทิโมธีก็เงยหน้าขึ้นมาถามอย่างร่าเริงและกระตือรือร้น


“ถ้าเช่นนั้นพระองค์สนใจจะสมัครเป็นสมาชิกชมรมผู้คลั่งไคล้สิ่งประดิษฐ์และการทดลองที่มนุษย์มองข้ามไหมพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนำใบสมัครติดตัวมาด้วย”

คำพูดของนักประดิษฐ์ทำให้เจ้าหญิงเรจิน่าทรงหัวเราะออกมาทันทีเพราะความผิดคาดในปฏิกิริยาของนักประดิษฐ์หนุ่ม “ด้วยฐานะของเราคงไม่เหมาะ พวกเราขอเป็นสมาชิกลับแบบไม่เปิดเผยตัวก็แล้วนะ”

“พวกเรารึเพคะ.....หมายถึงหม่อมฉันด้วยรึเพคะ” นางกำนัลย้อนถามทำตาโตด้วยความตกใจ

“โอ้...หรือว่าเจ้าอยากจะเป็นสมาชิกอย่างเปิดเผยละ ถ้าเจ้าอยากจะเป็น...ก็ได้นะข้าอนุญาต” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงแสร้งทำดวงเนตรโตเลียนแบบตรัสถามย้อนอย่างขำ ๆ เพราะรู้ว่านางกำนัลคิดอย่างไร

นางกำนัลทำปากพะงาบ ๆ พูดไม่ออกอยู่ครู่ใหญ่ แต่เมื่อเหลือบไปเห็นว่าทั้งทิโมธีและทินทอนกำลังลุ้นกับคำตอบของเธออย่างตื่นเต้น นางกำนัลจึงรีบส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวออกมาในที่สุด

“พระองค์เป็นแบบไหน หม่อมฉันก็จะเป็นแบบนั้นเพคะ”

ทิโมธีและทินทอนรู้สึกว่าตัวห่อเหี่ยวลงเล็กน้อยเพราะผิดหวังกับคำตอบ ทิโมธีใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ยิ้มกว้างกล่าวออกมาในที่สุด “อืม...อย่างน้อยเป็นสมาชิกลับก็ยังดีกว่าไม่เป็นอะไรเลย ถ้าเช่นนั้นก็แล้วแต่พระองค์จะเห็นควรแล้วกันพ่ะย่ะค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้น...นั้น...แก๊ก....ทินทอน....ทิน...ทอน...แก๊ก...ก็ต้องถวายบัง....บัง...บัง.....บังคมให้เจ้า....เจ้า...แก๊ก...เจ้าหญิงเป็นการต้อนรับ....แก๊ก...สมาชิก..ชิก...ชิกลับสิ....แก๊ก” ทินทอนดูจะยินดีมิใช่น้อยเมื่อจะได้ต้อนรับเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ จึงรีบโค้งคำนับอย่างสวยงาม

“ไม่เป็นไรหรอกทินทอน เงยหน้าขึ้นเถอะ” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสเมื่อทรงเห็นว่าทินทอนไม่ยอมเงยหน้าขึ้นสักที

“อีกแล้วรึทินทอน” ทิโมธีพูด ก่อนจะหยิบไขควงออกมาจากด้านในของเสื้อแจ๊คเก็ต พลางขันน๊อตตรงส่วนคอบ้างตรงหลังบ้างสามสี่ที่ แล้วจึงหยดน้ำมันที่พกไว้ในกระเป๋าเสื้อลงตามข้อต่อแล้วจึงใช้มือทุบเบา ๆ ที่หลัง ทันใดนั้นทินทอนก็กระเด้งตัวขึ้นมาหัวเราะร่า

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อยู่มานานแล้วก็ต้องมีขัด ๆ ยอก ๆ เป็นธรรมดา...แก๊ก” ทินทอนยกมือขึ้นตบหัวตัวเอง คำพูดไม่ติด ๆ ขัด ๆ เหมือนตอนแรกแล้ว “นี่เราพูดถึงไหนกันแล้วนะ...แก๊ก อ๋อ!ใช่...เจ้าหญิง ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ” ทินทอนโค้งอย่างนบน้อมอีกครั้ง

“ฮ่า ฮ่า ตามสบาย” เจ้าหน้าเรจิน่าทรงแสร้งดัดเสียงทุ้มต่ำวางมาดอย่างพวกเจ้านายชั้นสูง

