Chapter 26 เหตุการณ์ประหลาดกลางป่าลึก
กลางตลาดใหญ่ในฟีเลเซียเวลานี้คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่ออกมาจับจ่ายซื้อของ วันนี้ตลาดดูจะคึกคักเป็นพิเศษเพราะชาวเมืองต่างก็เริ่มกว้านซื้อสินค้าและอาหารเพื่อกักตุนไว้ใช้หากสงครามขยายวงกว้างขึ้น เด็กส่งสารหลายคนขี่คูกาโร่วิ่งไปตามถนนพร้อมแผ่นพับหอบใหญ่ในกระเป๋าหนังสีน้ำตาล พลางร้องตะโกนเสียงดัง
“ข่าวด่วนครับ ชาวเมืองวอลเนียถูกทหารปีศาจฆ่าล้างเมือง”
“ข่าวด่วนจากเมืองวอลเนียครับ ท่านบิชอปเกรเกอรี่อัญเชิญอัศวินสวรรค์ทำลายกองทัพปีศาจที่เมืองวอลเนียจนราบเป็นหน้ากลองในพริบตา”
บรรดาเด็ก ส่งสารวิ่งไปตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ ซึ่งจะมีป้ายแผ่นไม้ขนาดใหญ่ไว้สำหรับปิดประกาศต่าง ๆ พลางแปะแผ่นพับลงบนป้ายประกาศเหล่านั้น
ชาวเมืองฟีเลเซียต่างรีบไปยืนมุงที่ป้ายประกาศเพื่ออ่านเนื้อหาของข่าวสาร เพราะล้วนก็อยากจะรู้ข่าวคราวของสงคราม และอาจจะได้รับรู้ข่าวญาติพี่น้องของตนที่ไปร่วมรบกับกองทัพ ซึ่งหนึ่งในจำนวนชาวเมืองที่รุมกันอยู่นั้นก็มีสาวนามเดเปเป้รวมอยู่ด้วย เมื่อได้อ่านข่าวต่าง ๆ จนจบแล้วก็รีบตรงดิ่งไปยังร้านขายเครื่องดื่มเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก
“มาแล้วจ๊ะ โดโปโป้” เดเปเป้วิ่งเข้ามาพลางโบกมือเรียกเพื่อนสาวอย่างอารมณ์ดี เสียงพยายามกลั้นหัวเราะดังมาจากโต๊ะโดยรอบ จนทำให้หญิงสาวนามโดโปโป้อายจนหน้าแดง เธอรีบวางเงินจำนวนห้าเดนาริอันพลางลุกขึ้นยืน
“ฉันว่าเรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ เดเปเป้” ทันทีที่โดโปโป้เรียกชื่อเพื่อนสาว เสียงกลั้นหัวเราะก็แทบจะดังขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง พร้อมกับมีเสียงสำลักน้ำของใครบางคนด้วย โดโปโป้อายจนหน้าแดงไปถึงหูก่อนจะรีบจูงเดเปเป้เดินจ้ำออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว
“พระองค์ทรงตั้งชื่อประหลาด ๆ อีกแล้วนะเพคะ ดูสิ...เขาขำกันใหญ่เลย” โดโปโป้พูดเสียงเบาพลางหันไปมองภายในร้าน และเห็นลูกค้าในร้านหลายคนยังคงหัวเราะกันอยู่
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย นี่เราช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายความตึงเครียดในภาวะสงครามนะ” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงหัวเราะอย่างร่าเริงขำกับปฏิกิริยาของนางกำนัลคนสนิทพลางเร่งฝีเท้าเร็วขึ้น
“แล้วพระ....แล้วนั่นเธอกำลังจะไปไหนจ๊ะ” นางกำนัลรีบเปลี่ยนคำพูดเมื่อมีป้าแก่ ๆ เดินสวนมา