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ...แก๊ก” ทินทอนเงยหน้าขึ้นพลางยืดอกขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ

ทิโมธีมองเจ้าหญิงเรจิน่าอย่างใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด “พระองค์ดูไม่เหมือนเจ้าหญิงเลย พระองค์ดูสนุกสนาน ร่าเริง ไม่ถือตัวและมีอิสระอยากจะไปไหนก็ไปได้ ถ้ากระหม่อมไม่เห็นขบวนองครักษ์ที่ติดตามมาด้วยอย่างวันนี้ กระหม่อมคงไม่มีวันเชื่อว่าพระองค์เป็นเจ้าหญิงแน่ ๆ ”

เจ้าหญิงเรจิน่าทรงยิ้มเมื่อนึกถึงอุปนิสัยของตัวเองที่ผิดแผกไปจากเจ้านายหรือเชื้อพระวงศ์คนอื่น ๆ ตามความคิดเห็นของทิโมธี สายลมสดชื่นโชยพัดพาเอากลีบดอกไม้สีขาวสองสามกลีบหมุนวนตามแรงลมก่อนจะพัดผ่านเจ้าหญิงเรจิน่าไป

“เพราะเสด็จแม่ทรงเลี้ยงดูเราให้มีอิสระเหมือนอย่างสายลม” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงยิ้มเมื่อนึกถึงมารดาพลางเหลือบมองใบไม้ที่สะบัดพลิ้วลู่กิ่งไหวหยอกล้อกับสายลมที่โชยพัดมาเบา ๆ “สายลมไร้รูปร่าง อิสระ มิอาจกักขัง หากเราไร้อิสระ เราก็ไม่ใช่ลมหากแต่เป็นเพียงนกในกรงเท่านั้น”

นางกำนัลมองเจ้าหญิงของตนยิ้มน้อย ๆ ด้วยความเข้าใจและชื่นชม เธอโชคดีกว่าข้าราชบริพารคนอื่น ๆ มากนักเพราะได้เป็นนางกำนัลคนสนิทของเจ้าหญิง แม้ว่าเจ้าหญิงจะทรงทำให้เธอตกอยู่ในสถานการณ์แปลก ๆ ที่น่าอับอายบ้างน่าขบขันบ้าง แต่เธอก็มีความสุขและสนุกสนานที่ได้อยู่กับเจ้าหญิงที่เต็มเปี่ยมด้วยความเฉลียวฉลาด เก่งกาจ และสนุกสนานกับทุกสิ่ง คงไม่มีใครในฟีเลเซียที่จะอารมณ์ดี ร่าเริงและเพียบพร้อมในทุกด้านเท่ากับเจ้าหญิงของเธออีกแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi8 Chapter 26 เหตุการณ์ประหลาดกลางป่าลึก @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ พฤหัสฯ. ส.ค. 20, 2009 12:28 pm

“นก นก ทิโมธีก็มีนกเหมือนกัน...แก๊ก” ทินทอนพูดอวด

“นกอะไร” ทั้งทิโมธี เจ้าหญิงเรจิน่า และนางกำนัลพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน

“อ้าว ท่านเป็นเจ้าของนก ท่านไม่รู้รึว่าตัวเองเลี้ยงนกอะไรไว้” นางกำนัลถาม เบิกตากว้างด้วยความสงสัย

“ข้าไม่ได้เลี้ยงนกสักหน่อย” ทิโมธีทำหน้ายุ่ง ขมวดคิ้วมองทินทอน

“เลี้ยงสิ เลี้ยง นกที่ร้องปี๊บ ปี๊บ ปล่อยแสงได้ด้วย แก๊ก เมื่อกี้มันยังปล่อยแสงใส่ทินทอนเลย” ทินทอนยกมือขึ้นทำท่าเหมือนจะพยายามเลียนแบบนกตัวนั้นก่อนจะชี้รอยไหม้ที่กางเกงให้ดู

เมื่อทิโมธีเห็นดังนั้นก็เงยหน้าระเบิดเสียงหัวเราะลั่น “นั่นใช่นกที่ไหนกันละทินทอน”

“อ๊ะ!ที่แท้พวกท่านเป็นตัวการของเสียงร้องประหลาดนั่นเอง รวมถึงการระเบิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นในป่าแถบนี้ด้วยใช่มั๊ย” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสถามขึ้นทันใด

“พระองค์มาที่นี่เพราะเรื่องนี้เองหรอกหรือพ่ะย่ะค่ะ” ทิโมธีถามอย่างตกใจ ก่อนจะพูดเสียงเบาอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “กระหม่อมอุตส่าห์หนีมาทำการทดลองไกลขนาดนี้แล้วยังมีคนฟ้องเรื่องการระเบิดอีกเหรอ กระหม่อมไม่ได้อยากให้มันระเบิดบ่อย ๆ สักหน่อย”

“ใช่ ใช่ ทิโมธีไม่ได้ทำระเบิดนะ มันระเบิดเองทุกครั้งต่างหาก แก๊ก” ทินทอนพยายามพูดปกป้องเพื่อนรักแต่ดูเหมือนจะกลายเป็นการพูดซ้ำเติมมากกว่า ทำให้สองสาวต้องพยายามกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่ ในขณะที่ทิโมธีขมวดคิ้วมองทินทอนด้วยความไม่แน่ใจในคำพูดของเจ้าหุ่นกระป๋อง

“หมายความว่าท่านมาทดลองอะไรในป่านี่นะหรือ?” นางกำนัลถามต่อแม้ยังรู้สึกขบขันอยู่

“เออ...อืม...ก็ใช่” ทิโมธีมีท่าทีลังเล

“เราอยากจะเห็นจังเลย” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสอย่างกระตือรือร้น

“แต่มันไม่ค่อยปลอดภัยกับพระองค์ อีกอย่าง...มันก็...ยังไม่ค่อยเสร็จสมบูรณ์เท่าไหร่” ทิโมธีพยายามพูดบ่ายเบี่ยง
“อ๊ะ อ๊ะ อย่าลืมสิว่าพวกเราเป็นสมาชิกชมรมแล้วนะ” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงทวงสิทธิ์ของสมาชิกด้วยสายตาซุกซนอย่างเป็นต่อ
“อืม...ถ้าอย่างนั้น...ก็ได้พ่ะย่ะค่ะ” ทิโมธียินยอมอย่างเสียไม่ได้ “แต่กระหม่อมอยากจะขอให้พระองค์รับปากว่าจะปิดเรื่องที่เห็นในวันนี้เป็นความลับเพราะมันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ หากมีใครเข้ามาใกล้จะเป็นอันตรายเอาได้”

“ได้ เราสัญญา” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงรับปากด้วยพระพักตร์เบิกบาน

“ถ้าเช่นนั้นก็เชิญเสด็จทางนี้พ่ะย่ะค่ะ” ทิโมธีกล่าวพร้อมออกเดินนำหน้าทั้งสองนำทางลึกเข้าไปในป่า


บริเวณที่โล่งกว้างกลางป่าลึก ต้นไม้หลายต้นถูกโค่นและเผาทำลายไปบางส่วน มีเศษหินและหลุมกว้างขนาดใหญ่กระจัดกระจายไปทั่ว ใกล้กับถ้ำเล็ก ๆ ตรงบริเวณตีนผามีเกวียนขนาดใหญ่พร้อมผ้าใบสีเขียวขี้ม้าคลุมอยู่ ทิโมธีเดินไปเปิดผ้าคลุมออก ทั้งสองสาวจึงได้เห็นห่อผ้าหลายห่อขนาดต่าง ๆ กันไปสี่ห่อถูกมัดอย่างแน่นหนาวางกองเรียงกันอยู่บนเกวียน แต่มีอยู่สองห่อที่ถูกแกะไว้แล้วอย่างหลวม ๆ

“ของพวกนี้เป็นซากอารยะธรรมโบราณที่กระหม่อมพบตอนออกสำรวจโบราณสถานเก่าแก่ตามที่ต่าง ๆ บางชิ้นก็จมอยู่ในดินบางชิ้นถูกฝังไว้ในกำแพงเลย ของพวกนี้เป็นอารยะธรรมเก่าแก่ก็จริงแต่กลับมีวิวัฒนาการก้าวหน้ากว่าในยุคนี้มากทีเดียว อย่างทินทอน...กระหม่อมก็ได้เขามาจากตอนขุดค้นซากโบราณสถานแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของฟีเลเซีย” นักประดิษฐ์หนุ่มผมสีน้ำตาลแดงอธิบายไปเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันก็พยายามยกห่อผ้าที่แกะแล้วขนาดใหญ่เกือบเท่าครึ่งตัวของเขาออกมาจากเกวียนโดยมีสายตาสนอกสนใจของเจ้าหญิงเรจิน่าทอดพระเนตรสำรวจชิ้นส่วนโลหะที่โผล่ออกมานอกผ้าคลุม