“ฉันจะรีบกลับบ้าน เพราะมีที่ที่น่าสนใจจะต้องไปสำรวจสักหน่อย เธอก็รีบเดินเข้าสิจ๊ะ” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสอย่างร่าเริงในขณะที่นางกำนัลนั้นเริ่มไม่ไว้ใจกับสถานที่ที่น่าสนใจของเจ้าหญิง
“น่าสนใจที่ว่านะ น่าสนใจในแง่ไหนเพคะ” นางกำนัลเร่งฝีเท้าจนทัน พลางกระซิบเสียงเบา
“เอาเถอะ เราจะอธิบายให้ฟังระหว่างทางแล้วกันจ๊ะ” เจ้าหญิงเรจิน่าตรัสเร็ว ๆ ก่อนจะเลี้ยวไปทางหลังตลาดเพื่อถอดคราบสาวชาวบ้าน กลับไปเป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ตามเดิม
ระหว่างทางที่นำไปสู่ป่าทึบบนภูเขา ขบวนเสด็จของเจ้าหญิงเรจิน่าซึ่งประกอบด้วยนางกำนัลคนสนิท และทหารรักษาพระองค์ยี่สิบนายตามเสด็จเพื่อคอยอารักขา นางกำนัลควบม้าเข้าไปใกล้ กล่าวกระซิบเหลือบมองจำนวนทหารที่ติดตามมา
“พระองค์ทรงคิดว่านำทหารรักษาพระองค์มาเพียงเท่านี้จะพอหรือเพคะ” นางกำนัลทูลถาม สีหน้าแสดงความวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไมถึงจะไม่พอล่ะ เราไม่ได้ไปออกรบสักหน่อย อีกอย่างพวกเขาก็ล้วนแล้วแต่ได้ชื่อว่ามีฝีมือดีกันทั้งนั้น แล้วเราเองก็มีฝีมือพอที่จะปกป้องตัวเองได้” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงยิ้ม พลางตรัสกระเซ้า “รวมถึงปกป้องเจ้าได้ด้วยนะ”
“ฝ่าบาทอย่างทรงล้อเล่นสิเพคะ หม่อมฉันมีหน้าที่ปกป้องพระองค์ด้วยชีวิตนะเพคะ แล้วอีกอย่างที่หม่อมฉันทูลก็เพราะว่าเรายังไม่รู้ว่าจะมีอะไรที่กลางป่าทึบนั่น” นางกำนัลยังไม่คลายความวิตก
“ก็จากในข่าวที่ปิดประกาศนั่น ก็แค่มีการระเบิดเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในเวลากลางคืน มีเสียงระเบิดบางครั้งในเวลาช่วงบ่าย ๆ มีเสียงดังแปลก ๆ ที่แหลมลึกจนลั่นป่า ทำให้ชาวบ้านหลายคนไม่กล้าออกไปล่าสัตว์ ดังนั้นเราผู้ซึ่งรับหน้าที่ดูแลความสงบสุขของฟีเลเซียชั่วคราวก็ต้องออกมาสำรวจและให้ความกระจ่างถึงที่มาที่ไปของปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นแก่บรรดาชาวบ้านสิ” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงอธิบายอย่างไม่ทุกข์ร้อน พลางทอดพระเนตรชื่นชมทิวทัศน์โดยรอบ
“ก็นั่นแหละเพคะ ไม่แน่อาจจะเป็นพวกทหารปีศาจของซาโลมแอบมาสร้างขุมกำลังในป่าลึก แล้วพวกมัน...”
“เจ้าวิตกกังวลจนเกินเหตุแล้ว” เจ้าหญิงเรจิน่าทรงยิ้มขัน ๆ “ทางที่เราไปเนี่ย อยู่คนละฟากกับสนามรบเลยนะ ไม่แน่นะว่าอาจจะเป็นแค่ภูตผีปีศาจที่ออกมาหากินในป่าลึก”
“ภูตผีปีศาจอย่างนั้นรึเพคะ ถ้าเช่นนั้นทำไมพระองค์ไม่เอานักบวชมาด้วยสักองค์สององค์ละเพคะ” นางกำนัลตัวลีบเหลียวซ้ายแลขวาอย่างหวาด ๆ ทำให้เจ้าหญิงเรจิน่าทรงหัวเราะเสียงใส