“อย่างเจ้านี่” ทิโมธีเปิดผ้าคลุมออกเผยให้เห็นหุ่นยนต์รูปทรงกลมสีเทาอมเขียว ด้านหน้ามีส่วนที่ดูเหมือนเป็นกระจกใสกลม ๆ ติดอยู่หนึ่งบาน ที่ด้านหลังมีโลหะขนาดใหญ่สองแผ่นลักษณะคล้ายปีกติดอยู่

“เจ้านี่ชื่อ แอลฟ่า-เอ (Alpha-A) คงเป็นเจ้านี่ที่ทินทอนคิดว่าเป็นนก” ทิโมธีทูลยิ้ม ๆ “เดี๋ยวกระหม่อมจะสาธิตให้ทอดพระเนตรว่ามันทำอะไรได้บ้าง ฝ่าบาทมาหลบตรงนี้ก่อนดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ”

ทิโมธีให้เจ้าหญิงเรจิน่าและนางกำนัลหลบที่ปากถ้ำโดยมีเจ้าหุ่นกระป๋องทินทอนวิ่งตามเข้าไปหลบด้วยเพราะกลัวจะโดนลูกหลงอีก เมื่อทุกคนอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ทิโมธีจึงเปิดฝาที่อยู่ใต้ปีกทั้งสองของแอลฟ่า-เอขึ้นแล้วจึงกดปุ่มนู่นนี่เหมือนกำลังตั้งค่าอะไรบางอย่าง ทันทีที่นักประดิษฐ์หนุ่มกดสวิทซ์สีแดงแอลฟ่า-เอก็เหมือนกับมีชีวิต ตรงที่เป็นกระจกทรงกลมใสที่ด้านหน้ากลับกลายเป็นดวงตาของเจ้าหุ่นยนต์ ปีกทั้งสองข้างกางออกพร้อมกับพ่นไอร้อนจัดออกมา ตัวของมันค่อย ๆ ลอยขึ้นจนสูงเลยศีรษะของทิโมธี ทันใดนั้นมันก็ส่งเสียงร้องแหลมที่แสบแก้วหูจนทุกคนต้องรีบเอามือปิดหู
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)

Re: @@ นิยายSMN Epi8 Chapter 26 เหตุการณ์ประหลาดกลางป่าลึก @@

โพสต์โดย Jinger Ginger เมื่อ พฤหัสฯ. ส.ค. 20, 2009 12:31 pm

ปี๊บบบ ปี๊บบบบบบ แซ่กกกกกก ตูม!!

แอลฟ่า-เอร้องเสียงดังลั่นก่อนจะปล่อยแสงสีแดงเข้มออกจากดวงตาของมันใส่ต้นไม้ข้างหน้าจนต้นไม้ระเบิดกระจายลุกไหม้กลายเป็นจุลไปในทันที ทำเอาสองสาวตกตะลึงจนตาค้าง แล้วแอลฟ่า-เอ จึงค่อย ๆ โรยตัวลงมาและหยุดการทำงานในที่สุด

“ตอนนี้เจ้าแอลฟ่า-เอ ทำได้แค่ลอยขึ้นและปล่อยแสงเลเซอร์ แต่มันยังขับเคลื่อนไปข้างหน้าไม่ได้เลย และเสียงร้องของมันดังเกินไปเหมือนมีชิ้นส่วนบางชิ้นหายไป สงสัยคงต้องหาเวลารื้อเครื่องดูข้างในมันเสียที” ทิโมธีพูดอย่างเซ็ง ๆ บ่นพึมพำกับตัวเองแล้วจึงเดินไปที่เกวียนก้มลงอุ้มห่อผ้าที่แกะแล้วอีกห่อหนึ่งขึ้นมา ซึ่งชิ้นนี้ดูท่าทางจะมีน้ำหนักเบากว่า แอลฟ่า-เอ ทิโมธีวางมันลงบนพื้นแล้วจึงค่อย ๆ เปิดผ้าออก ใต้ห่อผ้าคลุมนั้นคือหุ่นยนต์รูปร่างประหลาดมีขาสามขายาวเป็นจะงอยเหมือนแมงมุม ลำตัวเป็นลำยาวมีดวงตาขนาดใหญ่อยู่บนปลายด้านบน ในขณะที่ปลายอีกด้านมีดวงตาที่มีขนาดเล็กกว่าติดอยู่

“ส่วนเจ้าหนูนี่ชื่อ เดลต้า-ดี (Delta-D) ” ทิโมธีแนะนำยิ้ม ๆ “เจ้าหนูนี่ดีหน่อย ไม่ร้องเสียงดังเท่าไหร่”

ทิโมธีเปิดฝาครอบด้านหลังแล้วป้อนคำสั่งลงไป ดวงตาทั้งสองของเดลต้า-ดีก็เปล่งแสงวาบขึ้นราวกับมีชีวิต ทันทีที่ทิโมธีกดปุ่มสุดท้าย เจ้าเดลต้า-ดีก็ลอยตัวขึ้นสูงบินหมุนวนอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ยิงแสงเลเซอร์ออกจากตาทั้งสองลงใส่พื้นดินไปคนละทิศละทาง

วี๊.........................ตูม!!

“เฮ้อ....เจ้าเดลต้า-ดีนี่ก็เล็งเป้าหมายไม่ได้สักที” ทิโมธีบ่น “เอา...เรามาดูเจ้าตัวนี้มั่งแล้วกัน”

ทิโมธีเดินไปที่เกวียนอีกครั้งโดยครั้งนี้อุ้มห่อผ้าชิ้นที่เล็กที่สุดออกมาอย่างระมัดระวัง ค่อย ๆ วางมันลงแล้วแกะออกมาจากห่อผ้า หญิงสาวทั้งสองจึงเห็นว่าเป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็กสีคล้ายทองเหลืองที่มีขาเพียงข้างเดียว

“เจ้านี่กระหม่อมเรียกมันว่า บอมเบอร์ แมชชีน (Bomber Machine)” ทิโมธีเปิดตรงส่วนหัวของมันออกแล้วจึงป้อนข้อมูลลงไป เพียงแค่ไม่กี่อึดใจเจ้าบอมเบอร์ แมชชีนก็กระโดดด้วยขาข้างเดียวกระโจนใส่ต้นไม้ใกล้ ๆ พร้อมกับเปิดปากขึ้น

ปุ้ง............ฟี้.............ฟี้

มีเสียงคลายกับระเบิดเบา ๆ เกิดขึ้นก่อนจะมีควันไฟกรุ่น ๆ ออกมาจากรอยต่อรอบ ๆ ตัวของเจ้าหุ่น มันยังคงกระโดดชนต้นไม้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ยอมหยุด ทิโมธีรีบวิ่งไปเปิดฝาครอบบนหัวของมันขึ้นตรวจดูข้างใน

“อืม...กระหม่อมลืมใส่ดินระเบิด ฮา ฮา ฮา” ทิโมธีแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนความสะเพร่าของตัวเอง “เจ้านี่จริง ๆ แล้วมีหน้าที่ยิงระเบิดใส่ศัตรู แต่ดูท่าทางเมื่อกี้เหมือนจะระเบิดตัวเองมากกว่า ฮา ฮา”

ทิโมธีค่อย ๆ ทยอยเก็บหุ่นยนต์โบราณทีละชิ้นอย่างระมัดระวังโดยที่ยังไม่ได้แกะห่อสุดท้ายที่อยู่บนเกวียน เจ้าหญิงเรจิน่าจึงตรัสถามขึ้น

“หมดแล้วเหรอ? แล้วอีกห่อบนเกวียนนั่นละ?”

“อืม...” นักประดิษฐ์เงยหน้ามองห่อผ้าอีกห่อบนเกวียน “จริง ๆ แล้วกระหม่อมยังมีเจ้าค๊อกคา-ซี(Cocka-C)อีกตัว แต่...พระองค์อย่าเพิ่งดูเลยดีกว่า” จู่ ๆ ทิโมธีก็เปลี่ยนใจขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ส่ายหน้าแรง ๆ

“อ้าว!ทำไมล่ะ ไหน ๆ ท่านก็ให้พวกเราดูแล้ว ก็แล้วทำไมไม่ให้ดูทั้งหมดล่ะ” นางกำนัลย้อมถาม เริ่มอยากเห็นว่าข้างในห่อผ้าจะเป็นตัวอะไร

“ยังมีอีก...แก๊ก แต่ตัวนั้นนิสัยไม่ดี ทินทอนไม่ชอบ” ทินทอนส่ายหน้าไปมาเพื่อยืนยันคำพูดของตน

“ก็อย่างที่ทินทอนบอกพ่ะย่ะค่ะ เจ้าค๊อกคา-ซีเนี่ยร้ายที่สุด วิ่งก็เร็วแถมจำหน้าใครไม่ได้เลย เดี๋ยวจะเป็นอันตรายเอาน่ะสิ” ทิโมธีสารภาพ

“ไม่เป็นไร เราคิดว่าเราวิ่งเร็วพอ” เจ้าหญิงเรจิน่าเองก็ทรงอยากจะเห็นเจ้าค๊อกคา-ซีไม่แพ้กัน

ทิโมธีลังเลใจอยู่พักใหญ่แต่ก็ยอมอุ้มห่อผ้าห่อสุดท้ายลงมาจากเกวียน เมื่อแกะผ้าออกหญิงสาวทั้งสองจึงได้เห็นหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายไก่สีแดงขลิบเงิน ทันทีที่ทิโมธีเปิดสวิทซ์ เจ้าค๊อกคา-ซีก็วิ่งไล่ทิโมธีด้วยความรวดเร็วไปทั่วบริเวณ ซึ่งทิโมธีก็รีบปีนขึ้นต้นไม้ที่ยังเหลืออยู่อย่างรวดเร็ว เจ้าค๊อกคา-ซีวิ่งพล่านไปทั่วแถมยังส่งเสียงร้องเหมือนไก่อีกด้วย

“ป๊อก ป๊อก ป๊อก กระต๊าก! ป๊อก ป๊อก ป๊อก กระต๊าก!”

ทันทีที่ร้องจบมันก็ปล่อยไข่ที่เป็นลูกเหล็กขนาดไม่ใหญ่กว่ากำมือออกมาหลายลูกเกลื่อนพื้น เพียงชั่วอึดใจเดียวไข่เหล็กเหล่านั้นก็ระเบิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันจนพื้นสะเทือน แรงระเบิดทำให้ค๊อกคา-ซีหงายท้องแต่ขาของมันยังคงวิ่งปั่นเร็วจี๋พร้อม ๆ กับเสียงร้องอย่างไก่ของมัน ทิโมธีรีบกระโดดลงมาจากต้นไม้พุ่งตัวไปปิดสวิทซ์มันทันที

“หุ่นยนต์พวกนี้เหมือนกับว่ามันเก่าจนเครื่องข้างในมันรวนหมดแล้ว กระหม่อมคงต้องใช้เวลาอีกระยะในการซ่อมแซมมัน กระหม่อมกับทินทอนถึงได้เข้ามาปักหลักกันกลางป่าอย่างนี้”

“เราเข้าใจแล้ว ถ้าเช่นนั้นเราจะสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ป่าแห่งนี้อีกจนกว่าท่านจะแก้ไขเจ้าหุ่นยนต์พวกนี้ได้เสร็จสมบูรณ์ดีมั๊ย” เจ้าหญิงเรจิน่าเสนอ

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” ทิโมธีกล่าวอย่างยินดี

เสียงฝีเท้าม้าจำนวนมากจู่ ๆ ก็ดังใกล้เข้ามาในบริเวณที่ทั้งสี่อยู่ ทิโมธีรีบอุ้มเจ้าค๊อกคา-ซีขึ้นมาพร้อมกับเอาผ้าใบคลุมไว้ ในขณะที่เจ้าหญิงเรจิน่าและนางกำนัลรีบออกมานอกถ้ำ ชั่วอึดใจเดียวขบวนองครักษ์ควบม้าเข้ามาอย่างเร็วจนฝุ่นตลบ หัวหน้าองครักษ์รีบกวาดตาดูสภาพรอบ ๆ บริเวณที่เละเทะระเนระนาดราวกับเกิดอาเพศครั้งใหญ่ เขารีบเหวี่ยงตัวลงจากหลังม้าเข้าไปหาเจ้าหญิงเรจิน่าอย่างรวดเร็ว

“ฝ่าบาทไม่เป็นอะไรใช่มั๊ยพ่ะย่ะค่ะ? พวกข้าพระองค์ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหลายครั้ง คิดว่าพระองค์อาจเกิดอันตรายจึงรีบมาอารักขา” หัวหน้าองครักษ์หันไปมองทิโมธีอย่างโกรธ ๆ ก่อนจะเลื่อนสายตาไปจับจ้องห่อผ้าใบในมือของทิโมธี เขาเดาได้ทันทีว่าการระเบิดเมื่อครู่ต้องเป็นฝีมือของนักประดิษฐ์เพี้ยนคนนี้แน่ ๆ

“ไม่มีอะไรหรอก เราสบายดีอย่างที่เจ้าเห็นนี่แหละ เอาเถอะพวกเจ้ามาก็ดีแล้วเพราะเรากำลังจะกลับไปพอดี” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงรีบตรัสกับหัวหน้าองครักษ์เพื่อไม่ให้ทิโมธีถูกสงสัยไปมากกว่านี้ “ท่านนักประดิษฐ์พวกเราคงต้องขอตัวก่อนนะ เชิญพวกท่านตามสบาย เราจะให้เจ้าหน้าที่ติดป้ายเตือนชาวบ้านแถวนี้ให้ แล้วเอาไว้พวกเราจะมาเยี่ยมท่านใหม่” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงหันไปตรัสกับทิโมธีและทินทอนพร้อมกับเหวี่ยงองค์ขึ้นหลังม้า

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท แล้วพบกันใหม่” ทิโมธีกล่าวลา

“ถวายบังคมพ่ะย่ะค่ะ เจ้าหญิง...แก๊ก” ทินทอนโค้งอย่างสวยงาม ก่อนจะโบกไม้โบกมือให้นางกำนัลเป็นการล่ำลา

เมื่อเจ้าหญิงเรจิน่าและนางกำนัลควบม้ามาไกลพอสมควรแล้วและทิ้งระยะห่างจากขบวนองครักษ์จนแน่ใจว่าไม่ได้ยินการสนทนาของทั้งสอง นางกำนัลจึงทูลถามขึ้น

“พระองค์จะทรงติดป้ายประกาศห้ามไม่ให้ใครเข้ามาในป่าแถวนี้รึเพคะ? นั่นไม่ยิ่งทำให้ใคร ๆ สงสัยเข้าไปใหญ่หรือเพคะ?”

“ไม่เป็นไร ถ้าเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านมันก็สมควรแล้ว และเราเองก็อยากให้การทดลองหุ่นยนต์พวกนี้สำเร็จด้วย” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสแต่สีพระพักตร์บ่งบอกชัดเจนว่ากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่

“พระองค์ทรงมีแผนการอะไรในพระทัยรึเพคะ” นางกำนัลทูลถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้าหญิง

“ถ้าการทดลองครั้งนี้สำเร็จ...เจ้าลองคิดดูดี ๆ สิ ”เจ้าหญิงเรจิน่าทรงหันมาทอดพระเนตรนางกำนัลคนสนิทและยิ้มด้วยสายตาแพรวพราว “หุ่นยนต์พวกนี้จะมีประโยชน์ต่อฟีเลเซียขนาดไหน”

“จริงด้วยสิเพคะ หม่อมฉันไม่ได้คิดถึงประโยชน์ข้อนี้เลย” นางกำนัลทำตาโตเพิ่งจะเห็นประโยชน์ของนักประดิษฐ์เพี้ยนก็คราวนี้เอง

“เพราะเจ้าคิดแต่ว่าเขาทดลองอะไรเพี้ยน ๆ อยู่น่ะสิ” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงทำดวงเนตรโตใส่บ้างอย่างขำ ๆ “เอาล่ะ!รีบกลับกันเถอะ เราอยากจะคิดอะไรต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกสักหน่อย”

เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสจบก็เร่งฝีเท้าม้าให้เร็วขึ้นมุ่งหน้านำขบวนกลับปราสาททันทีโดยเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นภายในป่าไว้เป็นความลับที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jinger Ginger
0
 
โพสต์: 572
Cash on hand: 0.00
Medals: 1
Elder-Gold (1)


ย้อนกลับไปยัง Summoner Novel

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน